ไรเซ่น เอ็นเนอร์ยี่ เปิดตัวผลิตภัณฑ์เซลล์แสงอาทิตย์ BIPV และ HJT ชูจุดเด่นคาร์บอนต่ำพิเศษ - ข่าวเด่นวันนี้ | Today Highlight News

Breaking

Home Top Ad

Post Top Ad

วันจันทร์ที่ 11 เมษายน พ.ศ. 2565

ไรเซ่น เอ็นเนอร์ยี่ เปิดตัวผลิตภัณฑ์เซลล์แสงอาทิตย์ BIPV และ HJT ชูจุดเด่นคาร์บอนต่ำพิเศษ


ไรเซ่น เอ็นเนอร์ยี่ เปิดตัวผลิตภัณฑ์เซลล์แสงอาทิตย์ BIPV และ HJT ชูจุดเด่นคาร์บอนต่ำพิเศษ


บริษัท ไรเซ่น เอ็นเนอร์ยี่ จำกัด (Risen Energy Co., Ltd.) ผู้ผลิตแผงเซลล์แสงอาทิตย์ชั้นนำในประเทศจีน จัดงานแถลงข่าวที่อำเภอหนิงไห่ มณฑลเจ้อเจียง เพื่อเปิดตัวผลิตภัณฑ์ล่าสุดในกลุ่มเซลล์แสงอาทิตย์ที่ผนวกเข้ากับวัสดุก่อสร้างหรือตกแต่งอาคาร (Building-Integrated Photovoltaic : BIPV) ได้แก่ ซูเปอร์ ท็อป (Super Top) และ ซูเปอร์ ไทล์ (Super Tile) ตลอดจนไฮเปอร์-ไอออน (Hyper-ion) ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ล่าสุดในกลุ่มเทคโนโลยี Heterojunction (HJT) โดยผลิตภัณฑ์ใหม่เหล่านี้ช่วยลดการใช้คาร์บอน ขณะที่เพิ่มประสิทธิภาพการผลิตพลังงานที่ดีขึ้น ซึ่งเป็นการขยายโอกาสสำหรับการพัฒนาและการใช้งานผลิตภัณฑ์ BIPV และ HJT ต่อไป

Super BIPV เป็นผู้นำในการส่งมอบหลังคา “สีเขียว”

ทุกอุตสาหกรรมในจีนต่างก้าวทะยานสู่เกณฑ์การลดคาร์บอน ตามที่รัฐบาลจีนได้ตั้งเป้าหมายการปล่อยคาร์บอนสูงสุดก่อนที่จะลดลงจนบรรลุความเป็นกลางทางคาร์บอน โดยในปี 2564 รัฐบาลได้ออกชุดนโยบายการลดคาร์บอนที่พุ่งเป้าไปที่ภาคอาคารและการก่อสร้างโดยเฉพาะ เพื่อสนับสนุนการก่อสร้างอาคารคาร์บอนต่ำและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้น และเพื่อเตรียมภาคอุตสาหกรรมนี้ให้พร้อมรับการมาถึงของยุคการปล่อยคาร์บอนสูงสุดก่อนที่จะลดลงจนบรรลุความเป็นกลางทางคาร์บอน ทั้งนี้ เพื่อตอบสนองต่อนโยบายดังกล่าวของรัฐบาล บริษัท ไรเซ่น เอ็นเนอร์ยี่ ซึ่งมีบทบาทเป็นผู้นำและผู้บุกเบิกด้านเซลล์แสงอาทิตย์ ได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์หลักสองรายการ ได้แก่ ซูเปอร์ ท็อป สำหรับหลังคาโรงงานอุตสาหกรรมและอาคารพาณิชย์ และซูเปอร์ ไทล์ สำหรับหลังคาที่อยู่อาศัย ผลิตภัณฑ์ทั้งสองบรรลุผลสำเร็จในแง่ของการผลักดันการสร้างบ้านในประเทศจีนให้เป็นมิตรและมีความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม ด้วยคุณสมบัติของผลิตภัณฑ์ที่มีความปลอดภัย เชื่อถือได้ ประหยัด ใช้งานได้หลากหลาย ติดตั้งง่าย และมีรูปลักษณ์ที่สวยงาม

