มหาวิทยาลัยมหิดลจับมือ EDDU สตาร์ทอัพ EdTech เพิ่มความแข็งแกร่งนักธุรกิจรุ่นใหม่ด้วย Data for Entrepreneur - ข่าวเด่นวันนี้ | Today Highlight News

Breaking

Home Top Ad

Post Top Ad

วันพฤหัสบดีที่ 15 ธันวาคม พ.ศ. 2565

มหาวิทยาลัยมหิดลจับมือ EDDU สตาร์ทอัพ EdTech เพิ่มความแข็งแกร่งนักธุรกิจรุ่นใหม่ด้วย Data for Entrepreneur

มหาวิทยาลัยมหิดลจับมือ EDDU สตาร์ทอัพ EdTech

เพิ่มความแข็งแกร่งนักธุรกิจรุ่นใหม่ด้วย Data for Entrepreneur


สถาบันบริหารจัดการเทคโนโลยีและนวัตกรรม มหาวิทยาลัยมหิดล (iNT) ร่วมกับ EDDU Group International  จัดหลักสูตร “Data for Entrepreneur” ให้กับนักศึกษาในมหาวิทยาลัยมหิดล ที่มีความสนใจทางด้านธุรกิจ พร้อมวิทยากร “อาจารย์นพ-พงศธร ธนบดีภัทร” CEO&CO-Founder บริษัท FINNX  เจ้าของธุรกิจ Startup เบอร์ต้นของเมืองไทยผู้นำ Data มาใช้ในการทำงานจนทำให้บริษัทเติบโตอย่างรวดเร็วและมีมูลค่ามากกว่า 500 ล้านบาท ภายในระยะเวลาเพียง 3 ปีและเติบโตอย่างต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน

รองศาสตราจารย์ดร.ยศชนัน วงศ์สวัสดิ์ ผู้อำนวยการสถาบันบริหารจัดการเทคโนโลยีและนวัตกรรม มหาวิทยาลัยมหิดล (iNT) เปิดเผยว่า iNT ได้ร่วมกับ EDDU Group International (www.eddu.orgจัดหลักสูตร “Data for Entrepreneur” ให้กับนักศึกษาในมหาวิทยาลัยมหิดล ที่มีความสนใจทางด้านธุรกิจ โดยได้รับเกียรติจากอาจารย์นพ พงศธร ธนบดีภัทร CEO&CO-Founder บริษัท FINNX (www.refinn.comซึ่งเป็นธุรกิจ Startup ที่มีการนำ Data มาใช้ในการทำงานจนทำให้บริษัทเติบโตอย่างรวดเร็วและมีมูลค่ามากกว่า500 ล้านบาท ภายในระยะเวลาเพียง 3 ปีและยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน

โดยหัวใจสำคัญของการใช้ Data มาพัฒนาธุรกิจในปัจจุบันประกอบด้วย การทำ Data Analytics และการทำ Data Visualization ไปสร้างให้เกิด Data Driven Marketing ที่จะเกิดประโยชน์สูงสุดกับธุรกิจ นอกจากนี้ผู้บริหารรุ่นใหม่มักให้ความสำคัญกับ Data Analytics เพราะเป็นการวิเคราะห์ข้อมูลต่างๆ ที่จะช่วยให้ธุรกิจมองเห็นโอกาสใหม่ รวมถึงการเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันทางธุรกิจ ในหลายองค์กรยังนำ Data มาช่วยคิดกลยุทธ์ต่างๆ ที่สามารถเพิ่มยอดขายได้มากกว่าปกติจนทำให้ธุรกิจโตขึ้นอย่างก้าวกระโดดในทางการตลาดนั้น Data ก็มีบทบาทช่วยสร้างแคมเปญการตลาดให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น เพราะ Data ช่วยให้เข้าใจกลุ่มเป้าหมาย พร้อมกับทำให้รู้แนวโน้มพฤติกรรมของกลุ่มเป้าหมาย ซึ่งมีส่วนช่วยสร้างแคมเปญมารองรับพฤติกรรมเหล่านั้นได้เป็นอย่างดี

ภายในระยะเวลาเพียง 3 ปีและเติบโตอย่างต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน

สำหรับขั้นตอนการทำ Data Analytics สามารถเริ่มด้วย 6 ขั้นตอนเบื้องต้นดังนี้ 1.รู้จักและเข้าใจปัญหาของธุรกิจ 2.มีการรวบรวมข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับปัญหา 3.จัดข้อมูลอย่างเป็นระบบ พร้อมกับตรวจเช็กข้อมูลให้ถูกต้อง 4.ทำการวิเคราะห์ข้อมูลและสร้างข้อมูลเชิงลึกในรูปแบบต่างๆ 5. นำข้อมูลที่ได้ไปปรับใช้และทดลองใช้ และ6.ติดตามผลลัพธ์และนำมาปรับปรุง ทั้งนี้หากสามารถเริ่มต้นและทำตามขั้นตอนนี้ได้ก็จะช่วยให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในทิศทางที่ดีขึ้นเพียงแค่รู้จักการใช้ Data ซึ่งถือเป็นสิ่งที่นักธุรกิจรุ่นใหม่หรือคนที่สนใจด้านนี้ควรให้ความสำคัญ

