ผลวิจัยล่าสุดเผยตัวเลือกโปรแกรมการลงทุนเพื่อย้ายถิ่นฐานที่ดีที่สุด เพื่อรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ - ข่าวเด่นวันนี้ | Today Highlight News

Breaking

Home Top Ad

Post Top Ad

วันจันทร์ที่ 23 พฤษภาคม พ.ศ. 2565

ผลวิจัยล่าสุดเผยตัวเลือกโปรแกรมการลงทุนเพื่อย้ายถิ่นฐานที่ดีที่สุด เพื่อรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ


ผลวิจัยล่าสุดเผยตัวเลือกโปรแกรมการลงทุนเพื่อย้ายถิ่นฐานที่ดีที่สุด เพื่อรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ

ลอนดอน--18 พฤษภาคม 2565--พีอาร์นิวส์ไวร์/อินโฟเควสท์

เพื่อตอบสนองต่อคำเตือนใหม่ที่ระบุว่า โลกของเราอาจมีอุณหภูมิเพิ่มขึ้นมากกว่า 1.5 องศาเซลเซียสภายใน ปีข้างหน้า บริษัท เฮนลี่ย์ แอนด์ พาร์ทเนอร์ส (Henley & Partnersจึงร่วมมือกับบริษัท ดีป โนวเลดจ์ แอนะลิติกส์ (Deep Knowledge Analyticsเปิดตัวดัชนีการลงทุนเพื่อย้ายถิ่นฐานเพื่อรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Investment Migration Climate Resilience Indexซึ่งเป็นเครื่องมือวิเคราะห์ใหม่ที่ใช้ประเมินความสามารถของแต่ละประเทศในการรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และสำรวจตัวเลือกโปรแกรมการลงทุนเพื่อย้ายถิ่นฐานที่เปิดโอกาสให้สามารถขอสิทธิในการพำนักหรือขอสัญชาติในประเทศที่มีความสามารถในการรับมือมากกว่า ผ่านการเข้าไปลงทุนในเศรษฐกิจของประเทศนั้น ๆ ตามจำนวนที่กำหนด

การวิจัยใหม่นี้ได้พิจารณาจุดข้อมูลที่แตกต่างกันกว่า 900 จุด ครอบคลุม ตัวแปร รวมถึงปัจจัยสำคัญทั้งในส่วนของความเปราะบาง ความพร้อมในการเพิ่มการลงทุนด้านสภาพภูมิอากาศ และความสามารถทางเศรษฐกิจในการปรับตัว เพื่อสร้างคะแนนการรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของ 180 ประเทศ โดยแบ่งเป็น กลุ่ม ได้แก่ ความพร้อมระดับสูง (60 คะแนนขึ้นไปจากคะแนนเต็ม 100) ความพร้อมระดับปานกลาง (45-59.9 คะแนน) และความพร้อมระดับต่ำ (44.9 คะแนนหรือต่ำกว่า) โดยค้นพบข้อเท็จจริงที่น่ากังวลคือ ประเทศส่วนใหญ่ หรือ 142 ประเทศ ทำคะแนนอยู่ในระดับต่ำ ซึ่งพลเมืองมีความเสี่ยงสูงกว่าที่จะเผชิญกับสถานการณ์ด้านสิ่งแวดล้อมที่รุนแรง เช่น ไฟป่า เฮอริเคน คลื่นความร้อน น้ำท่วม ภัยแล้ง และพายุ ขณะเดียวกัน โครงสร้างพื้นฐานก็มั่นคงแข็งแรงน้อยกว่าและเสียหายได้มากกว่า ด้านความสามารถในการเตรียมพร้อมและตอบสนองหลังเกิดภัยพิบัติด้านสภาพภูมิอากาศก็ต่ำกว่า 

ดัชนีการลงทุนเพื่อย้ายถิ่นฐานเพื่อรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ผสมผสานข้อมูลจีดีพีของธนาคารโลก (World Bank) (ค่าเฉลี่ยจีดีพีและจีดีพีต่อหัวของแต่ละประเทศ) เข้ากับดัชนีประเทศ (Country Indexภายใต้โครงการด้านการปรับตัวระดับโลกนอเทรอดาม (Notre Dame Global Adaptation Initiative หรือ ND-GAIN) ของมหาวิทยาลัยนอเทรอดาม ซึ่งสรุปความเปราะบางของแต่ละประเทศต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และความพร้อมในการเปลี่ยนการลงทุนทางการเงิน (การเงินเพื่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ หรือ Climate Finance) ไปสู่มาตรการเพื่อรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ซึ่งการเพิ่มข้อมูลจีดีพีเข้ามาส่งผลให้การจัดอันดับความสามารถในการรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศระดับโลก (Global Climate Resilience Ranking) ของเฮนลี่ย์ แอนด์ พาร์ทเนอร์ส จึงมีการพิจารณาความสามารถทางเศรษฐกิจของแต่ละประเทศในการปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและปกป้องพลเมืองจากผลกระทบที่ร้ายแรงที่สุด

