สรุปภาวะตลาดตราสารหนี้ไทยไตรมาส 1 ปี2561 และแนวโน้มช่วงที่เหลือของปี 2561 - ข่าวเด่นวันนี้ | Today Highlight News

Breaking

Home Top Ad

Post Top Ad

วันพุธที่ 11 เมษายน พ.ศ. 2561

สรุปภาวะตลาดตราสารหนี้ไทยไตรมาส 1 ปี2561 และแนวโน้มช่วงที่เหลือของปี 2561


“ไตรมาสแรกปี 2561 เริ่มเห็นการปรับตัวของตลาดตราสารหนี้ไทยก่อนการออกเกณฑ์ใหม่ของการเสนอขายตั๋ว BE และหุ้นกู้ โดยผู้ออกตราสารหนี้ภาคเอกชนระยะยาวในกลุ่ม Real sector ที่มีอันดับเครดิตสูงออกเพิ่มขึ้นเกือบ 3 เท่าโดยเน้นขายให้กลุ่มนักลงทุน II/HNW เป็นหลัก ส่วนตราสารหนี้ภาคเอกชนระยะสั้น มูลค่าการออกในReal sector ปรับลดลงชัดเจนโดยเฉพาะการออกในรูปแบบของตั๋ว BE แต่ยังคงเน้นขายให้กลุ่มนักลงทุน II/HNWเช่นเดิม โดยภาพรวมในไตรมาส 1 นี้ ตลาดตราสารหนี้ไทยยังขยายตัวได้เป็นปกตินักลงทุนต่างชาติเข้ามาลงทุนเพิ่มขึ้นในตราสารหนี้ไทยต่อเนื่องรวม 38,660 ล้านบาท”

นายธาดา พฤฒิธาดากรรมการผู้จัดการสมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย (ThaiBMA) กล่าวถึงภาวะตลาดตราสารหนี้ไทยในไตรมาสแรกปี2561 ว่าตลาดตราสารหนี้ไทยยังคงเติบโตได้ดีมีมูลค่าคงค้างรวม 11.77 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ1.8 จาก 11.56 ล้านล้านบาทเมื่อสิ้นปีที่ผ่านมา ส่วนการออกตราสารหนี้ภาคเอกชน เริ่มเห็นการปรับตัวของตลาดก่อนเกณฑ์ใหม่การออกตั๋ว BE และหุ้นกู้ โดยผู้ออกที่มีอันดับเครดิตสูงใน Real sector เร่งการออกหุ้นกู้ และเน้นขายให้กลุ่มนักลงทุน II/HNW เป็นหลักซึ่งในอนาคตจะถูกก าหนดให้ต้องมีผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้หากเสนอขายให้HNW กลุ่มธุรกิจที่ออกตราสารหนี้ระยะยาวสูงสุดคือ กลุ่มอาหารและเครื่องดื่ม ซึ่งมียอดการออกเพิ่มร้อยละ 110 จากช่วงเดียวกันปีก่อนหน้า

ส่วนตราสารหนี้ระยะสั้น ในภาพรวมยังมีการออกเพิ่มขึ้นแต่มูลค่าการออกจาก Real sector ปรับลดลงร้อยละ 18 จากช่วงเดียวกันปีที่แล้ว ส่วนใหญ่ลดลงจากผู้ออกกลุ่ม Non-rated ซึ่งยังคงเน้นเสนอขายกลุ่มนักลงทุน II/HNW กลุ่มธุรกิจที่ออกตราสารหนี้ระยะสั้นสูงสุดคือ กลุ่มเงินทุนและหลักทรัพย์ (Finance&Securities) มียอดการออกเพิ่มร้อยละ 46 จากช่วงเดียวกันในปีที่แล้ว

การลงทุนจากต่างประเทศ (Fund flow) ใน 3 เดือนแรกปี 2561 นักลงทุนต่างชาติยังเข้าลงทุนในตราสารหนี้ไทยอย่างต่อเนื่องโดยมีมูลค่าซื้อสุทธิเพิ่มขึ้น 38,660 ล้านบาท ประกอบด้วยการซื้อสุทธิในตราสารหนี้ภาครัฐระยะยาว52,573 ล้านบาท และขายสุทธิในตราสารหนี้ระยะสั้น 13,913 ล้านบาท ท าให้ณ สิ้นไตรมาส 1 ปี 2561 ต่างชาติมีมูลค่าการลงทุนสะสมสุทธิในตราสารหนี้ไทยทั้งสิ้น 871,664 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ7.4ของมูลค่ารวมตลาดตราสารหนี้ไทย

ในขณะเดียวกันเส้นอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลมีความชันมากขึ้น โดยรุ่นอายุไม่เกิน 5 ปีปรับตัวลดลง 2-13 bps.
ส่วนรุ่นอายุ6-10 ปี ปรับตัวสูงขึ้น 2-10 bps.

สำหรับทิศทางอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลในช่วงที่เหลือของปี 2561 นี้ นายธาดา พฤฒิธาดา กรรมการผู้จัดการ สมาคมตลาดตราสารหนี้ไทยค่อนข้างมั่นใจว่า อัตราผลตอบแทนพันธบัตรระยะสั้นจะเคลื่อนไหวในกรอบแคบๆ ใกล้เคียงกับดอกเบี้ยนโยบายที่คาดว่าจะคงที่ที่ร้อยละ 1.5 จนถึงช่วงปลายปีซึ่งเป็นช่วงเดียวกันกับที่เงินเฟ้อของไทยมีโอกาสปรับตัวสูงขึ้นมาอยู่ในกรอบเงินเฟ้อเป้าหมายในขณะที่เศรษฐกิจไทยขยายตัวได้อย่างต่อเนื่อง ส่วนอัตราผลตอบแทนพันธบัตรระยะยาวอายุ 10 ปี มีทิศทางขาขึ้นในกรอบที่จำกัดตามภาพรวมเศรษฐกิจและการค้าโลกที่ขยายตัวดีขึ้น ถึงกระนั้นก็ดีนโยบายของประธานาธิบดีสหรัฐในแต่ละช่วงเวลาอาจทำให้เกิดความผันผวนที่รุนแรงในผลตอบแทนพันธบัตรระยะยาว

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Post Bottom Ad