ปภังกร ลงป้องกันแชมป์เชฟรอน แชมเปียนชิพ เมเจอร์แรกแห่งปี พร้อม 7 สาวไทยร่วมบู๊ชิงกว่า 165 ล้าน
"โปรเหมียว" ปภังธร ธวัชธนกิจ พร้อมอย่างเต็มที่ในการลงป้องกันแชมป์รายการเชฟรอน แชมเปียนชิพ รายการเมเจอร์แอลพีจีเอรายการแรกแห่งปี ที่มิสชัน ฮิลล์ส คันทรี คลับ รัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา ระหว่างวันที่ 31 มีนาคม-3 เมษายน เช่นเดียวกับ "โปรจีน" อาฒยา ฐิติกุล ซึ่งเพิ่งจะคว้าแชมป์เมื่อสัปดาห์ก่อนก็เตรียมพร้อมล่าแชมป์เมเจอร์ และยังมีโปรสาวไทยอย่าง "โปรเม" เอรียา-"โปรโม" โมรียา จุฑานุกาล "โปรเมียว" ปาจรีย์ อนันต์นฤการ โปรจัสมิน สุวัณณะปุระ "โปรแหวน" พรอนงค์ เพชรล้ำ และ "โปรแจน" วิชาณี มีชัย ประชันวงสวิงกับยอดโปรสาวระดับโลก เป็นการปิดฉากการเล่นที่ไดนาห์ ชอร์ ทัวร์นาเมนท์ คอร์ส แลช่วงชิงเงินรางวัลรายการนี้ที่เพิ่มขึ้นเป็น 5 ล้านดอลลาร์หรือราว 165 ล้านบาท โดยแชมป์จะได้รับ 750,000 ดอลลาร์หรือราว 24.7 ล้าน
การแข่งขันกอล์ฟเชฟรอน แชมเปียนชิพ เมเจอร์แรกแห่งปีที่มิสชัน ฮิลส์ คันทรี คลับ รัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา ระหว่างวันที่ 31 มีนาคม-3 เมษายน 2565 ชิงเงินรางวัลรวมเพิ่มขึ้นเป็น 5 ล้านดอลลาร์หรือราว 165 ล้านบาท และแชมป์จะได้รับมากถึง 750,000 ดอลลาร์หรือราว 24,759,000 บาท ซึ่งจะเป็นการแข่งขันครั้งที่ 51 และจะเป็นการเล่นครั้งสุดท้ายที่ใช้ไดนาห์ ชอร์ ทัวร์นาเมนท์ คอร์ส เป็นสังเวียนในการแข่งขัน โดยในปีหน้าจะย้ายไปแข่งขันสนามแห่งใหม่ที่รัฐเท็กซัส ต่อไป
ปีนี้มีนักกอล์ฟสาวไทยร่วมแข่งขันทั้งหมด 8 คน มี "โปรเหมียว" ปภังกร ธวัชธนกิจ แชมป์เมื่อปีที่แล้วจะกลับไปป้องกันแชมป์ของเธอ รวมทั้ง "โปรเม" เอรียา-"โปรโม" โมรียา จุฑานุกาล "โปรจีน" อาฒยา ฐิติกุล "โปรเมียว" ปาจรีย์ อนันต์นฤการ โปรจัสมิน สุวัณณะปุระ "โปรแหวน" พรอนงค์ เพชรล้ำ และ "โปรแจน" วิชาณี มีชัย
ความเคลื่อนไหวล่าสุด ปภังกร โปรสาววัย 22 ปี มืออันดับ 14 ของโลกพร้อมอย่างเต็มที่ในการลงป้องกันแชมป์ของเธอโดยที่เธอพักการแข่งขันเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เพื่อเตรียมแข่งขันรายการนี้โดยเฉพาะ ซึ่งเธอแข่งขันรายการฮอนด้า แอลพีจีเอ ไทยแลนด์ ที่ประเทศไทย จบลงอันดับ 19 ร่วม ระหว่างวันที่ 10-13 มีนาคม ที่ผ่านมา
ผลงานในการเล่นแอลพีจีเอ ทัวร์ ปีนี้ ปภังกร ลงแข่งขัน 5 รายการติดต่อกัน ดีที่สุดอันดับ 4 ร่วม ในรายการแอลพีจีเอ ไดรฟ์ ออน แชมเปียนชิพ ที่รัฐฟลอริดา เมื่อต้นเดือนกุมภาพันธ์ และการลงเล่น เชฟรอน แชมเปียนชิพ ในปีนี้ จะเป็นการลงเล่นเป็นครั้งที่ 5 โดยเธอลงเล่นในฐานะนักกอล์ฟสมัครเล่น 2 ครั้งไม่ผ่านตัดตัวในปี 2017 ก่อนจะไปคว้ารางวัลนักกอล์ฟสมัครเล่นอันดับดีที่สุดในปี 2019 จนมาถึงปี 2020 เล่นในฐานะนักกอล์ฟอาชีพครั้งแรกจบลงอันดับ 64 ร่วม ก่อนจะมาคว้าแชมป์เมื่อปี 2021 ที่แล้ว
