“จุรินทร์”หารืออุปทูตสหรัฐฯ โชว์ขับเคลื่อนนโยบาย BGC Model เตรียมดันเป็นวาระสำคัญในการประชุมเอเปกปีหน้า พร้อมขอช่วยประสานปลดไทยออกจากบัญชี WL จัดประชุม TIFA ส่งเสริมการค้า การลงทุนสองฝ่าย ด้านสหรัฐฯ แจ้งข่าวดี ไฟเขียวไทยส่งออก “ส้มโอ” ได้แล้ว แย้มสนใจลงทุนรถยนต์ EV อนาคตจะมีอีกหลายยี่ห้อเข้ามา หลังฟอร์ดมาแล้ว
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังนายไมเคิล ฮีธ อุปทูตสหรัฐฯ รักษาการเอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ประจำประเทศไทย เข้าเยี่ยมคารวะ ว่า ในการหารือครั้งนี้ ได้แจ้งสหรัฐฯ ว่า ไทยให้ความสำคัญกับการเดินหน้าขับเคลื่อนเศรษฐกิจแบบผสมผสาน โดยเฉพาะการใช้ BCG Model (Bio-Circular-Green Economy Model) ในการขับเคลื่อน โดยไทยจะชู BCG Model ในการประชุมเอเปกที่ไทยจะเป็นเจ้าภาพปีหน้า ซึ่งสหรัฐฯ พร้อมที่จะสนับสนุน
ทั้งนี้ ยังได้หารือเรื่องทรัพย์สินทางปัญญา ซึ่งไทยแจ้งว่าได้จับมือกับสำนักผู้แทนการค้าแห่งสหรัฐฯ (USTR) ขับเคลื่อนแผนดำเนินการด้านทรัพย์สินทางปัญญาร่วมกันเป็นระยะเวลายาวนาน และมีความคืบหน้าเป็นรูปธรรมในการพัฒนาทรัพย์สินทางปัญญา ทั้งการปกป้องและการบังคับใช้กฎหมายทรัพย์สินทางปัญญา ซึ่งสหรัฐฯ ได้ปลดไทยจากบัญชีจับตามองเป็นพิเศษ (PWL) เป็นจับตามอง (WL) และขอให้ท่านอุปทูตประสานไปยัง USTR ให้ปลดไทยจากบัญชี WL ต่อไป ซึ่งจะมีการพิจารณาเร็ว ๆ นี้
ขณะเดียวกัน ไทยและสหรัฐฯ เห็นตรงกันว่า ทั้งสองฝ่ายสามารถหารือ เพื่อสนับสนุนการค้า การลงทุน ในเชิงลึกระหว่างกันได้ ผ่านเวทีคณะมนตรีภายใต้กรอบความตกลงการค้าและการลงทุนไทย – สหรัฐฯ (TIFA) ซึ่งไทยได้เป็นเจ้าภาพการประชุมเมื่อ 2 ปีที่แล้ว และได้แจ้งว่าอยากเห็นสหรัฐฯ เป็นเจ้าภาพการประชุมในปีหน้า เพื่อส่งเสริมมูลค่าการค้าการลงทุนระหว่างกันต่อไป
“ในการหารือครั้งนี้ ยังมีข่าวดีสำหรับเกษตรกรไทย โดยสหรัฐฯ แจ้งว่า ได้อนุญาตให้ส้มโอจากไทยสามารถส่งออกไปสหรัฐฯ ได้แล้ว ตั้งแต่วันที่ 10 พ.ย.2564 ที่ผ่านมา และยังแจ้งว่าสหรัฐฯ ให้ความสำคัญกับการลงทุนเรื่องการผลิตยานยนต์ไฟฟ้า (EV) โดยในอนาคตจะมีอีกหลายยี่ห้อที่จะเข้ามาลงทุนในไทย ซึ่งเมื่อเร็ว ๆ นี้ ฟอร์ด ได้เข้ามาลงทุนในไทยแล้ว มูลค่า 950 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 3 หมื่นล้านบาท”นายจุรินทร์กล่าว
ปัจจุบัน สหรัฐฯ เป็นคู่ค้าอันดับ 3 ของไทย รองจากจีน และญี่ปุ่น มูลค่าการค้าระหว่างไทย-สหรัฐ เฉลี่ยปีละประมาณ 5 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ และในช่วง 10 เดือนของปี 2564 (ม.ค.-ต.ค.) ไทยส่งออกไปสหรัฐฯ มูลค่า 34,137 ล้านเหรียญสหรัฐ (1.066 ล้านล้านบาท) เพิ่มขึ้น 20.05% โดยไทยได้ดุลการค้ามูลค่า 22,270 ล้านเหรียญสหรัฐ (691,247 ล้านบาท) ได้ดุลเพิ่มขึ้น 43.36% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
สำหรับการหารือกับอุปทูตสหรัฐฯ ในครั้งนี้ มีนางมัลลิกา บุญมีตระกูล มหาสุข ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ นายบุณย์ธีร์ พานิชประไพ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ นายวุฒิไกร ลีวีระพันธุ์ อธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญา นายภูสิต รัตนกุล เสรีเริงฤทธิ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ และนายรณรงค์ พูลพิพัฒน์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า เข้าร่วม
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น