คุณลักษณะเด่นของซูเปอร์ ท็อป คือวิธีการประกอบแบบใหม่สำหรับแผ่นเหล็กและแผงเซลล์แสงอาทิตย์ เพื่อให้แผงเซลล์กลมกลืนกับสีที่เป็นที่นิยมใช้ในอุตสาหกรรมเหล็กได้อย่างแนบเนียนไร้รอยต่อ และสามารถผนวกรวมเข้ากับกระบวนการก่อสร้างได้อย่างสมบูรณ์ โดยไม่ต้องมาติดตั้งเพิ่มในภายหลัง ซูเปอร์ ท็อป เป็นแผงเซลล์แบบไร้โครง มาพร้อมกระจกสองชั้น และแผ่นเวเฟอร์ขนาด 210 มม. โดยกระจกสองชั้นขนาด 210+ มม. ช่วยให้มั่นใจได้ถึงกำลังการผลิตพลังงานที่ระดับสูง ขณะที่โครงไร้ขอบช่วยป้องกันการสะสมของฝุ่นที่ด้านบนของแผง โดยเซลล์ 210+HJT ให้อัตราการผลิตไฟฟ้าเพิ่มขึ้น 7% ขณะที่แผงเซลล์ผลิตกำลังไฟ 740 วัตต์ และมาพร้อมกับระบบล็อกแบบตั้งตรง 360 องศา กันน้ำได้ และไม่มีเงาบัง ทำให้ผลิตไฟฟ้าได้เพิ่มขึ้นอีก 1.5%

ในแง่ของความสวยงาม ซูเปอร์ ท็อป มีให้เลือกแบบแผ่นเหล็กเคลือบอลูมิเนียม-สังกะสี-แมกนีเซียมหรือแผ่นเหล็กเคลือบสี และแบบเลือกสีได้เองตามความชอบของผู้ใช้งาน ด้านการติดตั้งก็ทำได้ง่ายและรวดเร็ว และสามารถติดตั้งได้เองคนเดียว ในขณะที่ลดภาระในการดำเนินการและบำรุงรักษาหลังการติดตั้ง นอกจากนี้ การออกแบบให้ผลิตภัณฑ์มีความทนทานต่อการกัดกร่อน รวมทั้งต้านทานลมและไฟได้อย่างยอดเยี่ยมนั้น ยังทำให้สามารถเว้นระยะห่างในการตรวจสอบและการบำรุงรักษาแต่ละครั้งได้นานขึ้น จึงมอบประสบการณ์การใช้งานที่ปลอดภัยและไร้กังวล

ด้านซูเปอร์ ไทล์ มาในขนาด 1817 มม. x 420 มม. พร้อมสีและรูปทรงหลากหลายที่เข้ากับระบบหลังคาบ้านได้อย่างสมบูรณ์แบบ แผงเซลล์มาพร้อมกำลังไฟสูงสุด 120 วัตต์ และการออกแบบแบบไร้ฝุ่น ซึ่งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตไฟฟ้าได้อีก 5% ซูเปอร์ ไทล์ ติดตั้งได้ง่ายและรวดเร็ว และสามารถติดตั้งได้โดยคนคนเดียวเหมือนกับซูเปอร์ ท็อป ซึ่งช่วยประหยัดต้นทุนการก่อสร้างได้ถึง 30%

ซูเปอร์ ไทล์ มีให้เลือกสองรูปแบบ ได้แก่ แบบ “ซ้อนกัน” และ “เรียงกัน” เพื่อตอบสนองความชื่นชอบที่หลากหลายของผู้ใช้งาน ต้นทุนค่าใช้จ่ายโดยทั่วไปเทียบเท่ากับระบบที่ใช้ในครัวเรือนทั่วไป และกระเบื้องมุงหลังคาที่ใช้พื้นที่เท่ากัน ด้วยต้นทุนที่ไม่แตกต่างเมื่อเทียบกับผลิตภัณฑ์รุ่นก่อน ๆ ซูเปอร์ ไทล์ ที่มีคาร์บอนต่ำ จึงตอบสนองความต้องการของตลาดในปัจจุบันได้ดีกว่า

