SCB CIO แนะทยอยสะสมหุ้นสหรัฐเน้นกลุ่มHigh.Quality จากสัญญาณเงินเฟ้อใกล้ผ่านจุดสูงสุด การขึ้นดอกเบี้ยช้าลงของเฟด และผลประกอบการที่ยังเติบโตต่อเนื่อง - ข่าวเด่นวันนี้ | Today Highlight News

Breaking

Home Top Ad

Post Top Ad

วันอาทิตย์ที่ 21 สิงหาคม พ.ศ. 2565

SCB CIO แนะทยอยสะสมหุ้นสหรัฐเน้นกลุ่มHigh.Quality จากสัญญาณเงินเฟ้อใกล้ผ่านจุดสูงสุด การขึ้นดอกเบี้ยช้าลงของเฟด และผลประกอบการที่ยังเติบโตต่อเนื่อง

SCB CIO แนะทยอยสะสมหุ้นสหรัฐฯเน้นกลุ่ม High Quality จากสัญญาณเงินเฟ้อใกล้ผ่านจุดสูงสุด 

การขึ้นดอกเบี้ยช้าลงของ Fed และผลประกอบการที่ยังเติบโตต่อเนื่อง 

               SCB CIO แนะทยอยสะสมหุ้นสหรัฐฯเน้นกลุ่ม High Quality หลังเงินเฟ้อสหรัฐฯ ใกล้ผ่านจุดสูงสุด เฟดขึ้นดอกเบี้ยในอัตราที่ช้าลง คาดสิ้นปีนี้ดอกเบี้ยนโยบาย Fed อยู่ที่ระดับ 3.25 – 3.50% ส่วนผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนมีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่องและ valuation หุ้นอยู่ในระดับน่าสนใจ   

ดร. กำพล  อดิเรกสมบัติ   ผู้อำนวยการอาวุโส และหัวหน้าทีม SCB  Chief  Investment Office  (SCB CIO )  ธนาคารไทยพาณิชย์  จำกัด (มหาชน)   เปิดเผยว่า อัตราเงินเฟ้อสหรัฐฯ มีแนวโน้มทำจุดสูงสุดในช่วงไตรมาสที่ 2 นี้ และชะลอลงในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ โดยเป็นผลจากการลดลงของราคาพลังงานโดยเฉพาะน้ำมัน ปัญหาคอขวดห่วงโซ่อุปทานที่ดีขึ้น การใช้จ่ายของผู้บริโภคที่ชะลอลง จากฐานที่สูงในช่วงไตรมาส 4 / 2021 โดยอัตราเงินเฟ้อที่ชะลอลงแต่ยังอยู่ในระดับสูงนี้จะทำให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ยังส่งสัญญาณขึ้นดอกเบี้ยต่อเนื่องในปี 2022 แต่จะเป็นการขึ้นในอัตราที่ช้าลงและเป็นไปตามภาวะเศรษฐกิจมากขึ้น โดยตั้งแต่ต้นปีเฟดขึ้นดอกเบี้ยนโยบายรวมแล้ว 225 basis points (bps) และคาดว่าจะขึ้นต่ออีก 100 bps ในอีก 3 การประชุมที่เหลือของปีนี้ จะทำให้อัตราดอกเบี้ยนโยบายขึ้นสู่ระดับ 3.25 -3.50% ณ สิ้นปี 2022             

 การดำเนินนโยบายการเงินที่ตึงตัวของเฟดนับตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา ส่งผลกดดันต่อเศรษฐกิจสหรัฐฯในหลายช่องทาง เช่น การแข็งค่าของเงินดอลลาร์เทียบสกุลคู่ค้าที่กดดันการส่งออกสุทธิของสหรัฐฯ การปรับตัวลดลงอย่างมากของตลาดการเงินสหรัฐฯ ที่กดดันความมั่งคั่ง (wealth effects) และการใช้จ่ายของผู้บริโภคที่ลดลง  รวมทั้งการเพิ่มขึ้นของอัตราดอกเบี้ยจดจำนอง (mortgage rates) ที่กดดันกิจกรรมภาคอสังหาริมทรัพย์

อย่างไรก็ตาม  ความเสี่ยงภาวะเศรษฐกิจถดถอยยังคงอยู่ แต่ความรุนแรงอาจจะน้อยกว่าที่ผ่านมา  แม้เศรษฐกิจสหรัฐฯ จะอยู่ในภาวะถดถอยทางเทคนิค (technical recession)  จาก GDP (QoQ Saar) ไตรมาสที่ 1 และ 2  ในปี 2022 ที่ติดลบสองไตรมาสติดต่อกัน รวมถึงสัญญาณจากส่วนต่างอัตราผลตอบแทนพันธบัตร (bond yield) สหรัฐฯ อายุ 10 ปี และ 2 ปี ที่ยังอยู่ในภาวะ inverted yield curve  ซึ่งเป็นสัญญาณว่ามีความเสี่ยงเศรษฐกิจถดถอยในระยะข้างหน้า  แต่ตลาดแรงงานสหรัฐฯยังแข็งแกร่งและงบดุลของภาคครัวเรือนที่สะท้อนความสามารถในการชำระหนี้ยังอยู่ในระดับที่ดี  ภาคธุรกิจไม่ได้มีการก่อหนี้มากนัก และยังมีสภาพคล่องที่สูง  SCB CIO ประเมินว่าโอกาสที่สหรัฐฯ จะเข้าสู่ภาวะเศรษฐกิจถดถอยแบบรุนแรงยังมีไม่สูงมากนัก