ปภังกร กล่าวระหว่างร่วมแถลงข่าว เมื่อวันอังคารที่ 29 มีนาคม ตามเวลาท้องถิ่นว่า "ปีที่แล้วมีแต่สิ่งดี ๆ เกิดขึ้นที่นี่ เหมียวเล่นที่นี่ครั้งแรกตอนเป็นนักกอล์ฟสมัครเล่น หากจะมองย้อนกลับไปก็มีแต่สิ่งดี ๆ มีความทรงจำเกี่ยวกับสนามนี้ สิ่งที่เหมียวทำได้เมื่อปีที่แล้ว มันเกิดขึ้นในเวลาที่ถูกต้อง และช่วงเวลาที่ถูกต้อง นี่แหละคือเกมกอล์ฟ เหมียวมีโอกาสคว้าแชมป์ในวันอาทิตย์ แต่ก็ไม่ได้คาดคิดมาก่อนเลย นี่แหละคือชีวิตเราจะไม่สามารถคาดการณ์อะไรได้ในแต่ละวัน เพราะมันมีอะไรเกิดขึ้นมากมาย และไม่ใช่อะไรที่เป็นเหมือนเดิม สำหรับปีนี้เหมียวคิดถึงทุกสัปดาห์ว่าเราเล่นเป็นอย่างไร เรียนรู้ว่าอะไรที่เรายังไม่สามารถทำได้ดีต้องเรียนรู้ และอีกอย่างเราต้องเล่นกอล์ฟให้สนุก และเหมียวก็อยากจะบอกว่าความจริงแล้วเกมของเหมียวดีกว่าเมื่อปีที่แล้ว ทุกสิ่งทุกอย่างมันดีมากกว่าเดิม สำหรับการคว้าแชมป์เมื่อปีที่แล้วก็เป็นเกียรติที่เราไปอยู่ในทำเนียบแชมป์กับนักกอล์ฟฮอลล์ ออฟ เฟม แต่ปีนี้ก็เป็นการอำลารายการนี้ แต่ก็มีเงินรางวัลเพิ่มมากขึ้น ตอนนี้เกมกอล์ฟผู้หญิงกำลังเติบโต"
"โปรจีน" อาฒยา ฐิติกุล โปรสาววัย 19 ปี จากจังหวัดราชบุรี มือ 5 ของโลกเพิ่งจะคว้าแชมป์เจทีบีซี คลาสสิก ที่คาร์ลสแบ๊ด ซึ่งอาฒยาจะลงแข่งขันรายการนี้เป็นครั้งที่ 2 โดยครั้งแรกลงแข่งขัน ในฐานะมือสมัครเล่นเมื่อปี 2018 จบลงอันดับ 30 ร่วม คว้ารางวัลนักกอล์ฟสมัครเล่นดีที่สุด และในปี 2022 ในปีนี้ เป็นครั้งที่สองที่เธอเข้าร่วม
ผลงานการแข่งขันในแอลพีจีเอ ทัวร์ "โปรจีน" อาฒยา ฐิติกุล ในฐานะรุกกี้ เล่นไป 5 รายการจบลงใน 10 อันดับแรก 3 รายการ อันดับ 4 ร่วม ในรายการเอชเอสบีซี วีเมนส์ เวิลด์ แชมเปียนชิพ อันดับ 8 ร่วม ในรายการฮอนด้า แอลพีจีเอ ไทยแลนด์ และแชมป์ ในรายการเจทีบีซี คลาสสิก
อาฒยา กล่าวเอาไว้หลังการคว้าแชมป์แรกของตัวเองว่า "การแข่งขันรายการเจทีบีซี คลาสสิก เป็นการเตรียมความพร้อมกับการเล่นรายการเมเจอร์แรกแห่งปี และมีความเชื่อมั่นมากขึ้นแล้วเพื่อไปแข่งขันกับยอดนักกอล์ฟที่ดีที่สุดในโลก ในรายการใหญ่เมเจอร์แรกแห่งปี"
ทางด้าน "โปรเม" เอรียา จุฑานุกาล อดีตมือ 1 ของโลกเจ้าของแชมป์อาชีพในแอลพีจีเอ ทัวร์ 12 รายการ รวมทั้ง 2 รายการเมเจอร์ จะร่วมแข่งขันเป็นครั้งที่ 10 โดยสถิติจบลงใน 10 อันดับแรก 5 ครั้ง จบอันดับดีที่สุดอันดับ 4 ปี 2016 และ อันดับ 4 ร่วม ปี 2018 ผลงานการเล่นในแอลพีจีเอ ทัวร์ ปีนี้แข่งขันไป 6 รายการ สถิติดีที่สุด อันดับ 17 ร่วม ในรายการเอชเอสบีซี วีเมนส์ เวิร์ล แชมเปียนชิพ ที่ประเทศสิงคโปร์
