กระทรวงอุตฯ โชว์ผลสำเร็จโครงการยกระดับภาคเกษตรแปรรูป SMEs 2,000 ราย ต้นทุนลดลงกว่า 700 ลบ. ยอดขายพุ่งกว่า 1,000 ลบ. - ข่าวเด่นวันนี้ | Today Highlight News

Breaking

Home Top Ad

Post Top Ad

วันศุกร์ที่ 23 พฤศจิกายน พ.ศ. 2561

กระทรวงอุตฯ โชว์ผลสำเร็จโครงการยกระดับภาคเกษตรแปรรูป SMEs 2,000 ราย ต้นทุนลดลงกว่า 700 ลบ. ยอดขายพุ่งกว่า 1,000 ลบ.

กระทรวงอุตฯ โชว์ผลสำเร็จโครงการยกระดับภาคเกษตรแปรรูป SMEs 2,000 ราย ต้นทุนลดลงกว่า 700 ลบ. ยอดขายพุ่งกว่า 1,000 ลบ.


กระทรวงอุตฯ โชว์ผลสำเร็จโครงการยกระดับภาคเกษตรแปรรูป
เผยผู้ประกอบการขอรับความช่วยเหลือครอบคลุม 4 ด้าน
SMEs 2,000 ราย ต้นทุนลดลงกว่า 700 ลบ. ยอดขายพุ่งกว่า 1,000 ลบ.
กระทรวงอุตสาหกรรมโชว์ผลสำเร็จ โครงการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตและบริหารธุรกิจ SMEsในอุตสาหกรรมเกษตรแปรรูป” เผยผู้ประกอบการขอรับความช่วยเหลือครอบคลุม 4 ด้านการผลิต – การตลาด - การบริหารจัดการธุรกิจ – นวัตกรรมและเทคโนโลยี” สามารถเพิ่มผลิตภาพด้วยเทคโนโลยี ระบบดิจิทัลและระบบอัตโนมัติให้ภาคการเกษตรและอุตสาหกรรมที่เกี่ยวเนื่อง 2,000กิจการ สร้างยอดขายเพิ่มขึ้นกว่า 1,000 ล้านบาท  ต้นทุนลดลงกว่า 700ล้านบาท ลดของเสียในกระบวนการผลิตกว่า 200 ล้านบาท สร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจกว่า 1,900 ล้านบาท พร้อมเปิดเวทีสัมมนาดึงกูรูการตลาดชื่อดังแนะเทคนิคผู้ประกอบการเตรียมพร้อมธุรกิจเข้าสู่อุตสาหกรรม 4.0
นายสมชาย หาญหิรัญ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวว่ากระทรวงอุตสาหกรรม ได้มอบหมายให้กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (กสอ.) เร่งส่งเสริมขีดความสามารถในการแข่งขันให้กับผู้ประกอบการ SMEsในอุตสาหกรรมเกษตรแปรรูปและอุตสาหกรรมที่เกี่ยวเนื่องผ่าน โครงการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตและบริหารธุรกิจSMEs ในอุตสาหกรรมเกษตรแปรรูป ซึ่งขณะนี้โครงการฯ ดังกล่าวได้ดำเนินการเสร็จสิ้นแล้วและผลการดำเนินงานนับว่าบรรลุวัตถุประสงค์ที่วางไว้ในด้านของการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันให้กับผู้ประกอบการ ลดต้นทุนภายในองค์กร ลดการสูญเสียในกระบวนการผลิต  นำมาซึ่งการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับผลิตผลทางการเกษตรของประเทศได้อย่างมีประสิทธิภาพ สามารถสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจโดยรวมได้กว่า 1,900ล้านบาท
