แอปสินเชื่อดิจิทัลฟินนิกซ์ (FINNIX) ลดความเหลื่อมล้ำให้คนไทยทุกคนขอสินเชื่อได้ ด้วยนวัตกรรมยืนยันตัวตนแบบอิเล็กทรอนิกส์ (e-KYC) ใน 60 วินาที - ข่าวเด่นวันนี้ | Today Highlight News

Breaking

Home Top Ad

Post Top Ad

วันอาทิตย์ที่ 13 พฤศจิกายน พ.ศ. 2565

แอปสินเชื่อดิจิทัลฟินนิกซ์ (FINNIX) ลดความเหลื่อมล้ำให้คนไทยทุกคนขอสินเชื่อได้ ด้วยนวัตกรรมยืนยันตัวตนแบบอิเล็กทรอนิกส์ (e-KYC) ใน 60 วินาที

 

แอปสินเชื่อดิจิทัลฟินนิกซ์ (FINNIX) ลดความเหลื่อมล้ำให้คนไทยทุกคนขอสินเชื่อได้ ด้วยนวัตกรรมยืนยันตัวตนแบบอิเล็กทรอนิกส์ (e-KYC) ใน 60 วินาที

ประเทศไทย 8 พฤจิกายน 2565 – มันนิกซ์ บริษัทฟินเทคสตาร์ทอัปร่วมทุนระหว่างประเทศของ SCB X และ Abakus Group ฟินเทคยูนิคอร์นจากประเทศจีน จับมือ ADVANCE.AI ผู้ให้บริการเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) จากประเทศสิงคโปร์ นำนวัตกรรมพิสูจน์ตัวตนของผู้ใช้แบบอิเล็กทรอนิกส์ (e-KYC) ภายใน 60 วินาที หวังช่วยลดความเหลื่อมล้ำการเข้าไม่ถึงบริการทางการเงินและยกระดับประสบการณ์การใช้สินเชื่อดิจิทัลผ่านแอปฟินนิกซ์

นางสาวอาชี โจว ผู้อำนวยการฝ่ายผลิตภัณฑ์ บริษัท มันนิกซ์ จำกัด กล่าวว่า ประเทศไทยมีคนจำนวนมากที่เข้าไม่ถึงผลิตภัณฑ์การเงิน แต่มีความเข้าใจโลกดิจิทัล กลุ่มคนเหล่านี้มีศักยภาพสำหรับผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่เป็นนวัตกรรมใหม่ของมันนิกซ์ ดังนั้น บริษัทจึงต้องการพัฒนาผลิตภัณฑ์การเงินที่ใช่และถูกต้องสำหรับผู้บริโภค ให้สามารถเข้าถึงสินเชื่อได้ง่ายขึ้นและสะดวกด้วยแอปฟินนิกซ์ (FINNIX) เพื่อสร้างความปลอดภัยให้กับผู้ใช้งาน แต่ยังคงรักษาความรวดเร็วและง่ายต่อการใช้งาน มันนิกซ์ได้ร่วมมือกับ ADVANCE.AI ซึ่งเป็นบริษัทผู้ให้บริการเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) จากประเทศสิงคโปร์ เพื่อยกระดับประสบการณ์การใช้งานการระบุและพิสูจน์ตัวตนของผู้ใช้แบบอิเล็กทรอนิกส์ (e-KYC) หรือ Electronic Know Your Customer ที่ทำให้ผู้ขอสินเชื่อยืนยันตัวตนเสร็จได้ภายใน 60 วินาที ด้วยการถ่ายรูปตนเองและบัตรประจำตัวประชาชนด้วยกล้องของสมาร์ทโฟน

“เราอยากให้ลูกค้ามั่นใจว่าข้อมูลที่ให้เรามานั้นปลอดภัย ความน่าเชื่อถือของผลิตภัณฑ์และบริษัทเป็นเรื่องสำคัญมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มลูกค้าที่เข้าไม่ถึงสินเชื่อในระบบ ดังนั้น เทคโนโลยีการบริการยืนยันตัวตนแบบอิเล็กทรอนิกส์จะช่วยให้เราให้บริการกลุ่มผู้ที่เข้าไม่ถึงการเงินได้ โดยเป็นไปตามข้อกำหนดด้านการใช้เทคโนโลยีชีวมิติ (Biometric Technology) ได้เป็นอย่างดี" นางสาวอาชีกล่าว

“ความน่าเชื่อถือเป็นสิ่งสำคัญมากในอุตสาหกรรมฟินเทค สำหรับเราในบทบาทขององค์กร การยืนยันและพิสูจน์ตัวตนเป็นสิ่งสำคัญ จึงต้องมั่นใจได้ว่าเรามีเทคโนโลยีที่เหมาะสมจริงๆ และทำให้ลูกค้าไว้วางใจที่จะให้ข้อมูลส่วนตัวกับเราด้วย” นางสาวชลินี บุญส่งทรัพย์ Product Owner บริษัท มันนิกซ์ จำกัด กล่าวเสริม