นอกจากนี้  ผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน(บจ.)ของสหรัฐฯในไตรมาส 2  สะท้อนความสามารถในการจัดการต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้นได้   โดยผลประกอบการของบจ.ในหุ้น S&P500  โดยเฉลี่ยออกมาดีกว่าที่ตลาดคาดไว้ทั้งรายได้  อัตราการทำกำไร และกำไรสุทธิ  ขณะที่เราคาดว่าผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนในช่วงครึ่งหลังของปียังมีแนวโน้มขยายตัวต่อเนื่อง

        ทั้งนี้ มูลค่า (Valuation ) ของตลาดหุ้นสหรัฐฯ กลับมาอยู่ในระดับที่สมเหตุสมผลมากขึ้น และถือว่าเหมาะสมสำหรับการทยอยสะสมลงทุน โดย Forward P/E ของ S&P500 ปรับลดลงมาค่อนข้างมากจากช่วงต้นปี โดยขนาดการลดลงของ P/E ใกล้เคียงกับค่าเฉลี่ยการลดลงของ P/E ในช่วงที่เกิดเศรษฐกิจถดถอยในอดีต ดังนั้น ความเสี่ยงขาลงของตลาดหุ้นสหรัฐฯจึงมีค่อนข้างจำกัด และ Valuation มีโอกาสที่จะทยอยฟื้นตัวขึ้นต่อ ตาม bond yield สหรัฐฯ  อายุ 10 ปี ที่มีแนวโน้มพักฐานและทยอยลดลง หลังเฟด มีแนวโน้มทยอยปรับลดท่าทีในการดำเนินนโยบายการเงินที่เข้มงวดลง  

สำหรับกลยุทธ์การลงทุนSCB CIO มีมุมมองเป็นบวกต่อตลาดหุ้นสหรัฐฯและแนะนำทยอยลงทุน โดยมีเหตุผลประกอบดังนี้ 

1. เราคาดว่า  Bond  yield สหรัฐฯ อายุ 10 ปี มีแนวโน้มพักฐานในไตรมาส 3 /2022  และเริ่มทยอยลดลงใน ไตรมาส 4/2022 จากการที่เฟดมีแนวโน้มลดท่าทีที่ hawkish ลงในช่วงที่เหลือของปีนี้ หลังเงินเฟ้อสหรัฐฯ มีแนวโน้มทยอยลดลงต่อ ซึ่งจะส่งผลดีต่อตลาดหุ้นสหรัฐฯ โดยเฉพาะกลุ่ม Quality growth และกลุ่ม Defensive growth  เช่น  Healthcare

2. Valuation ของ S&P500 อยู่ในระดับที่สมเหตุสมผลมากขึ้น โดยตั้งแต่ต้นปี forward PE ของ S&P500 ลดลงราว 4.5 เท่า ใกล้เคียงกับค่าเฉลี่ยการลดลงของ PE ในช่วงที่เกิด recession ซึ่งอาจสะท้อนว่า PE ตลาดฯ ซึมซับบนความเสี่ยง recession ไประดับหนึ่งแล้ว ทั้งนี้ ระดับ S&P500 PE เทรดอยู่เหนือค่าเฉลี่ยระยะยาวเพียงเล็กน้อย 

3. ผลประกอบการของบจ.ใน S&P500 ประจำไตรมาส 2/2022 ส่วนใหญ่ดีกว่าที่ตลาดคาด โดย 90% ของบจ.ใน S&P500 ที่รายงานแล้ว จำนวน 75%  มี Earnings surprise +4.1% และ+8.8%YoY    ส่วนทางด้าน  Sales   63% ของบจ.ที่รายงานแล้ว มี Sales surprise +2.9% และมี Sales growth 14.8%YoY  SCB CIO คาดว่า ผลประกอบการบจ.ในช่วงครึ่งหลังของปีมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง  

4. Sentiment นักลงทุนที่ Bearish บนตลาดหุ้นสหรัฐฯ มากเกินไปในช่วงที่ผ่านมา เริ่มกลับมาดีขึ้น สะท้อนจาก AAII Bull-Bear Spread ที่ฟื้นตัวขึ้นจากระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ สอดคล้องกับภาพรวมตลาดฯ ที่ฟื้นตัวขึ้น

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Post Bottom Ad