Sinergia Animal : สถานศึกษาในไทยเสิร์ฟอาหารจากพืชผ่านโครงการมื้อนี้ เพื่ออนาคตหวังลดการทานเนื้อสัตว์ลง 20% - ข่าวเด่นวันนี้ | Today Highlight News

Breaking

Home Top Ad

Post Top Ad

วันจันทร์ที่ 7 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2565

Sinergia Animal : สถานศึกษาในไทยเสิร์ฟอาหารจากพืชผ่านโครงการมื้อนี้ เพื่ออนาคตหวังลดการทานเนื้อสัตว์ลง 20%

 


เนื่องในวันการศึกษาสากล 24 ม.ค. ‘ซิเนอร์เจีย แอนิมอล’ หวังสถานศึกษาในไทยเสิร์ฟอาหารจากพืชผ่านโครงการมื้อนี้เพื่ออนาคต ลดการทานเนื้อสัตว์ลง 20% เพื่อส่งเสริมสุขภาพและลดผลกระทบทางสิ่งแวดล้อม

24 ม.ค. 2565 สมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ ได้มีมติให้วันที่ 24 ม.ค. ของทุกปี เป็น วันการศึกษาสากล เพื่อเน้นย้ำถึงบทบาทของการศึกษาว่าเป็น “สิทธิมนุษยชน ทรัพย์สินสาธารณะและความรับผิดชอบ ของสาธารณะ”

แม้ว่าวิชาต่างๆ อย่างคณิตศาสตร์และประวัติศาสตร์จะยังคงเป็นวิชาบังคับในหลักสูตร แต่หลายโรงเรียนและ มหาวิทยาลัยในประเทศไทยก็กำลังคิดค้นและหาวิธีสอนนักเรียนวิชาใหม่ๆ ผ่านการเข้าร่วมโครงการมื้อนี้เพื่ออนาคต โดยมีเป้าหมายคือการเสิร์ฟอาหารจากพืชในโรงอาหารอย่างน้อยหนึ่งวันต่อสัปดาห์ และการให้ความรู้แก่นักเรียน อาจารย์ และพ่อครัวเกี่ยวกับการเลือกอาหารของเราว่าส่งผลกระทบต่อโลกรอบตัวอย่างไร  รวมถึงความสำคัญของการ รับประทานอาหารเพื่อสุขภาพ

“สถานศึกษามีบทบาทสำคัญในการหล่อหลอมคนรุ่นต่อไป รวมไปถึงการแสดงตัวอย่างที่ดีที่แต่ละคนสามารถปฏิบัติ ได้จริงเพื่อสร้างความยั่งยืนมากยิ่งขึ้น” คุณจันจรี เชียรวิชัย ผู้จัดการโครงการมื้อนี้เพื่ออนาคตในประเทศไทยกล่าว

ซิเนอร์เจีย แอนิมอล องค์กรไม่แสวงหาผลกำไรซึ่งทำงานในทวีปลาตินอเมริกาและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เป็นหลัก เป็นองค์กรที่อยู่เบื้องหลังโครงการมื้อนี้เพื่ออนาคต โครงการดังกล่าวให้การสนับสนุนสถานศึกษาทั้งภาครัฐและเอกชน ที่ต้องการเข้าร่วมผ่านการให้คำแนะคำจากนักกำหนดอาหาร รวมไปถึงการจัดเวิร์คช็อปและกิจกรรมทำอาหารโดยไม่คิด ค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น “เป้าหมายของเราเรียบง่ายมาก  เราต้องการผลักดันให้สถานศึกษาจัดหาอาหารที่ทั้งเป็นมิตรต่อ สิ่งแวดล้อม และดีต่อสุขภาพมากขึ้นให้กับนักเรียนและบุคลากร ซึ่งสอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืนของ สหประชาชาติ” คุณจันจรีอธิบาย

โครงการมื้อนี้เพื่ออนาคตมีผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางมากมายให้การดูแล เช่น นักกำหนดอาหาร นักโภชนาการ และพ่อครัว ซึ่งคอยให้คำแนะนำองค์กรภาครัฐและเอกชนในการวางแผน การอบรม และให้การสนับสนุนโดยตรงในการเปลี่ยนแปลง เมนูอาหาร

นับตั้งแต่โครงการเปิดตัวในปี 2019 สถานศึกษา 17 แห่งทั่วโลกได้เข้าร่วมโครงการมื้อนี้เพื่ออนาคต และในปี 2021 โครงการก็ได้เปิดตัวในประเทศไทย โดยมีศักยภาพที่จะทดแทนมื้ออาหารเนื้อสัตว์กว่า 1.1 ล้านมื้อด้วยเมนูจากพืช ตัวอย่างเมนูใหม่คือ ต้มข่าหัวปลีและก๋วยเตี๋ยวคั่วเห็ด

“การบริโภคอาหารจากพืชเป็นหนึ่งในวิธีที่ดีที่สุดที่จะรักษาสุขภาพและโลกของเรา” คุณจันจรีกล่าว “ซึ่งเราสามารถ ทำทั้งสองอย่างได้พร้อมๆ ไปกับการเพิ่มรสชาติใหม่ๆ ผ่านมื้ออาหารที่อร่อยและถูกหลักโภชนาการตามความชื่นชอบ และวัฒนธรรมของแต่ละประเทศ”

การบริโภคผักมากขึ้นและการลดการบริโภคผลิตภัณฑ์จากสัตว์ช่วยให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นและช่วยป้องกัน ปัญหาสุขภาพเรื้อรัง ที่พบได้บ่อยอย่าง โรคหัวใจและหลอดเลือด โรคเบาหวานชนิดที่สอง และมะเร็งหลายชนิด นอกจากนี้เนื้อวัวและเนื้อไก่ยังถูกพบว่ามีความเชื่อมโยงกับ ภาวะต่างๆ ที่เกิดขึ้นได้บ่อย เช่น โรคถุงผนังลำไส้ใหญ่อักเสบ ติ่งเนื้อในลำไส้ใหญ่ หรือโรคถุงน้ำดี เป็นต้น

อาหารจากพืชไม่เพียงแต่จะดีต่อสุขภาพมากกว่า การทดแทนมื้ออาหารเนื้อสัตว์ด้วยเมนูจากพืชยังช่วยลดการปล่อย ก๊าซเรือนกระจก ป้องกันการตัดไม้ทำลายป่า รวมถึงอนุรักษ์และปกป้องแหล่งน้ำต่างๆ อย่างมีนัยสำคัญ “นี่เป็นปัจจัย สำคัญที่ช่วยบรรเทาการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ ซึ่งเป็นหนึ่งในความท้าทายที่ใหญ่ที่สุดที่เรากำลังเผชิญใน ปัจจุบัน” คุณจันจรีกล่าว

“สถานศึกษาหลายแห่งกำลังทำงานร่วมกันเพื่อสร้างรูปแบบอาหารใหม่ด้วยการนำเสนออาหารจากพืชมากขึ้น โดยมี เป้าหมายเพื่อเสริมสร้างผลประโยชน์ของมนุษยชาติและสร้างความยั่งยืนให้แก่อนาคตของโลก พร้อมๆ ไปกับการจัดหา อาหารในแบบที่ทุกคนชอบรับประทานให้กับนักเรียนและบุคลากร” คุณจันจรีกล่าว

สถานศึกษาและนักเรียนที่สนใจสามารถเยี่ยมชมและลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์ nourishingtomorrowthai.org/ เพื่อเรียนรู้ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับโครงการ

 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Post Bottom Ad