“อีกหนึ่งตัวอย่างให้เห็นภาพของการนำ Data มาใช้หากวันนี้คุณเป็นผู้บริหารขององค์กรและได้รับโจทย์มาจากนักลงทุนว่าต้องเพิ่มยอดขายให้ได้มากขึ้นอย่างน้อย 2 เท่า หากลองคิดแบบเร็วๆ ก็อาจจะใช้วิธีเน้นเพิ่มลูกค้า สมมติปกติธุรกิจสามารถสร้างยอดขาย 1 ล้านบาท จากลูกค้า 1,000 คน และโจทย์ก็คือต้องได้ยอดขายมากขึ้น 2 เท่า นั่นก็คือต้องทำให้ได้ยอดขายอย่างน้อย 2 ล้านบาท หากเลือกใช้วิธีเน้นเพิ่มลูกค้า ก็ต้องหาลูกค้าเพิ่มอีก 1,000 คน และทีมที่จะมารับผิดชอบงานส่วนนี้ ก็คือทีมการตลาด พร้อมกับต้องเพิ่มงบให้ทีมการตลาดในการหาลูกค้าเพิ่มขึ้นอีกด้วย แต่ในความจริงแล้วการทำธุรกิจนั้นมีหลายตัวแปรไม่ใช่แค่การเพิ่มงบการตลาดแล้วจะทำให้ยอดขายเพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่าเพียงอย่างเดียว อย่างเช่นร้านสะดวกซื้อเจ้าใหญ่ในไทยที่ทุกคนรู้จักดี ก็มีการจัดแคมเปญในเรื่องของการสะสมแสตมป์ในช่วงปลายปีซึ่งตรงนี้เป็นการทำให้ลูกค้าอยากซื้อสินค้ามากขึ้นแถมยังช่วยกระตุ้นให้ลูกค้าเข้ามาถี่มากขึ้นด้วย เช่น ถ้าลูกค้าต้องการที่จะซื้อแชมพู แต่อยู่ในช่วงสะสมแสตมป์และทุกครั้งที่ซื้อครบอย่างน้อย 40 บาทก็จะได้แสตมป์1 ดวง ร้านสะดวกนี้ก็อาจจะเป็นตัวเลือกหลักที่ลูกค้ากลับมาซื้อ แคมเปญนี้ทำให้ร้านสะดวกซื้อประสบความสำเร็จในการดึงดูดลูกค้าและการเพิ่มยอดซื้อสินค้าต่อบิล” รองศาสตราจารย์ดร.ยศชนัน กล่าว

อย่างไรก็ตามสำหรับปัจจัยหลักที่ทำให้แคมเปญดังกล่าวประสบความสำเร็จได้นั่นก็คือการวิเคราะห์จากข้อมูลและพิจารณาว่าตัวแปรใดที่ทำให้เป้าหมายสำเร็จได้ซึ่งนี่ก็คือตัวอย่างของการใช้ Data มาวิเคราะห์แล้วนำมาวางแผนกลยุทธ์ในการทำการตลาดที่เรียกว่า Data Driven Marketing การใช้ประโยชน์จาก Data นั้นสามารถทำได้หลายมิติไม่ว่าจะเป็นการทำ Data Analytics หรือ Data Visualization ซึ่งเป็นอีกวิธีที่ดีในการนำมาเสริมสร้างธุรกิจให้แข็งแรงขึ้น ใน Workshop ครั้งนี้จะพูดถึงประเด็นสำคัญของการนำ Data มาสร้างโอกาสทางธุรกิจ พร้อมยกตัวอย่างให้เข้าใจมากขึ้

นอกจากนี้ภายในงานยังมี Highlight สำคัญที่อาจารย์นพ พงศธร ได้ร่วมเป็นที่ปรึกษาให้กับนักศึกษาได้ฝึกการนำเสนอข้อมูลอย่างใกล้ชิดเพื่อเป็นไปตามแผนพัฒนาธุรกิจ Startup ที่มหาวิทยาลัยมหิดลมุ่งเน้นในการสนับสนุนนักศึกษาให้มี Entrepreneurship และสร้าง Ecosystem ธุรกิจขึ้นมาและอีกหนึ่งในตัวแปรสำคัญที่จะทำให้นักศึกษามี Entrepreneurship ที่ดีคือการรู้จักสร้างโอกาสให้ธุรกิจจาก Data เพราะการทำการตลาดเเบบเดิมๆ แล้วคาดหวังให้ธุรกิจยั่งยืนนั้นเป็นเรื่องที่ยาก Data จึงเข้ามามีบทบาทในธุรกิจ การตลาด และการบริหาร ซึ่งไม่ใช่เเต่องค์กรขนาดใหญ่ที่ใช้ประโยชน์จาก Data แต่ธุรกิจ Startupและ SME ธุรกิจออนไลน์ก็หันมาใช้Data ในการพัฒนาธุรกิจเช่นกัน


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Post Bottom Ad