เคยขึ้นเทรนด์ทวิตเตอร์อย่างหนัก #กกต.มีไว้ทำไม จากการเลือกตั้งล่วงหน้า ล่าสุดเมื่อวันที่ 16 พฤษภาคมที่ผ่านมา ทางรายการ “คนดังนั่งเคลียร์” ทางสถานีโทรทัศน์ช่อง 8 เลขขอเชิญอดีต กกต.อย่าง คุณสมชัย ศรีสุทธิยากร มาตอบเคลียร์ชัดถึงประเด็นที่ประชาชนสงสัย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องงบการเลือกตั้งเกือบ 6 พันล้าน การจ่าหน้าซองผิด แถมอดีตและปัจจุบันยังมีการโกงเลือกตั้งจริงไหม พร้อมในรายการเจ้าตัวยังบอกพิธาว่า อย่าประมาท จากเรื่องของหุ้นสื่อไม่ควรวางใจเกินไป แฟนๆสามารถรับชมย้อนหลังเต็มๆได้ ทาง ยูทูบช่อง8 เท่านั้น

ทำไมการเลือกตั้งในบ้านเรา มีกติกาการเปลี่ยนแปลงไปตลอดเวลา โดยเฉพาะจำนวนของบัตร?

คือมันเป็นตามรัฐธรรมนูญนะ คือก่อนหน้านี้ รัฐธรรมนูญปี40 50 บัตรเลือกตั้ง 2 ใบ แล้วเราจะคุ้นเคยกับคำว่าใบนึงเลือกคนที่รัก อีกใบเลือกพรรคที่ชอบ ก็คุ้นมาตลอด แต่พอปี60 อ.มีชัย กรรมการร่างรัฐธรรมนูญบอกว่า ไม่เอาแล้วระบบแบบนี้ มันคะแนนตกน้ำ ก็เลยขอเปลี่ยนเป็นแบบบัตรใบเดียว เลือกทั้งคน ทั้งพรรคในบัตรเดียว พอใช้ไปสักพักนึง มันก็เกิดปัญหาว่า พรรครัฐบาลสงสัยตัวเองว่าจะเป็นพรรคใหญ่ เดี๋ยวกลายเป็นว่าถ้าใช้กติกานี้ เดี๋ยวจะตกที่นั่งเดียวกับพรรคเพื่อไทยตอนปี 62 คือไม่มีบัญชีรายชื่อแม้แต่คนเดียว ก็เลยเปลี่ยนกติกาใหม่เป็นบัตร 2 ใบอีก คือเปลี่ยนกลับไปกลับมา เหมือนกับประเทศไทยเป็นเครื่องทดลองว่า ใช้แบบนี้ไม่ได้ผล เพราะตัวเองไม่ได้เปรียบ ก็ใช้แบบนี้ พอใช้แบบนี้ตัวเองก็ได้เปรียบแล้ว ถึงเวลาแล้วกลัวว่าตัวเองจะเสียเปรียบอีก ก็เปลี่ยนกลับมาใช้บัตร 2 ใบ แล้วเป็นไงคราวนี้ จะกี่ใบไม่สนใจประชาชน จัดการหมดเลยครับ 1 ใบ 2 ใบ ไม่สนใจแล้ว ประชาชนรู้วิธีการคิด รู้วิธีการเลือก ดูผลการเลือกตั้งที่เกิดขึ้นครับ

           

เดี๊ยนเห็นนะคะ ที่คุณสมชัยออกมาโพสต์แรง การออกแบบเลือกตั้งที่เฮงซวย กรณีจ่าหน้าซองบัตรเลือกตั้งผิด มาจากการออกแบบการเลือกตั้งที่ผิดพลาด และหละหลวม เดี๊ยนว่าเที่ยวนี้คอมเมนต์แรงไม่ไว้หน้ากกต.เลยนะคะ?

คือต้องบอกว่ามันเป็นอะไรที่ประชาชนอึดอัด หลายต่อหลายเรื่อง ตั้งแต่เรื่องของการพิมพ์บัตร แทนที่ส่วนในบัตร บัตร 2 ใบไม่เป็นไรหรอก บัตรใบนึงก็เขตต บัตรอีกใบเป็นบัญชีรายชื่อ บัตรบัญชีรายชื่อไม่เป็นปัญหา เข้าไปก็ไม่งง เพราะมีชื่อพรรค มีโลโก้พรรคชัดเจน แต่บัตรเขตเนี่ย เขาใช้เป็นบัตรโหล พิมพ์เหมือนกันทั้งประเทศ แล้วตอนแรกบอกง่าย สะดวก ส่งได้ง่ายไม่หลง เป็นต้น แล้วพอเกิดปัญหาว่า จ่าหน้าซองกันที่เลือกตั้งล่วงหน้า จ่าหน้าซองกันไม่ชัดเจน จ่าผิด จะไปดูว่าของเขตไหนก็ไปดูไม่ได้แล้ว เพราะอะไร เปิดออกมามันก็บัตรเหมือนกัน หรือส่งไปผิดที่ ถ้าหากเปิดออกมานับคะแนน มันก็กลายเป็นที่ใหม่ของเขาไปอย่างนี้ เป็นปัญหาที่เกิดขึ้น

           

(เลือกตั้ง)มันมีโอกาสโกงได้ไหมคะ?

