“เฟรเซอร์สฯ” ขยายพอร์ตรีเทลเจาะกลุ่มสตาร์ทอัพ เปิดจองพื้นที่ Silom Edge แซนด์บ็อกซ์กลางเมือง รับชำระเงินด้วยคริปโตฯ - ข่าวเด่นวันนี้ | Today Highlight News

Breaking

Home Top Ad

Post Top Ad

วันพฤหัสบดีที่ 6 มกราคม พ.ศ. 2565

“เฟรเซอร์สฯ” ขยายพอร์ตรีเทลเจาะกลุ่มสตาร์ทอัพ เปิดจองพื้นที่ Silom Edge แซนด์บ็อกซ์กลางเมือง รับชำระเงินด้วยคริปโตฯ

 

“เฟรเซอร์สฯ” ขยายพอร์ตรีเทลเจาะกลุ่มสตาร์ทอัพ เปิดจองพื้นที่ Silom Edge แซนด์บ็อกซ์กลางเมือง รับชำระเงินด้วยคริปโตฯ

นางสาวธีรนันท์ กรศรีทิพา รองกรรมการผู้จัดการ สายงานพัฒนาธุรกิจรีเทล เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ คอมเมอร์เชียล (ประเทศไทย) หรือ FPCTเปิดเผยถึงกลยุทธ์แผนธุรกิจรีเทลปี 2565 ว่า ในปีที่ผ่านมา FPCT ได้ขยายขีดความสามารถในการรองรับดีมานด์ตลาดด้วยแนวคิด Fluid Approach ที่ปรับตัวตามเทรนด์อย่างรวดเร็ว โดยมุ่งเน้นการสร้างประสบการณ์ที่สดใหม่ให้แก่ลูกค้า (Customer Experience) การันตีความสำเร็จจากแคมเปญการตลาดที่เกาะกระแสนิยมแบบ Real Time ตลอดทั้งปีของ ‘สามย่านมิตรทาวน์’ จนเป็นหนึ่งในเดสติเนชันที่ต้องมาเช็คอินของคนกรุงเทพฯ สำหรับปี 2565 นี้ FPCT เตรียมเดินหน้าสร้างสีสันใหม่ให้แก่วงการธุรกิจรีเทล กับโครงการล่าสุด ‘สีลมเอจ’ (Silom Edge) ที่จะเป็นสังคมแซนด์บ็อกซ์แห่งใหม่ใจกลางกรุงเทพที่เข้าใจสตาร์ทอัพและผู้ประกอบการหน้าใหม่อย่างแท้จริง

นางสาวธีรนันท์ กล่าวว่า กลุ่ม เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ ที่ดำเนินธุรกิจอสังหาริมทรัพย์หลายหลายประเภททั่วโลก โดยมีธุรกิจรีเทลเป็นหนึ่งในธุรกิจหลักของกลุ่มฯ ครอบคลุม 4 ประเทศ ได้แก่ สิงคโปร์ ออสเตรเลีย เวียดนาม และ ประเทศไทย ด้วยการผสานประสบการณ์และความเชี่ยวชาญของ FPCT เข้ากับแนวคิดและเทรนด์การพัฒนาพื้นที่รีเทลของกลุ่มเฟรเซอร์สฯ ทำให้โครงการในพอร์ตโฟลิโอของบริษัทฯมีความแตกต่างจากโครงการของผู้พัฒนารายอื่นๆ สะท้อนได้จากแนวทางการดำเนินงานทั้ง 4 ด้าน ดังนี้

1.ลื่นไหลไปกับกระแสนิยมแบบ Real Time (Fluid Approach) การตลาดแบบทันท่วงทีคือหัวใจสู่ความสำเร็จในยุคที่ทุกอย่างเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา การปลดล็อคข้อจำกัดและรูปแบบการดำเนินงานแบบเดิมๆ ทำให้สามารถเอาชนะใจลูกค้าและทำให้กลับมาใช้บริการอย่างต่อเนื่อง

2.กำหนดนิยามใหม่ในการใช้ประโยชน์จากสถานที่ (Redefine Physical Location) ด้วยการพัฒนาพื้นที่ที่เปิดกว้างและยืดหยุ่นมากยิ่งขึ้น โดยมุ่งเน้นการสร้างสเปซให้เกิดประโยชน์กับชุมชนเป็นสำคัญ ส่งเสริมบทบาทศูนย์การค้าที่เป็นเดสติเนชัน

3.ยกระดับการใช้เทคโนโลยีในพื้นที่รีเทล (Leverage Digital Technology) เตรียมรองรับการชำระค่าบริการด้วยเงินดิจิทัล เพื่อเพิ่มความสะดวกสบายและความปลอดภัยให้แก่ลูกค้า พร้อมยกระดับคุณภาพการบริการด้วยแอพพลิเคชัน MitrCare โดยล่าสุดบริษัทฯได้ร่วมมือกับ KBTG เพิ่มฟังก์ชั่นระบบจัดซื้อ หรือ E-Catalogue อำนวยความสะดวกขั้นสูงสุดให้แก่ร้านค้าตลอด 24 ชั่วโมง


4.ส่งเสริมสุขอนามัยของผู้ใช้บริการและป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 อย่างต่อเนื่อง (Hygiene and Safety Practice) ตามมาตรการ PREVENTIVE ด้วยการคงความเข้มงวดในการคัดกรองผู้ใช้บริการ ณ จุดตรวจวัดอุณหภูมิ การรักษาระยะห่างอย่างเหมาะสม การบังคับสวมหน้ากาก และการทำความสะอาดฆ่าเชื้อโรคอย่างสม่ำเสมอตามระยะเวลาที่กำหนด