ไม่เป็นที่น่าแปลกใจว่า ประเทศที่มีคะแนนการรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศสูงสุดต่างอยู่ในซีกโลกเหนือ โดยสหรัฐอเมริกาครองอันดับ ด้วยคะแนน 70.6 ตามมาด้วยเยอรมนี (70.3), สหราชอาณาจักร (69.4), สวิตเซอร์แลนด์ (68.4) และแคนาดา (68.3) และยิ่งไม่น่าแปลกใจเลยว่า ประเทศที่มีคะแนนต่ำสุดเป็นกลุ่มประเทศในภูมิภาคแอฟริกาใต้สะฮารา โดยสาธารณรัฐชาดอยู่ในอันดับท้ายสุดที่อันดับ 136 ด้วยคะแนนเพียง 19.1 จากคะแนนเต็ม 100

ดร. ยอร์ก สเตฟเฟน (Dr. Juerg Steffenซีอีโอของเฮนลี่ย์ แอนด์ พาร์ทเนอร์ส กล่าวว่า ความวิตกกังวลเรื่องการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศมีบทบาทมากขึ้นต่อกลยุทธ์การเลือกสถานที่ในระยะยาวของนักลงทุน เจ้าของธุรกิจ และผู้ประกอบการทั่วโลก "การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศส่งผลกระทบต่อทุกแง่มุมของชีวิตเรา ดังนั้น การลงทุนในประเทศที่มีความสามารถในการรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศมากกว่า นอกเหนือจากจะได้รับสิทธิในการพำนักหรือการขอสัญชาติแล้ว ยังช่วยให้นักลงทุนได้รับสิทธิในการโยกย้ายครอบครัว สินทรัพย์ และโครงสร้างพื้นฐานสำคัญไปยังสถานที่ที่มีความสามารถในการรับมือผลกระทบจากสภาพอากาศในอนาคตมากกว่า"

ผลวิจัยระบุว่า มีเพียง 15 ประเทศทั่วโลกที่ได้คะแนนความพร้อมระดับสูง และ ประเทศในจำนวนนี้มีโปรแกรมการลงทุนเพื่อย้ายถิ่นฐาน ได้แก่ US EB-5 Immigrant Investor Program ของสหรัฐอเมริกาUK Tier 1 Innovator Visa ของสหราชอาณาจักรSwiss Residence Program ของสวิตเซอร์แลนด์ ซึ่งเฮนลี่ย์ แอนด์ พาร์ทเนอร์ส เป็นผู้ออกแบบโปรแกรมให้กับชาวต่างชาตินอกสหภาพยุโรป (non-EU) และนอกสมาคมการค้าเสรียุโรป (non-EFTA), Start-Up Visa Program ของแคนาดาBusiness Innovation and Investment Program ของออสเตรเลียLuxembourg Residence by Investment Program ของลักเซมเบิร์ก และ Italy Residence by Investment Program ของอิตาลี

ส่วนประเทศที่มีคะแนนความพร้อมระดับปานกลางนั้น มีอยู่ ประเทศที่มีโปรแกรมการลงทุนเพื่อย้ายถิ่นฐาน ได้แก่ Singapore Global Investor Program ของสิงคโปร์, Immigrant Investor Program ของไอร์แลนด์Austria Citizenship by Investment ของออสเตรียSpain Residence by Investment Program ของสเปนNew Zealand Residence by Investment Program ของนิวซีแลนด์new residence visa options ของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์Portugal Golden Residence Permit Program ของโปรตุเกส และ Turkey Citizenship by Investment Program ของตุรกี

คุณโดมินิก โวเลก (Dominic Volekประธานกลุ่มฝ่ายลูกค้ารายบุคคลของเฮนลี่ย์ แอนด์ พาร์ทเนอร์ส กล่าวว่า ทุกคนควรวางแผนระยะยาวโดยพิจารณาเรื่องการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศด้วย "ประเทศและเมืองที่มีความสามารถในการรับมือมากที่สุดจะดึงดูดบุคคลที่มีความสามารถและนักลงทุนที่กำลังมองหา "ที่หลบภัยจากสภาพภูมิอากาศ" เพื่อเตรียมพร้อมรับมือกับสิ่งที่รออยู่ข้างหน้า ถึงเวลาแล้วที่เราต้องเตรียมรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศในอนาคต หากเราต้องการลดความเสี่ยงจากผลกระทบที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ของหายนะด้านสภาพภูมิอากาศ"

อ่านข่าวฉบับเต็มได้ที่ https://www.henleyglobal.com/newsroom/press-releases/investment-migration-climate-resilience-index 


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Post Bottom Ad