สินค้าเกษตรแนวโน้มดีขึ้น - ข่าวเด่นวันนี้ | Today Highlight News

Breaking

Home Top Ad

Post Top Ad

วันเสาร์ที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2565

สินค้าเกษตรแนวโน้มดีขึ้น

img

ได้มีโอกาสพูดคุยกับ “นายวัฒนศักย์ เสือเอี่ยม อธิบดีกรมการค้าภายใน” ถึงทิศทาง “ราคาสินค้าเกษตร” นับจากนี้ไป จะเป็นอย่างไร
         
นายวัฒนศักย์ บอกว่า “แนวโน้มเป็นขาขึ้น
         
ก่อนฉายภาพให้เห็นเป็นรายตัว

เริ่มจาก “ข้าวเปลือก” ตอนนี้ราคาขยับขึ้นมาตันละ 8,100-8,200 บาท จากเดิม 7,800-7,900 บาทต่อตัน
         
สาเหตุที่ราคาข้าวขยับขึ้น ส่วนหนึ่งเข้าสู่ “หน้าหนาว” ไม่มีฝน ทำให้ข้าวแห้ง ความชื้นลดลง และยังได้รับผลดีจากการประสานโรงสี “เปิดจุดรับซื้อข้าว” ที่ตอนนี้มีกว่า 100 จุดใน 60 จังหวัด
         
ก็เลยมีการแย่งกันซื้อข้าว  
         
ส่วนการส่งออกข้าวที่เคย “ชะลอตัว” จากการขาดแคลน “ตู้คอนเทนเนอร์-เรือขนสินค้า” ตอนนี้ปัญหาหมดไปแล้ว ทิศทางเริ่มดีขึ้นชัดเจน
         
ขณะที่มาตรการเร่งระบาย “ข้าวที่คุณภาพไม่ดี” ได้ทำโครงการจับคู่ช่วย “หมู-ข้าว” ตามนโยบาย “นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์
         
ช่วยทีเดียว 2 เด้ง ช่วยให้ผู้เลี้ยงหมูลดต้นทุน ได้ข้าวไปทำอาหารสัตว์ ช่วยชาวนาได้ขายข้าว
         
ก่อนหน้านี้ จับคู่ไปแล้ว 5 หมื่นกว่าตัน มูลค่ากว่า 530 ล้าน กำลังจับคู่เพิ่มอีกเกือบ 4 หมื่นตัน
         
อีกนิดเดียว ก็จะถึงเป้าที่นายจุรินทร์ตั้งไว้ที่ 1.5 แสนตัน
         
จากสถานการณ์ ณ ตอนนี้ พูดได้ว่า “ราคาข้าวได้พ้นจุดต่ำสุด” ไปแล้ว และกำลังจะเป็นขาขึ้น
         
ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์” น่าจะยืน “ราคาสูงกว่าประกันรายได้” ไปยาว ๆ เพราะสินค้าเกษตรทดแทนอย่าง “ข้าวบาร์เลย์” ยังมีราคาสูง ราคาข้าวโพดตลาดโลก ก็ทรงตัวอยู่ในระดับสูง 
         
เป็นตัวที่ดูแล้ว “ไม่น่าห่วง” 
         
ปาล์มน้ำมัน” ไม่มีปัญหาราคามานาน ตอนนี้ราคากิโลกรัม (กก.) ละ 9.10 บาท ถือว่า “สูงมาก
         
ทิศทาง ต้องดูสถานการณ์ผลผลิตที่กำลังจะออกช่วงเดือน ก.พ.-มี.ค.2565 ว่าจะเป็นอย่างไร เพราะแนวโน้มผลผลิตเพิ่มจากเดิมพอสมควร 
         
แต่ประเมินแล้วก็ “ไม่น่าห่วง” เช่นกัน โดยราคาน่าจะยังสูงกว่าประกันรายได้
         
มันสำปะหลัง” ตอนนี้ ราคายืนอยู่ในระดับ กก. ละ 2.55-2.75 บาท สูงกว่าราคาที่ประกันรายได้ มองว่า ราคาน่าจะทรงตัวอยู่ในระดับนี้ต่อไป
         
เพราะยังมีความต้องการนำไปใช้ทำ “ไบโอดีเซล” แม้ตอนนี้ จะปรับลดเกรดน้ำมันดีเซลเหลือแค่ B7 เกรดเดียวก็ตาม และยังมีความต้องการจากอุตสาหกรรมอาหารสัตว์และแป้งมันเพิ่มขึ้น
         