บริษัท มันนิกซ์ จำกัด (MONIX) ก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2563 เป็นบริษัทร่วมทุนของกลุ่มธุรกิจทางการเงิน SCB X และ Abakus Group ฟินเทคยูนิคอร์นจากประเทศจีน ด้วยการผสมผสานระหว่างนวัตกรรม เทคโนโลยี และองค์ความรู้ด้านผู้ใช้งานของทั้งสองกลุ่มธุรกิจ เพื่อนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่จะช่วยแก้ไขปัญหาความเหลื่อมล้ำทางการเงิน ที่ผลิตภัณฑ์ทางการเงินรูปแบบเดิมยังไม่สามารถทำได้ผ่านแอปพลิเคชันฟินนิกซ์ (FINNIX)

แอปพลิเคชันฟินนิกซ์เป็นบริการที่อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของธนาคารแห่งประเทศไทย ให้บริการสินเชื่อนาโนไฟแนนซ์ผ่านช่องทางดิจิทัล 100% ตลอด 24 ชั่วโมง ตั้งแต่การขอสินเชื่อจนถึงการอนุมัติสินเชื่อและเบิกถอน สร้างโอกาสให้ผู้มีรายได้น้อยที่เคยถูกธนาคารหรือสถาบันการเงินปฏิเสธมาก่อนสามารถสมัครขอสินเชื่อได้อย่างง่ายดายภายใน 5 นาที ปัจจุบันแอปพลิเคชันฟินนิกซ์มียอดดาวน์โหลดมากกว่า 7.5 ล้านครั้ง และมีคะแนนรีวิวแอปเฉลี่ยอยู่ที่ 4.5 จาก 5 ในกูเกิลเพลย์และแอปเปิลแอปสโตร์ โดยปัจจุบันมียอดปล่อยสินเชื่อไปแล้วกว่า 1 หมื่นล้านบาท

ทั้งนี้ จากข้อมูลของ Macquarie กลุ่มบริษัทการเงินระดับโลกระบุว่า ประเทศไทยมีประชากรวัยทำงานที่ไม่สามารถเข้าถึงการบริการทางการเงินของธนาคารสูงถึง 63% ซึ่งรวมถึงผู้บริโภคที่มีรายได้น้อยหรือธุรกิจขนาดเล็กไปจนถึงขนาดกลางที่เข้าไม่ถึงผลิตภัณฑ์ของธนาคาร

ข้อมูลนี้สอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืนขององค์การสหประชาชาติ (SDGs) ที่มุ่งส่งเสริมการเข้าถึงบริการทางการเงินที่เท่าเทียมและเป็นธรรม เพื่อลดความเหลื่อมล้ำทางการเงินในประเทศ เรื่องนี้อยู่จัดอยู่ในเป้าหมายลำดับที่ 8 จาก 17 เป้าหมายขององค์การฯ นอกจากนี้ยังสอดคล้องกับเป้าหมายของรัฐบาลไทยที่มุ่งพัฒนาให้คนไทยกว่า 30 ล้านคนสามารถเข้าถึงระบบธนาคารและบริการภาคการเงินผ่านเทคโนโลยีดิจิทัลสมัยใหม่

นาย โมฮัมหมัด ฟูลาดี Regional Head of Customer Value Proposition บริษัท ADVANCE.AI กล่าวว่า "เราให้ความสำคัญกับการพัฒนาธุรกิจร่วมกับทางมันนิกซ์เป็นอย่างมาก และตระหนักถึงวิธีในการสนับสนุนกลุ่มลูกค้าที่ยังไม่เข้าถึงการบริการทางการเงินของธนาคารในประเทศไทยเพื่อให้ได้รับเครดิตที่ต้องการ ด้วยความก้าวหน้าทางปัญญาประดิษฐ์จะสามารถทำให้การเข้าถึงลูกค้า รวมถึงข้อกำหนดและขั้นตอนในการพิจารณาให้สินเชื่อทำได้ง่ายขึ้น สะดวกขึ้น แต่ยังคงความปลอดภัยให้กับทั้งผู้ใช้งานและสถาบันการเงิน ความท้าทายในตอนนี้สำหรับสถาบันการเงินต่าง ๆ คือการคิดและตัดสินใจว่าจะสามารถใช้ AI เพื่อสร้างประสบการณ์แบบใหม่ให้กับลูกค้าธนาคารได้อย่างไรในยุคหลังโควิด-19”

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Post Bottom Ad