“The Chain War สงครามระหว่าง Blockchain Layer 1 และ Layer 2” - ข่าวเด่นวันนี้ | Today Highlight News

Breaking

Home Top Ad

Post Top Ad

วันเสาร์ที่ 16 กรกฎาคม พ.ศ. 2565

“The Chain War สงครามระหว่าง Blockchain Layer 1 และ Layer 2”

The Chain War สงครามระหว่าง Blockchain Layer 1 และ Layer 2

Blockchain คือเทคโนโลยีรูปแบบใหม่ในการเก็บข้อมูล ที่โดดเด่นในเรื่องของความโปร่งใส สามารถตรวจสอบได้ จึงเริ่มมีคนนำ Blockchain มาประยุกต์ใช้ในแวดวงการเงิน ทำให้เกิดเป็น Decentralized Finance (DeFi) หรือ “การเงินแบบกระจายศูนย์” และด้วยความนิยมการใช้งานที่มากขึ้น ทำให้เหล่าผู้พัฒนา (Developer) พบปัญหาในการทำธุรกรรมบนบล็อกเชน ทั้งค่าธุรกรรมที่แพงขึ้น หรือที่คนในวงการเรียกกันว่า “ค่าแก๊ส” รวมถึงการประมวลผลมีความล่าช้า

สำหรับผู้ใช้งานบล็อกเชนจะพบว่าบล็อกเชนแรกตั้งต้น (Layer 1) ติดอยู่ในกรอบของ Blockchain Dilemma ที่มีหลักพื้นฐาน อย่างได้แก่ Security ความปลอดภัย, Scalability การขยายตัว, Decentralized การกระจายศูนย์  ซึ่ง Blockchain ที่ใช้งานอยู่ทุกวันนี้ ยังไม่สามารถเกิดองค์ประกอบพร้อมกันของ สิ่งนี้ได้ จึงทำให้มีข้อจำกัดในการนำ Blockchain มาใช้งาน ซึ่งนั่นคือจุดเริ่มต้นของ Layer 2


นางสาวฟรานเชสก้า รุสโซ่ ผู้ก่อตั้ง Crypto Meetup Thailand จึงจัดกิจกรรม Crypto, NFT & Beers คอมมูนิตี้ที่ส่งเสริมการเรียนรู้ด้านคริปโทเคอร์เรนซี (Cryptocurrency) ในหัวข้อ THE CHAIN WAR จะเกิดอะไรขึ้น เมื่อ Layer 2 ไม่ได้ดีอย่างที่คิดไว้ โดยได้รับเกียรติจาก Influencer ที่มีชื่อเสียงมาให้ความรู้ ทั้งคุณสิทธิพล พรรณวิไล หรือ “หนูเนย” เจ้าของบล็อก nuunoei.com และ Software Engineer เจ้าของผลงาน Apetimism บนเครือข่าย Optimism Chain ร่วมด้วย คุณโอ อรรณวุฒิ ลีไพศาลสุวรรณา หัวหน้าทีมบล็อกเชนจาก SCB 10นักพัฒนาผู้มากประสบการณ์ และ คุณโต๊ด นัฐพล นิมากุล CTO จากบริษัท ซาโตชิ จำกัด ผู้ให้บริการแพลตฟอร์มทางการเงินรูปแบบใหม่ภายใต้แบรนด์ “คูแลป” มาร่วมไขข้อข้องใจเกี่ยวกับ Blockchain layer 2 ว่าจะมาแก้ Pain Point Layer 1 ได้หรือไม่จะเกิดอะไรถ้า Layer 2 ไม่ได้ดีอย่างที่คิด?

เมื่อ Layer1 ไม่ได้ดั่งใจ

Ethereum แท้จริงแล้วก็เกิดมาจากแนวคิดของ Bitcoin แต่แก้ปัญหากันคนละส่วน ซึ่ง Bitcoin แก้ปัญหาเรื่องของ Cash Money โดยสร้างระบบให้สามารถส่งถ่ายเงินได้ในระดับ Global ง่ายขึ้น แบบไม่ต้องผ่านตัวกลาง แต่ด้วยความยากในเชิงการพัฒนาบางอย่างจึงทำให้เกิด Ethereum ขึ้นมานั่นเอง อีกทั้งยังมีปัญหา Blockchain Dilemma ซึ่งปกติจะทำได้แค่ 2 ใน 3 อย่าง เน้นไปที่ Security และ Decentralized แต่ Scalability จะยังไม่มี หรือพูดง่ายๆ การทำธุรกรรมจะยังช้ากว่าโอนผ่านแบงก์ในปัจจุบัน ตัว Ethereum ก็ติดปัญหานี้เช่นเดียวกัน จึงทำให้เกิดการพัฒนา Layer 2 เพื่อแก้ปัญหาในส่วนของ Scalability เพราะทีม Ethereum เองรู้ดีว่า หากจะแก้ให้สมบูรณ์ทั้ง 3 ส่วนโดยทำงานอยู่บน Layer 1 ที่เดียวนั้น จะสร้างปัญหามากกว่าผลลัพธ์ที่ดี ซึ่งมีการศึกษาและวิจัยเกี่ยวกับ Layer 2 มาตั้งแต่ปี 2016 แล้ว แต่เพิ่งสร้างให้ใช้งานได้เมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมานี้เอง

