เชฟ LEONOR ESPINOSA จากโคลอมเบีย คว้ารางวัล THE WORLD'S BEST FEMALE CHEF ประจำปี 2022 - ข่าวเด่นวันนี้ | Today Highlight News

Breaking

Home Top Ad

Post Top Ad

วันจันทร์ที่ 23 พฤษภาคม พ.ศ. 2565

เชฟ LEONOR ESPINOSA จากโคลอมเบีย คว้ารางวัล THE WORLD'S BEST FEMALE CHEF ประจำปี 2022




เชฟ LEONOR ESPINOSA จากโคลอมเบีย

คว้ารางวัล THE WORLD'S BEST FEMALE CHEF ประจำปี 2022


ลอนดอน--18 พ.ค.--พีอาร์นิวส์ไวร์/อินโฟเควสท์


คณะผู้จัดอันดับ The World's 50 Best Restaurants 2022 ประกาศผลผู้ชนะรางวัล The World's Best Female Chef Award สนับสนุนโดย Nude Glass โดยปีนี้ Leonor Espinosa เชฟหญิงเจ้าของร้าน Leo ในกรุงโบโกตา ประเทศโคลอมเบีย เป็นผู้คว้ารางวัลดังกล่าวไปครองได้สำเร็จ ก่อนหน้านี้เมื่อปี 2560 เชฟ Espinosa ยังเคยได้รับรางวัล Latin America's Best Female Chef มาแล้ว และกลายเป็นหนี่งในเชฟที่มีบทบาทสำคัญในโคลอมเบียจากการทุ่มเททำงานอย่างต่อเนื่อง ทั้งการนำวัตถุดิบและเครื่องปรุงรสในท้องถิ่นของโคลอมเบียมาเนรมิตเป็นเมนูอาหาร ตลอดจนเน้นย้ำถึงคุณค่าความหลากหลายทางชีวภาพและการสะท้อนมิติทางสังคมผ่านศาสตร์การทำอาหาร


ในฐานะผู้มีบทบาทสำคัญในการฟื้นฟูด้านอาหารของโคลอมเบีย เชฟ Espinosa ได้ย้ายที่ตั้งร้านและปรับเปลี่ยนคอนเซ็ปต์ร้านอาหารระดับแฟล็กชิปไปเมื่อปี 2564 จนทำให้ได้รับการโหวตอยู่ในอันดับที่ 46 ในรายชื่อ 50 ร้านอาหารยอดเยี่ยมของโลกหรือ The World's 50 Best Restaurants สำหรับร้านแห่งใหม่นั้น เชฟ Espinosa ได้รังสรรค์เมนูอาหารเลิศรส โดยใช้วัตถุดิบที่มีในโคลอมเบีย 100% แต่ละจานนั้นยังเป็นส่วนหนึ่งในการบอกเล่าเรื่องราวอาหารอันรุ่มรวยของโคลอมเบีย โดยผู้ที่มาทานจะได้สัมผัสประสบการณ์ด้านอาหารที่เน้นถึงระบบนิเวศอันหลากหลายของโคลอมเบีย รวมถึงเปิดมุมมองในการนำพืชผักที่แปลกใหม่มาใช้ในการปรุงอาหาร

ย้อไปในปี 2551 เชฟ Espinosa ได้ก่อตั้ง Funleo ซึ่งเป็นองค์กรที่ไม่แสวงหาผลกำไร ร่วมกับลูกสาว Laura Hernández-Espinosa ซึ่งเป็นหัวหน้าซอมเมลิเยร์ (Sommelier) หรือผู้แนะนำไวน์ประจำร้าน Leo โดยแม่ลูกคู่นี้ได้เผยถึงความลับของการใช้วัตถุดิบพื้นเมือง และเทคนิคที่ตกทอดสมัยบรรพบุรุษซึ่งเป็นแรงบันดาลใจเบื้องหลังเมนูที่เป็นเอกลักษณ์ประจำร้าน และทุกวันนี้ Funleo ยังคงตามหา ชุบชีวิต และเผยแพร่ขนบการทำอาหารในชุมชนชนบทและกลุ่มชาติพันธุ์ พร้อมทั้งส่งเสริมความเป็นอยู่ที่ดีและสุขภาพของคนกลุ่มนี้ โดยจัดให้มีโครงการส่งเสริมการใช้วัตถุดิบดั้งเดิมทั่วประเทศ ตลอดจนผลักดันให้กลุ่มต่าง ๆ มีอำนาจในการเข้าถึงอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการอย่างเพียงพอและเหมาะสมกับบริบททางวัฒนธรรมของตนเองตามแนวคิด Food sovereignty โดยเมนูของร้าน Leo จะระบุที่มาของวัตถุดิบแต่ละชนิด เช่น ต้นปูลันทานา (Pulantana) จากทะเลทราย, ต้นคาเคย์ (Cacay) และต้นคโนปิโอ (Cnopio) จากเทือกเขาแอนดีส

นอกเหนือจากการบริหารงานร้าน Leo และองค์กร Funleo แล้ว เชฟ Espinosa ยังได้ส่งเสริมการจัดตั้งศูนย์การทำอาหารแบบครบวงจร (Comprehensive Gastronomy Centre) ในแถบภูมิภาคอ่าวทริบูกา (Golfo de Tribugá) เพื่อเป็นทางเลือกให้กับผู้ที่ได้รับผลกระทบหรือเคยเกี่ยวข้องกับการค้ายาเสพติด นอกจากนี้ ยังได้รณรงค์เพื่อสร้างความตระหนักรู้ถึงความรุ่มรวยด้านอาหารของโคลอมเบีย ผลงานของเชฟ Espinosa จึงเป็นการส่งเสริมชุมชนให้แปรเปลี่ยนมรดกทางวัฒนธรรมของตนเองมาเป็นเครื่องมือในการพัฒนาทางเศรษฐกิจและสังคม

William Drew ผู้เป็น Director of Content for The World's 50 Best Restaurants กล่าวว่า "เชฟ Espinosa กลายเป็นหนึ่งในเชฟชาวลาตินอเมริกาที่โดดเด่นมากที่สุดคนหนึ่งในยุคสมัย เป็นผู้ซึ่งเชิดชูความหลากหลายทางชีวภาพและความหลากหลายทางวัฒนธรรมของโคลอมเบียอย่างที่ไม่เคยมีใครทำ เรารู้สึกตื่นเต้นที่ได้จารึกผลงานอันน่าทึ่งของเธอให้เป็นที่ประจักษ์"

ทั้งนี้ รางวัล Best Female Chef Award จะยังคงประกาศอย่างต่อเนื่อง เพื่อยกย่องเชฟหญิงระดับแถวหน้าแห่งวงการอาหารที่คอยจุดประกายให้กับเพื่อนร่วมอาชีพ

https://mediacentre.theworlds50best.com

   
โลโก้ - https://mma.prnewswire.com/media/1817772/50_Best_Espinosa.jpg
โลโก้ - https://mma.prnewswire.com/media/1802051/World_50_Best_2022_Logo.jpg

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Post Bottom Ad