ส่งออกต.ค.64 โตต่อ เพิ่ม 17.4% คาดทั้งปีได้ลุ้นบวก 15-16% ทะลุเกินเป้า 4 เท่า - ข่าวเด่นวันนี้ | Today Highlight News

Breaking

Home Top Ad

Post Top Ad

วันเสาร์ที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2565

ส่งออกต.ค.64 โตต่อ เพิ่ม 17.4% คาดทั้งปีได้ลุ้นบวก 15-16% ทะลุเกินเป้า 4 เท่า

img

ส่งออกต.ค.64 โตต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 8 ติดต่อกัน ทำได้มูลค่า 22,738.7 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่ม 17.4% ยอดรวม 10 เดือน มีมูลค่า 222,736.4 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่ม 15.7% เปิดโพยสินค้าโตแรง ลำไย ยางพารา ข้าว มันสำปะหลัง น้ำตาลทราย ผลไม้ อาหารสัตว์เลี้ยง สินค้าเกี่ยวเนื่องน้ำมัน เหล็ก อัญมณี แผงวงจรไฟฟ้า รถยนต์ คาดทั้งปีจะโตสูงถึง 15-16% เกินกว่าเป้า 4 เท่าตัว  
         
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า การส่งออกเดือนต.ค.2564 มีมูลค่า 22,738.7 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 17.4% ขยายตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 8 นับตั้งแต่มี.ค.2564 และคิดเป็นเงินบาทมีมูลค่า 750,016 ล้านบาท การนำเข้ามีมูลค่า 23,108.9 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 34.6% ขาดดุลการค้ามูลค่า 370.2 ล้านเหรียญสหรัฐ และยอดส่งออกรวม 10 เดือนของปี 2564 (ม.ค.-ต.ค.) มีมูลค่า 222,736.4 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 15.7% คิดเป็นเงินบาท มีมูลค่า 6,952,186 ล้านบาท การนำเข้ามีมูลค่า 221,089.8 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 31.3% เกินดุลการค้า 1,646.6 ล้านเหรียญสหรัฐ
         
สำหรับการส่งออก พบว่า กลุ่มสินค้าเกษตร เพิ่มขึ้น 22.5% ขยายตัวต่อเนื่อง 12 เดือน โดยสินค้าสำคัญที่ส่งออกได้เพิ่มขึ้น เช่น ลำไยสด เพิ่ม 97.7% ขยายตัว 5 เดือนต่อเนื่อง หลังจากเคยกังวลเมื่อช่วงต้นปี ที่มีปัญหาการส่งออก ยางพารา เพิ่ม 51.7% ขยายตัว 13 เดือนต่อเนื่อง ข้าว เพิ่ม 33.7% ขยายตัว 3 เดือนต่อเนื่อง ผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง เพิ่ม 29.5% ขยายตัว 12 เดือน มะม่วงสด เพิ่ม 27% ขยายตัว 9 เดือนต่อเนื่อง
         
กลุ่มอุตสาหกรรมการเกษตร เพิ่มขึ้น 13.5% ขยายตัวต่อเนื่อง 8 เดือน สินค้าสำคัญที่เพิ่ม เช่น น้ำตาลทราย เพิ่ม 111.6% ผลไม้สดแช่เย็นแช่แข็ง แห้ง กระป๋องและแปรรูป เพิ่ม 28.7% และอาหารสัตว์เลี้ยง เพิ่ม 14.4% ขยายตัวมา 25 เดือนต่อเนื่อง ถือเป็นสินค้าดาวรุ่งที่รุ่งมาต่อเนื่อง
        
สินค้าอุตสาหกรรม เพิ่มขึ้น 13.9% ขยายตัวต่อเนื่อง 8 เดือน สินค้าสำคัญที่เพิ่มขึ้น เช่น สินค้าเกี่ยวเนื่องกับน้ำมัน เพิ่ม 67.3% ขยายตัว 9 เดือนต่อเนื่อง เหล็ก เพิ่ม 35.9% ขยายตัว 11 เดือนต่อเนื่อง อัญมณีและเครื่องประดับ เพิ่ม 20.6% ขยายตัว 8 เดือนต่อเนื่อง แผงวงจรไฟฟ้า เพิ่ม 18.6% ขยายตัว 11 เดือน และรถยนต์อุปกรณ์และส่วนประกอบ เพิ่ม 10.3% ขยายตัว 12 เดือนต่อเนื่อง
         
ทางด้านตลาดส่งออกที่มีตลาดขยายตัวสูง 10 ตลาด ได้แก่ รัสเซียและ CIS ซึ่งเป็นตลาดใหม่ เพิ่ม 78.8% เอเชียใต้ เป็นตลาดใหม่ทั้งอินเดีย ศรีลังกา บังคลาเทศ เพิ่ม 50.4% อาเซียน 5 ประเทศ เพิ่ม 39.7% แอฟริกา เป็นตลาดใหม่เป้าหมายที่จะไปบุก เพิ่ม 38.8% ตะวันออกกลาง เพิ่ม 33.2% เกาหลีใต้ เพิ่ม 30.6% CLMV เพิ่ม 19.8% สหรัฐฯ เพิ่ม 16.1% จีน เพิ่ม 14.1% และลาตินอเมริกา เพิ่ม 14.1%
         
นายจุรินทร์กล่าวว่า ปัจจัยสำคัญที่ทำให้ตัวเลขเดือนต.ค.เป็นบวก มาจากการดำเนินการตามแผนการส่งออกของกระทรวงพาณิชย์อย่างต่อเนื่อง และผลักดันการส่งออกเป็นรายสินค้า เช่น มันสำปะหลัง การเดินหน้าตามแผนงานยุทธศาสตร์ที่กำหนดไว้ คือ รักษาตลาดเดิม เพิ่มตลาดใหม่ ฟื้นฟูตลาดเก่า เศรษฐกิจการค้าโลกมีการเติบโตต่อเนื่อง ค่าเงินบาทที่อ่อนค่าในเดือนต.ค. อ่อนสุดในรอบ 4 ปี และราคาน้ำมันดิบที่เพิ่มสูงขึ้น ส่งผลให้สินค้าเกี่ยวเนื่องส่งออกได้มูลค่าเพิ่มขึ้น
         
ทั้งนี้ ปัจจุบันการส่งออกรวม 10 เดือน เพิ่มขึ้น 15.7% และทั้งปี ประเมินว่าจะขยายตัว 15-16% มีความเป็นไปได้ เกินไปจากเป้า 4 เท่าตัว โดยหากเพิ่มขึ้น 15% มูลค่าทั้งปีจะทำได้รวม 266,379 ล้านเหรียญสหรัฐ และเพิ่ม 16% จะทำได้มูลค่ารวม 268,696 ล้านเหรียญสหรัฐ ส่วนเป้าหมายการส่งออกในปี 2565 จะมีการประชุม กรอ.พาณิชย์ เพื่อประเมินสถานการณ์ และจากนั้นจะมีการประเมินเป้าหมายอีกครั้ง 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Post Bottom Ad