เมื่อ Layer 2 ไม่ได้เป็นอย่างที่คิด

นักพัฒนาเจ้าของผลงาน NFT อย่าง Apetimism ที่พัฒนาอยู่บนบล็อกเชน Layer 2 อย่าง Optimism ให้ความเห็นว่า จริงแล้ว Layer 2 เป็นสิ่งที่ใหม่มาก ก่อนที่จะเลือกพัฒนาโปรเจกต์บน Optimism ยอมรับว่าเคยเล่น Layer 2 อื่นๆ มาเยอะมาก แต่สุดท้ายมาชอบทีมผู้พัฒนา และคอมมูนิตี้ของ Optimism

“ต้องยอมรับว่า Layer 2 ยังมีความเสี่ยงหลายอย่าง โดยเฉพาะตอนนี้ที่ยังไม่ได้ถูกโลกตัดสินว่าเป็นผู้ชนะ และสามารถไปต่อได้ แต่ถ้ารอแล้วไม่เริ่มทำตอนที่ยังใหม่ เราอาจจะไม่ทันในช่วงที่เกิดการยอมรับอย่างแพร่หลายไปแล้ว แต่สุดท้ายถ้า Optimism ยังไม่สามารถพิสูจน์ตัวเองได้ว่าดีจริง เหมือนอย่างที่เกิดขึ้นกับ Polygon ก็พร้อมที่จะย้ายไปทำที่อื่นเช่นกัน ซึ่งในมุมของผู้พัฒนาเราต้องมีแพลนบีไว้เสมอ” หนูเนย สิทธิพล กล่าว

ไม่มี Chain ไหนที่ดีที่สุด มีแต่ Chain ไหนที่เหมาะที่สุด

แม้ว่าจุดเริ่มต้นของ Layer 2 จะเกิดจากความตั้งใจที่จะแก้ไข Pain Point ของ Layer 1 รวมถึงมีโอกาสและความน่าสนใจหลายอย่าง แต่กูรูทั้ง ท่านก็ให้ความเห็นตรงกันว่า Layer 2 แต่ยังเป็นการมาที่ใหม่อยู่ ยังต้องพึงระวังในเรื่องของการพัฒนา เพราะยังมีหลายส่วนที่อยู่ในขั้นตอนการขึ้นระบบ ในมุมของนักพัฒนาและนักลงทุน หากโปรเจกต์ดังกล่าวไม่เป็นไปได้ทางที่วาดเอาไว้ การมีแผนรองรับจึงยังเป็นสิ่งที่ควรให้ความสำคัญไม่แพ้กับการพัฒนาโปรดักซ์เช่นกัน เพราะไม่มีอะไรปลอดภัย 100 % มีแต่ที่ยังปลอดภัยอยู่ จนกว่ามันจะไม่ปลอดภัยแล้ว

สำหรับ Crypto Meetup Thailand เป็นงานที่จัดขึ้นเป็นประจำทุกเดือน  โดยครั้งต่อไปจะจัดขึ้นภายใต้หัวข้อ 13 ปีที่ผ่านมา Bitcoin ตายมาแล้วกี่ครั้ง?? และมีธุรกิจใดที่โดน Disrupt เพราะ Bitcoin??ในวันพุธที่ 27 กรกฎาคม 2565 ผู้ที่สนใจสามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ทาง  https://www.facebook.com/cryptomeetupthailand

# # # # # # # # # # # # #


About Us :

                Crypto, NFT & Beers อีกหนึ่งกิจกรรม จาก Crypto Meetup Thailand กิจกรรมของชาวคริปโทฯ ที่จัดขึ้นเป็นประจำทุกเดือน เพื่อให้ทุกท่านได้ร่วมพูดคุย แลกเปลี่ยนประสบการณ์ กับวิทยากรแถวหน้าในวงการสินทรัพย์ดิจิทัลของไทย ผู้สนใจสามารถลงทะเบียนและรับรายละเอียดกิจกรรมเพิ่มเติมได้ที่ fb.com/cryptomeetupthailand  

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Post Bottom Ad