ไฮเปอร์-ไอออน เพิ่มมูลค่าสีเขียวให้กับผลิตภัณฑ์ HJT

การควบคุมต้นทุนเป็นปัญหาที่ท้าทายมาแต่ไหนแต่ไร และจนถึงปัจจุบันก็ยังคงเป็นปัจจัยที่ขัดขวางเทคโนโลยี HJT ในการก้าวขึ้นเป็นผลิตภัณฑ์กระแสหลัก ทั้งนี้ ด้วยเทคโนโลยีชั้นนำในด้านเซมิคอนดักเตอร์ฟิสิกส์ เซมิคอนดักเตอร์แพ็กเกจจิ้ง วัสดุพื้นฐาน และการออกแบบอุปกรณ์ หลังจากการทำซ้ำหลายพันครั้ง ในที่สุด ไรเซ่น เอ็นเนอร์ยี่ ก็ได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ที่น่าภาคภูมิใจ นั่นคือ ไฮเปอร์-ไอออน ซึ่งใช้เซลล์ HJT ขนาด 210 มม. แบบแบ่งครึ่งเซลล์ 120 ไมครอน และเทคโนโลยีไมโครคริสตัลไลน์ ทำให้บรรลุประสิทธิภาพที่สูงเกิน 25.2% และจากการคำนวณโครงการขนาด 100 เมกะวัตต์ในมณฑลไห่หนาน การผลิตพลังงานระยะยาวด้วยโซลูชัน HJT มีข้อได้เปรียบในการลดต้นทุนการผลิตไฟฟ้าต่อหน่วยปรับเฉลี่ย (LCOE) ลงมากกว่า 10% และอาจมากกว่านั้นเมื่อเปรียบเทียบทั้งต้นทุนการลงทุนแบบครั้งเดียว และค่าใช้จ่ายต่อเนื่องที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการดั้งเดิม

ด้วยความก้าวหน้าของเทคโนโลยี Passivation ผลิตภัณฑ์นี้จึงมาพร้อมกับความต่างศักย์ไฟฟ้าวงจรเปิดที่สูงกว่า 750 มิลลิโวลต์ และแผ่นเวเฟอร์บางเฉียบที่มีความหนาน้อยกว่าเซลล์ TOPCon และ PERC เล็กน้อย รวมถึงเซลล์ HJT แบบบางยังมีค่าคาร์บอนต่ำกว่า PERC เกือบ 30% ทั้งนี้ การใช้โครงเหล็กอัลลอยด์ที่มีความแข็งแรงสูง ทำให้ค่าคาร์บอนฟุตพริ้นท์ของไฮเปอร์-ไอออน ลดลงจากมากกว่า 570 ต่อกิโลวัตต์ เหลือไม่ถึง 400 โดยไม่ต้องใช้วัสดุซิลิคอนพิเศษ และลดลงได้ถึงเกือบ 300 เมื่อใช้วัสดุซิลิคอนพิเศษ ซึ่งคุณสมบัติเหล่านี้เป็นที่เป็นที่ต้องการอย่างมากในกลุ่มผลิตภัณฑ์คาร์บอนต่ำพิเศษ

แผงเซลล์ HJT ของไรเซ่น เอ็นเนอร์ยี่ มีประสิทธิภาพเป็น 5 เท่าของค่ามาตรฐานที่กำหนดโดย IEC ในขณะที่ค่าคาร์บอนฟุตพริ้นท์ที่รับรองโดยหน่วยงานตรวจสอบอิสระอยู่ที่น้อยกว่า 400 ทั้งนี้ เมื่อใช้แนวทางคาร์บอนฟุตพริ้นท์ ไฮเปอร์-ไอออนอาจมีค่าพรีเมียมที่ 0.01 หยวนต่อวัตต์ ขึ้นอยู่กับราคาปัจจุบันของสิทธิในการปล่อยก๊าซเรือนกระจกของยุโรปที่ประมาณ 80 ยูโรต่อตัน

ไรเซ่น เอ็นเนอร์ยี่ มีแผนที่จะมุ่งเน้นไปที่การวิจัยผลิตภัณฑ์ในกลุ่มคาร์บอนต่ำเป็นหลัก ซึ่งรวมถึงการวิจัยและพัฒนาเพิ่มเติมเกี่ยวกับ BIPV, โครงเหล็ก และเทคโนโลยี HJT โดยมีเป้าหมายที่จะเปิดตัวผลิตภัณฑ์คาร์บอนต่ำมากขึ้น และสร้าง “จักรวาลคาร์บอนต่ำ” ของเซลล์แสงอาทิตย์ เพื่อสนับสนุนการพัฒนาที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและยั่งยืน พร้อมเร่งการเปลี่ยนผ่านสู่ยุคคาร์บอนเป็นศูนย์

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Post Bottom Ad