"โปรโม" โมรียา จุฑานุกาล พี่สาวของเอรียา ดีกรีแชมป์แอลพีจีเอ ทัวร์ 2 รายการ จะร่วมแข่งขันเป็นครั้งที่ 12 โดยเคยจบลง 10 อันดับแรก 2 ครั้ง ปี 2018 อันดับ 10 ร่วม ปี 2021 และผลงานการเล่นในแอลพีจีเอ ทัวร์ปีนี้ลงเล่น 6 รายการสถิติดีที่สุดอันดับ 16 ร่วม ในรายการเจทีบีซี คลาสสิก เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
"โปรเมียว" ปาจรีย์ อนันต์นฤการ แชมป์แอลพีจีเอ ทัวร์ 1 รายการจะร่วมแข่งขันเป็นครั้งที่ 3 ติดต่อกันหลังจากสองครั้งแรกนั้นจบลงอันดับ 32 ร่วม เมื่อปี 2020 และ อันดับ 28 ร่วม เมื่อปี 2021 ส่วนผลงานในแอลพีจีเอ ทัวร์ ปีนี้นับว่าดีไม่น้อยเพราะลงเล่นทุกรายการ
ใน 6 รายการแรกจบลงใน 10 อันดับแรก 2 ครั้ง อันดับที่ 8 ร่วมรายการทัวร์นาเมนท์ ออฟ แชมเปียนส์ เปิดฤดูกาล เมื่อเดือนมกราคม และจบอันดับ 4 ร่วมรายการเจทีบีซี คลาสสิก เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
"โปรแจน" วิชาณี จะร่วมแข่งขันครั้งแรกในรายการนี้ โดยที่ผลงานการแข่งขันในแอลพีจีเอ ทัวร์ปีนี้เล่นมา 5 รายการ สถิติดีที่สุดอันดับ 52 ร่วม ในรายการเกนบริดจ์ แอลพีจีเอ เมื่อเดือนมกราคม แต่ไม่ผ่านการตัดตัวรายการเจทีบีซี คลาสสิก เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
โปรจัสมิน สุวัณณะปุระ ดีกรีแชมป์แอลพีจีเอ ทัวร์ 2 รายการ จะร่วมแข่งขันเป็นครั้งที่ 8 ในรายการนี้ หลังจาก 7 ครั้งแรกนั้น ผ่านการตัดตัวแค่ 2 ครั้ง จบอันดับ 39 ร่วมปี 2014 และ อันดับ 72 ในปี 2015 ขณะที่สี่ครั้งล่าสุดไม่ผ่านการตัดตัว สำหรับผลงานการเล่นในแอลพีจีเอ ทัวร์ปีนี้ สถิติดีที่สุดอันดับ 30 ร่วมรายการแอลพีจีเอ ไดรฟ์ ออน แชมเปียนชิพ
ส่วน "โปรแหวน" พรอนงค์ เพชรล้ำ โปรสาวจากจังหวัดชัยภูมิได้สิทธิ์เข้าไปเล่นจากสิทธิ์นักกอล์ฟที่อยู่ใน 15 คะแนนสะสมเรซ ทู ซีเอ็มอี โกลบ ที่ยังไม่ได้สิทธิ์จากเงื่อนไขอื่นหลังสิ้นสุดรายการเจทีบีซี คลาสสิก ที่คาร์ลสแบ๊ด เมื่อสัปดาห์ที่แล้วทำให้เธอได้ร่วมแข่งขันเป็นครั้งที่ 12 ครั้งติดต่อกันตั้งแต่การเล่นครั้งแรกเมื่อปี 2011 สถิติดีที่สุดอันดับ 13 ร่วมเมื่อปี 2013
นอกจากนี้แล้วยังมีแชมป์เก่าของรายการนี้กลับมาร่วมแข่งขันด้วยไม่ว่าจะเป็น อี มีริม จากเกาหลีใต้แชมป์ปี 2020 โค จิน-ยอง โปรสาวจากเกาหลีใต้ มือ 1 ของโลกแชมป์เมื่อปี 2019 แพร์นิลลา เวสแบร์จ จากสวีเดนแชมป์ปี 2018 ยู โซ-ยอน จากเกาหลีใต้แชมป์ปี 2017 บริททานี ลินซีคัม จากสหรัฐอเมริกาแชมป์ 2 สมัยปี 2015 และ 2009 เล็กซี ธอมพ์สัน โปรชาวอเมริกันแชมป์ปี 2014 พัค อินบี โปรจากเกาหลีใต้ แชมป์ปี 2013 และ สเตซี ลูอิส โปรชาวอเมริกันแชมป์ปี 2011
และที่สำคัญปีนี้นักกอล์ฟที่อยู่ใน 10 อันดับแรกของคะแนนะสมโลก ร่วมแข่งขันเกือบครบขาดเพียงแค่ เนลลี คอร์ดา โปรสาวชาวอเมริกันมือ 2 ของโลกที่ถอนตัวเนื่องกำลังรักษาอาการลิ่มเลือดที่แขนยังไม่ทราบว่าจะกลับมาแข่งขันกอล์ฟได้อีกเมื่อไหร่
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น