กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศเดินหน้าปั้นผู้ประกอบการ BCG นำร่องเปิดตัว BCG ฮีโร่ จำนวน 50 ราย ในกลุ่มสินค้าไลฟ์สไตล์ ก่อนผลักดันเพิ่มเป็น 500 รายในปี 65 ที่จะดึงสินค้ากลุ่มใหม่เข้ามาเพิ่ม เผยได้จัดทำแคตาลอก เล่าเรื่องราวสินค้า ผู้ประกอบการ ก่อนให้ทูตพาณิชย์นำไปช่วยขาย พร้อมจัดเจรจาจับคู่ธุรกิจออนไลน์ นำร่วมงานแสดงสินค้า พาบุกเจาะตลาดต่างประเทศ และเปิดหน้าร้านให้ขายออนไลน์
นายภูสิต รัตนกุล เสรีเริงฤทธิ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า กรมฯ ได้เดินหน้าสร้างและส่งเสริมผู้ประกอบการที่ดำเนินธุรกิจด้วยโมเดลเศรษฐกิจชีวภาพ เศรษฐกิจหมุนเวียน เศรษฐกิจสีเขียว หรือ BCG Model (Bio Circular Green Economy) เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันให้กับผู้ประกอบการไทย ให้เป็นส่วนหนึ่งของการเปลี่ยนแปลงของโลก ที่ให้ความสำคัญกับการปกป้องสิ่งแวดล้อม โดยได้ทำการคัดเลือกผู้ประกอบการเป็นฮีโร่ BCG (BCG Heroes) นำร่องจำนวน 50 ราย ในกลุ่มสินค้าไลฟ์สไตล์ และตั้งเป้าปี 2565 จะผลักดันเพิ่มเป็น 500 ราย ซึ่งจะมีผู้ประกอบการกลุ่มสินค้าใหม่ ๆ เข้ามาเพิ่ม
“กลุ่มผู้ประกอบการทั้ง 50 รายนี้ เป็นกลุ่มที่มีการปรับตัวได้ตามเทรนด์ของโลก และยังสอดคล้องกับวาระแห่งชาติ ที่มุ่งสนับสนุนเศรษฐกิจ BCG และนโยบายของกรมฯ เอง ก็ให้ความสำคัญกับการผลักดันให้มีผู้ประกอบการในกลุ่มนี้เพิ่มขึ้น เพราะเทรนด์โลกมาแบบนี้ การผลิตสินค้าก็ต้องมุ่งไปทางนี้ มันเป็นอะไรที่ใหม่ แต่ถ้าเราทำได้ ก็จะช่วยสร้างโอกาสทางการค้าได้อีกมาก เพราะโลกให้ความสำคัญกับการปกป้องโลกร้อน ปกป้องสิ่งแวดล้อม ถ้าผลิตสินค้าได้ตอบโจทย์ โอกาสก็จะยิ่งมาก”นายภูสิตกล่าว
นายภูสิตกล่าวว่า สำหรับแผนการสนับสนุนกลุ่มผู้ประกอบการ BCG กรมฯ ได้ดำเนินการจัดทำ E-catalogue (ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่https://www.thaigroove.com/bcgheroes) เพื่อเล่าเรื่องราวของผู้ประกอบการ ตัวสินค้า เพื่อเป็นแรงบันดาลใจให้ผู้ประกอบการรายอื่นได้นำไปใช้ และใช้เป็นแคตาลอกให้ทูตพาณิชย์ที่ประจำอยู่ในประเทศต่าง ๆ 58 แห่ง ได้นำไปเสนอให้กับลูกค้า โดยเฉพาะลูกค้าในยุโรป สหรัฐฯ ที่ให้ความสำคัญกับการปกป้องสิ่งแวดล้อม
นอกจากนี้ กรมฯ ยังจะช่วยเหลือผู้ประกอบการ ด้วยการจัดกิจกรรมเจรจาจับคู่ธุรกิจออนไลน์ ให้ทูตพาณิชย์เชิญผู้ซื้อ ผู้นำเข้ามาเจรจาธุรกิจกับผู้ประกอบการของไทย นำเข้าร่วมงานแสดงสินค้าทั้งในและต่างประเทศ และในปี 2565 จะนำไปบุกเจาะตลาดที่ให้ความสำคัญกับประเด็นด้านสิ่งแวดล้อม หรือเป็นเวทีที่มีการหยิบยกประเด็นสิ่งแวดล้อม เช่น ตลาดยุโรป เน้นสหราชอาณาจักร เนเธอร์แลนด์ ตลาดออสเตรเลีย และตลาดเกาหลี เป็นต้น
ขณะเดียวกัน ได้เตรียมจัดทำแพลตฟอร์มสำหรับขายสินค้า BCG เป็นการเฉพาะ ซึ่งจะอยู่ใน Thaitrade.com เพื่อแนะนำสินค้าและเปิดโอกาสจำหน่ายออกสู่ต่างประเทศทางออนไลน์ และยังจะนำแคตาลอกไปไว้ในหน้าร้าน TOPTHAI Store ที่ปัจจุบันมีเปิดใน Tmall.com และ Tmall Global ของจีน , Bigbasket.com ของอินเดีย, Amazon.com ของสิงคโปร์และสหรัฐฯ , Klangthai.com ของกัมพูชา และ Blibli.com ของอินโดนีเซีย เพื่อเพิ่มโอกาสในการขายอีกทางหนึ่ง
ทางด้านการประชาสัมพันธ์สินค้า BCG กรมฯ จะจัดทำแคมเปญ BCG : Be the ChanGe เป็นการเล่นคำว่า BCG เชิญชวนให้ทุกคนหันมาเปลี่ยนแปลงเพื่อโลกที่ดีกว่า ไม่ฝากความหวังไว้กับใคร แต่เริ่มได้ที่ตัวคุณ โดยมีเป้าหมายที่จะสื่อสารกระตุ้นการมีส่วนร่วมทั้งในประเทศ และเผยแพร่ไปในต่างประเทศผ่านทูตพาณิชย์ ตลอดจนองค์กรพันธมิตรต่าง ๆ ของกรมฯ
สำหรับสินค้าในกลุ่ม BCG เป็นการผลิตสินค้าที่ใช้วัตถุดิบจากเศษเหลือ การเพิ่มมูลค่าให้กับวัตถุดิบฐานชีวภาพ กระบวนการผลิตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ตลอดจนการออกแบบให้มีการใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่า เป็นต้น และปัจจุบัน ตามเป้าหมายวาระแห่งชาติ ต้องการเพิ่มสัดส่วนมูลค่า GDP ของ BCG จาก 21% เป็น 24% ภายใน 5 ปี จาก 3.4 ล้านล้านบาท ในปี 2563 เป็น 4.4 ล้านล้านบาท ในปี 2568 โดยมีสินค้าและบริการในกลุ่ม BCG ได้แก่ เกษตรและอาหาร สุขภาพและการแพทย์ พลังงาน วัสดุ และเคมีชีวภาพ การท่องเที่ยวและเศรษฐกิจสร้างสรรค์
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น