นางสาวธีรนันท์ กล่าวว่าในปีนี้บริษัทฯเตรียมรุกขยายพอร์ตรีเทลด้วยโครงการใหม่ล่าสุดบนหัวมุมถนนสีลม ทำเลทองทางเศรษฐกิจ สีลมเอจ (Silom Edge) ที่เจาะกลุ่มคนรุ่นใหม่และสตาร์ทอัพโดยเฉพาะ พร้อมเป็นแพลตฟอร์มให้ทุกธุรกิจเริ่มต้นได้ง่าย ด้วยบริการที่ตอบโจทย์ ครอบคลุมทุกความต้องการ (All Inclusive Services) ปัจจุบันสีลมเอจอยู่ระหว่างการดำเนินการพัฒนาพื้นที่ และจะพร้อมเปิดให้บริการในเดือนกันยายนปีนี้ โดยพร้อมอำนวยความสะดวกแก่ผู้ใช้บริการทุกช่วงเวลา ด้วยโซนรีเทลที่ทำการเปิดตั้งแต่ 11:00 น. ถึงเที่ยงคืน และโซนพิเศษ 2 ชั้นแรกที่เปิดให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมรองรับลูกค้าที่ต้องการใช้บริการร้านอาหาร ร้านสะดวกซื้อ ร้านขายยา และเครื่องจำหน่าย

“หัวใจสำคัญสู่ความสำเร็จในยุคที่ธุรกิจต้องเผชิญหน้ากับความท้าทายและ ความไม่แน่นอน คือการทลายทุกข้อจำกัด และเตรียมพร้อมรับมือกับสถานการณ์อยู่เสมอ ด้วยการปรับกลยุทธ์และแผนการตลาดอย่างทันท่วงที จะทำให้สามารถก้าวข้ามผ่านอุปสรรคไปได้ด้วยดี นอกจากนี้ เรายังปรับการดำเนินธุรกิจแบบ B2B เป็นแบบ Partnership ที่ช่วยให้เราใกล้ชิดกับลูกค้ามายิ่งขึ้น เราจึงเข้าใจถึงปัญหาและความต้องการที่แท้จริง ทำให้สามารถนำเสนอโซลูชั่นที่ตอบโจทย์ให้แก่ลูกค้าได้เป็นอย่างดี สำหรับแผนการดำเนินธุรกิจในปี 2565 เราเชื่อมั่นว่าธุรกิจของกลุ่มฯ จะสามารถสร้างสีสันให้กับวงการรีเทลด้วยรูปแบบการให้บริการและกิจกรรมทางการตลาดที่น่าจับตามอง ซึ่งการเพิ่มโครงการใหม่อย่างสีลมเอจเข้ามาในพอร์ตรีเทล จะช่วยขยายขีดความสามารถในการรองรับดีมานด์ให้ครอบคลุมทุกกลุ่มมากยิ่งขึ้น อีกทั้งยังเป็นการเพิ่มรายได้และกระจายความเสี่ยงให้แก่บริษัทฯอีกด้วย” นางสาวธีรนันท์กล่าว

นางสาวธีรนันท์กล่าวว่า สำหรับภาพรวมการดำเนินงานของศูนย์การค้าในพอร์ตโฟลิโอของ FPCT ในช่วงปีที่ผ่านมา โดยในส่วนของสามย่านมิตรทาวน์ ถึงแม้ในปีที่ผ่านมาจะได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 ที่ยืดเยื้อ แต่ FPCT ก็ยังคงรักษาอัตราผู้เช่าไว้ในระดับสูงที่ 98% โดยหลังจากที่รัฐบาลได้ประกาศคลายล็อคดาวน์ โครงการสามย่านมิตรทาวน์ก็ได้รับการตอบรับที่ดีจากกลุ่มลูกค้า มีจำนวนผู้เข้าใช้บริการในโครงการเพิ่มขึ้นทุกวันเฉลี่ย 55,000 คน/วัน สะท้อนให้เห็นถึงความมั่นใจของลูกค้าที่มีต่อมาตรฐานความปลอดภัยของโครงการ ประกอบกับการดำเนินงานเชิงรุก หรือ Fluid Approach ซึ่งเป็นกลยุทธ์ในการดึงดูดทราฟฟิคให้กับศูนย์การค้าฯ เน้นการจับกระแสอย่างรวดเร็ว แล้วลงมือสร้างกิจกรรมทางการตลาดผ่านแคมเปญต่างๆ อย่างทันท่วงที สำหรับปี 65 นี้ สามย่านมิตรทาวน์ ก็ได้เตรียมแคมเปญใหญ่ เรียนทาวน์ เพื่อตอกย้ำการเป็นแหล่งอาหารและการเรียนรู้

ขณะที่โครงการสีลมเอจ ซึ่งเป็นโครงการมิกซ์ยูสที่จะเป็นสังคมแซนด์บ็อกซ์แห่งใหม่ใจกลางกรุงเทพ ภายในโครงการจะประกอบด้วยพื้นที่สำนักงานและรีเทล 7 ชั้น รวมพื้นที่กว่า 10,000 ตารางเมตร พร้อมโซนเปิดให้บริการถึงเที่ยงคืนทุกวัน เพื่อตอบสนองไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ที่ไม่ยึดติดกับรูปแบบเดิมๆ รองรับกลุ่มผู้ประกอบการและสตาร์ทอัพที่ต้องการทดสอบตลาดและวางจำหน่ายสินค้าผ่านแพลตฟอร์มแซนด์บ็อกซ์ด้านรีเทล ทั้งยังส่งเสริมการทำธุรกรรมในรูปแบบดิจิทัล (Cashless Society) และสนับสนุนการชำระค่าบริการด้วย คริปโตฯ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Post Bottom Ad