คิดนานเลย ถามว่ามีโอกาสไหม หากไม่ตรงไปตรงมา ก็อาจจะมีการสับเปลี่ยนเป็นไปได้ สับเปลี่ยนซองต่างๆ แต่เราก็ต้องเชื่อมั่น ถ้าผิดแล้ว โดนคดีอาญานะ

คุณสมชัยว่าคุ้มกับงบประมาณ และเงินที่จ่ายไหมคะ ได้ข่าวว่าเกือบ 6 พันล้านบาท?

คือการเลือกตั้งมันก็ต้องมีการลงทุน มีค่าใช้จ่าย เพียงแค่ว่ามีต้นทุนค่าใช้จ่ายแล้ว ใช้จ่ายในรายการที่เราคิดว่าเราอยากให้เขาทำ แต่เขาไม่ทำ หรือไอ้นี่ไม่เห็นต้องทำเลย ทำทำไม มันก็จะเกิดปัญหาของการที่บอกว่ามันคุ้ม ไม่คุ้ม ยกตัวอย่างเช่น บอกระบบรายงานอย่างไม่เป็นทางการ เรียลไทม์ที่เขาขอกัน แค่ 10 ล้านบาท ไม่ทำ แต่ผู้ตรวจการการเลือกตั้ง ซึ่งคือไม่รู้ใคร เขตนึง มี 5-6 คน แล้วไม่รู้ไปสุ่มอยู่ตรงไหนไม่รู้นะ แล้วมาบอกว่าคอยติดตามข่าวคราวว่ามีการทุจริตที่ไหนอย่างไร แล้วทุกวันก็รายงานผลว่าไม่มีๆ ปกติๆ ใช้เงินไป 300-400 ล้านบาท แต่อุปกรณ์ 100 ล้านไม่เอา? 10 ล้านไม่เอา(หัวเราะ)

           

ก่อนเลือกตั้ง เดี๊ยนเห็นมี #กกต.มีไว้ทำไม ติดเทรนด์ แล้วคนก็ไปลงชื่อเป็นล้านกว่า ไม่เอาจะขับกกต. มันเกิดเรื่องแบบนี้ในเมืองไทยได้อย่างไรคะ?

กกต.มีไว้ทำไม ก็คือมีไว้จัดการเลือกตั้ง จัดให้สุจริตและเที่ยงธรรม มีผลการเลือกตั้งเป็นที่พึงใจของคนทั้งประเทศ ตอนนี้ที่ติด #กกต.มีไว้ทำไม ก็อาจจะไม่ตรงใจของประชาชน ตอนนี้ที่ลงชื่อถอดถอนเป็นล้านคน ก็ต้องให้ความเป็นธรรมกับเขานิดนึง บังเอิญจังหวะนั้นเป็นจังหวะที่เลือกตั้งนอกเขต แล้วก็วุ่นวายพอสมควร คนก็เลยอารมณ์ขึ้นมา ตอนที่อารมณ์ขึ้นมันมีฐานเดิมอยู่แล้ว ที่เขาเซ็นชื่อกันมาก่อน 8 แสนกว่าคน ก็เลยไปเซ็นชื่อเพิ่มขึ้นก็กลายเป็นล้านกว่า ก็เป็นแสนคนที่ไม่พอใจเกิดขึ้น การลงชื่อดังกล่าวมีผลอะไรไหม ตอบเลยว่าไม่มี เพราะว่าไปลงชื่อในเว็บไซต์ ที่ชื่อ Change.org ซึ่งเป็นการแสดงความคิดเห็นในฐานะพลเรือน ประชาชนว่า มีความรู้สึกชอบไม่ชอบ พอใจ ไม่พอใจ เป็นการส่งสัญญาณครับ

เขาลือกันว่าคุณพิธาอาจจะไม่รอดนะคะ จากหุ้น ITV เดี๊ยนกลัวว่า เขาจะไม่รอดเหมือนคุณธนาธรไหมคะ?

ถามในมุมกฎหมายใช่ไหม คือถ้าผมวิจารณ์อย่างตรงไปตรงมานะ ผมใช้คำว่า คุณพิธาวางใจเกินไป คืออาจจะประมาท วางใจเกินไป ซึ่งจริงๆแล้ว เวลาคนที่เขามีอำนาจในการพิจารณาในมุมของกฎหมาย บางครั้งเขาก็อาจไม่ดูเหตุ และผลเท่าไร เขาอาจจะดูในมุมผิดก็ผิด ทำนองแบบนี้ แล้วเรื่องของคุณพิธาคล้ายของคุณธนาธรมากเลย เพราะสื่อดังกล่าวเลิกทำแล้วใช่ไหม ของคุณธนาธรเลือกไปปีกว่า อันนี้อาจจะเลิกไป 10 กว่าปีแล้วเป็นต้น แต่ยังคงสถานะการถือหุ้นไหม ยังคงสถานะอยู่ ถ้าให้ผมตอบ ผมว่าน่าเป็นห่วงแล้วกัน อย่าประมาทเรื่องนี้

แฟนๆสามารถติดตามรายการ “คนดังนั่งเคลียร์” ทุกวันจันทร์-พฤหัสบดี เวลา 17.15 น. ทางช่อง 8 กดเลข 27 และรับชมย้อนหลังได้ทาง ยูทูบช่อง 8 เท่านั้น! สมชัย เตือนพิธาเรื่องถือหุ้นสื่อ อย่าเพิ่งประมาท!