อาเซียนเร่งอัปเกรดความตกลงการค้าสินค้า เน้นทันสมัย เข้มเรื่องสิ่งแวดล้อม
อาเซียนประชุมคณะกรรมการเจรจายกระดับความตกลง ATIGA ครั้งที่ 4
เร่งยกระดับความตกลงให้ทันสมัยสอดรับการเปลี่ยนแปลงของรูปแบบธุรกิจ
โดยเฉพาะการนำสินค้าที่ใช้งานแล้วมาปรับปรุงให้เหมือนใหม่
ความเป็นไปได้ในการเปิดตลาดเพิ่ม เคาะเพิ่มเติมเรื่องการค้าและสิ่งแวดล้อม
การส่งเสริม MSMEs และแก้ไขปัญหาการค้าในสถานการณ์วิกฤต
นายดวงอาทิตย์ นิธิอุทัย รองอธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า
ได้รับมอบหมายจากนางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ
ให้เข้าร่วมการประชุมคณะกรรมการเจรจายกระดับความตกลงการค้าสินค้าของอาเซียน
(ATIGA-TNC) ครั้งที่ 4 ระหว่างวันที่ 15-19 พ.ค.2566 ที่ผ่านมา ณ
กรุงจาการ์ตา สาธารณรัฐอินโดนีเซีย
เพื่อหารือยกระดับความตกลงว่าด้วยการค้าสินค้าของอาเซียน (ATIGA)
ให้ทันสมัย สอดคล้องกับรูปแบบธุรกิจที่เปลี่ยนแปลงไป
และตอบสนองต่อพัฒนาการของภูมิภาคและโลกมากขึ้น
โดยการประชุมครั้งนี้ ได้หารือประเด็นสำคัญ เช่น
การปฏิบัติต่อสินค้าที่ผ่านการใช้งานแล้ว
แต่นำกลับมาปรับปรุงสภาพให้มีคุณสมบัติเหมือนของใหม่ (Remanufactured
Goods) การค้าในสถานการณ์วิกฤต (Trade in Crisis Situation)
กลไกการแก้ไขปัญหาประเด็นทางการค้า และความเป็นไปได้ในการเปิดตลาดเพิ่มเติม
และที่ประชุมยังได้เห็นชอบที่จะบรรจุหัวข้อเรื่องการค้าและสิ่งแวดล้อมไว้ในความตกลง
ATIGA ที่กำลังปรับปรุงเพิ่มเติมด้วย
ซึ่งจากเดิมประเทศสมาชิกอาเซียนได้ข้อสรุปร่วมกันแล้ว
ในเรื่องความร่วมมือทางเศรษฐกิจและวิชาการ การส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลาง
ขนาดย่อม และรายย่อย และการค้าในสถานการณ์วิกฤต
ทั้งนี้ อาเซียนเป็นคู่ค้าอันดับ 1 ของไทย โดยในปี 2565
การค้าระหว่างไทยและอาเซียน มีมูลค่า 124,890.01 ล้านดอลลาร์สหรัฐ คิดเป็น
21.2% ของมูลค่าการค้ารวมของไทยกับโลก โดยไทยส่งออกไปยังอาเซียน มูลค่า
71,890.2 ล้านดอลลาร์สหรัฐ คิดเป็น 25% ของการส่งออกไทยไปโลก
และไทยนำเข้าจากอาเซียน มูลค่า 52,999.8 ล้านดอลลาร์สหรัฐ คิดเป็น 17.5%
ของการนำเข้าไทยจากโลก
สำหรับในช่วง 3 เดือนของปี 2566 (ม.ค.–มี.ค.) การค้าระหว่างไทยและอาเซียน
มีมูลค่า 30,633.49 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ลดลง 1.06% โดยไทยส่งออกไปอาเซียน
มูลค่า 17,174.57 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ลดลง 3.92% และไทยนำเข้าจากอาเซียน
มูลค่า 13,458.92 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 2.86% สินค้าส่งออกสำคัญ เช่น
รถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ น้ำมันสำเร็จรูป อัญมณีและเครื่องประดับ
น้ำตาลทราย และเคมีภัณฑ์ และสินค้านำเข้าสำคัญ เช่น น้ำมันดิบ ก๊าซธรรมชาติ
เคมีภัณฑ์ เครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ และแผงวงจรไฟฟ้า
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น