ยางพารา” มีทิศทางราคาปรับตัวดีขึ้น ตอนนี้ “ยางก้อนถ้วย” อยู่ที่กก.ละ 24.75 บาท “ยางแผ่นดิบ” กก.ละ 55-56 บาท “น้ำยางสด” กก.ละ 60.50 บาท
         
บางตัวราคาเกินที่ประกันรายได้แล้ว
         
ขณะที่ทิศทางการใช้ยางพารา ก็ดีขึ้นต่อเนื่อง มีความต้องการนำไปใช้ผลิต “ถุงมือยาง” แล้วถ้าอุตสาหกรรมยานยนต์ฟื้นตัว ก็ยิ่งเพิ่มการใช้    
         
สรุปตอนนี้ ประกันรายได้พืชเกษตร 5 ชนิด มีข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ มันสำปะหลัง ปาล์มน้ำมันที่ไม่ต้องจ่ายเงินส่วนต่าง ส่วนยางพารา ก็จ่ายแค่บางชนิด ขณะที่ข้าว ยังจ่ายอยู่ แต่ราคาเริ่มดีขึ้น ยอดการจ่ายลดลง  
         
สำหรับ “ผลไม้” ตอนนี้นายจุรินทร์ได้เคาะ 17 มาตรการดูแลผลไม้ปี 2565 ไว้แล้ว
         
โดย “กรมการค้าภายใน” ได้เตรียมมาตรการตามนโยบาย ทั้ง “การสนับสนุนกล่องใส่ผลไม้” ให้เกษตรกร การดึงปั๊มน้ำมัน “ปตท.-บางจาก-พีที” มาช่วยซื้อผลไม้ ตอนนี้มีอีกหลายปั๊ม ที่ติดต่อขอเข้ามาร่วมเพิ่ม
         
แล้วยังได้เตรียม “รถโมบาย” นำผลไม้วิ่งขายช่วงที่ผลผลิตออกสู่ตลาดมาก
         
ที่เด็ดสุด “เซเว่นอีเลฟเว่น” จะเปิดพื้นที่หน้าร้านให้ “เกษตรกร-กลุ่มเกษตรกร-สหกรณ์การเกษตร” ที่ได้รับการรับรองจาก “พาณิชย์จังหวัด” นำผลไม้ไปวางขายได้แบบฟรี ๆ
         
ส่วนพืชเกษตรอื่น ๆ นายวัฒนศักย์บอกว่า มาตรการช่วยเหลือมีพร้อมอยู่แล้ว จะใช้อะไร ก็ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ขณะนั้น ๆ    
         
อย่างที่ผ่านมา การแก้ปัญหา “พริก-ฟักทอง” ภาคใต้ ได้ทำการเชื่อมโยงจากแหล่งผลิต กระจายไปขายพื้นที่อื่น นำใส่รถโมบายวิ่งขาย แบบว่า “ขายดีมาก” ไม่นานก็หมด
         
ต่อมา “กระเทียม” ภาคเหนือ ได้ใช้มาตรการเดียวกัน ก็ช่วยระบายผลผลิต ช่วยดึงราคาขึ้นมาได้
         
หากสรุปให้ชัด สินค้าเกษตร ทั้งที่อยู่ในโครงการประกันรายได้ และไม่อยู่ในโครงการประกันรายได้ กรมการค้าภายใน มีมาตรการดูแลทุกตัว
         
ตัวไหนมีปัญหา ก็พร้อมแก้ พร้อมช่วย
         
เพราะมาตรการส่วนใหญ่ ได้เตรียมการไว้ล่วงหน้าหมดแล้ว

เป็นการทำตามนโยบาย “นายจุรินทร์” ที่ลงมากำกับดูแลอย่างใกล้ชิด
         
ก่อนจบการสนทนา ถามคำถามสุดท้ายว่า ถ้าให้ประเมินตอนนี้ แนวโน้มราคาสินค้าเกษตรจากนี้ไป จะเป็นอย่างไร
         
นายวัฒนศักย์ ตอบแบบแบ่งรับแบ่งสู้ว่า ตอนนี้ทิศทาง “ดีขึ้น” ทุกตัว และอยากให้เป็น “ขาขึ้น” ต่อไป
         
ถ้าราคาดีเท่าไร เกษตรกร ก็จะมีรายได้เพิ่มมากขึ้นเท่านั้น
         
เป็นสิ่งที่อยากให้เกิดขึ้น และจะพยายามให้เกิดขึ้นให้ได้  
         
เห็นได้ถึงความ “ตั้งใจ” และ “ความพยายาม” ในการทำงานเพื่อช่วยเหลือเกษตรกร

ขอเอาใจช่วยให้ทำสำเร็จ ก็แล้วกัน    
 
ซีเอ็นเอ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Post Bottom Ad