กระทรวงอุตสาหกรรม ยังคงเดินหน้าส่งเสริมและพัฒนา SMEsและวิสาหกิจชุมชนอย่างต่อเนื่องท่ามกลางปัจจัยต่าง ๆ ที่เป็นความท้าทายในการดำเนินธุรกิจ สิ่งที่สำคัญคือผู้ประกอบการจะต้องประเมินขีดความสามารถของตนเองว่ามีความพร้อมมากเพียงใด และหาข้อบกพร่องของตนเองให้เจอและเร่งปิดข้อบกพร่องนั้น รวมทั้งยังต้องให้ความสำคัญกับการนำระบบดิจิทัลมาใช้เพิ่มประสิทธิภาพทั้งในด้านของกระบวนการผลิตและการบริหารจัดการภายในองค์กรเพื่อเป็นการปรับกระบวนทัพองค์กรให้มีความพร้อมเข้าสู่อุตสาหกรรม 4.0 อย่างเข้มแข็ง และสอดรับกับนโยบายไทยแลนด์ 4.0 ที่รัฐบาลได้วางเป้าหมายระยะยาวในการที่จะยกระดับให้ประเทศไทยพ้นจากกับดักรายได้ปานกลาง ด้วยการนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมเข้ามาปรับเปลี่ยนโครงสร้างเศรษฐกิจโดยรวม” นายสมชาย กล่าว
ด้านนายกอบชัย สังสิทธิสวัสดิ์ อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรมกล่าวว่า สำหรับผลสำเร็จของโครงการฯ นับว่าเป็นไปตามที่ได้ตั้งเป้าหมายไว้ โดยสามารถเพิ่มผลิตภาพ หรือ Productivity ให้กับ SMEs ภาคการเกษตรอุตสาหกรรมที่เกี่ยวเนื่องหรือต่อยอดเป็นซัพพลายเชน และอุตสาหกรรมสนับสนุนที่เกี่ยวข้องจำนวน 2,000 กิจการ สามารถสร้างยอดขายเพิ่มขึ้นกว่า 1,000 ล้านบาท คิดเป็นต้นทุนที่ลดลงกว่า 700 ล้านบาทและคิดเป็นของเสียที่ลดลงกว่า 200 ล้านบาท
นอกจากนี้ ภายใต้โครงการดังกล่าว กสอ. ยังได้มีการจัดกิจกรรมถ่ายทอดความรู้ตามแนวคิดการเพิ่มผลิตภาพเชิงบูรณาการ ตลอดจนแนะแนวทางการบริหารจัดการภายในองค์กรให้มีการใช้นวัตกรรมใหม่ ก้าวทันเทคโนโลยี ให้แก่ผู้ประกอบการและบุคลากรในภาคธุรกิจที่เกี่ยวข้องอีกจำนวน 4,000 คน
ตลอดระยะเวลากว่า 3 เดือน นับตั้งแต่เริ่มต้นโครงการจนถึงปัจจุบัน ทาง กสอ. ได้มีการดำเนินการต่าง ๆ ที่เป็นการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตและบริหารจัดการของวิสาหกิจอย่างเข้มข้น และมีผลสำเร็จเป็นที่น่าพอใจและบรรลุเป้าหมายที่วางไว้ โดยผู้ประกอบการได้รับความช่วยเหลือและส่งเสริมศักยภาพในด้านต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นด้านการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต 53 % ด้านการตลาด 27 % ด้านการบริหารจัดการธุรกิจ 6% ด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยี 6 % และอื่น ๆ 8 %  ซึ่งผู้ประกอบการ SMEs ในอุตสาหกรรมเกษตรแปรรูปและอุตสาหกรรมที่เกี่ยวเนื่อง ต่างมีความพร้อมที่จะเร่งปรับตัวและพัฒนาบุคลากร รวมไปถึงระบบการบริหารจัดการภายในให้มีขีดความสามารถในการดำเนินธุรกิจ เป็นการเตรียมความพร้อมเข้าสู่อุตสาหกรรม 4.0 อย่างเข้มแข็ง” นายกอบชัยกล่าว


สำหรับในวันนี้ นอกจากการสรุปผลความสำเร็จในการดำเนินโครงการฯ แล้ว ในงานยังจัด สัมมนาAgro-Industry 4.0” โดยมีการแบ่งปันประสบการณ์จากผู้ประกอบการที่ประสบความสำเร็จในการเข้าร่วมโครงการฯ  ไม่ว่าจะเป็นผู้ผลิตนมและโยเกิร์ต แดรี่ โฮม”, โรงงานฟอกหนัง บริษัท ซีพีแอล กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) และผู้ผลิตแมคคาเดเมียแปรรูป แมคนัทเลย พร้อมด้วยช่วงสนทนาแนะเทคนิค ในการเตรียมพร้อมธุรกิจเข้าสู่อุตสาหกรรม 4.0 จากนักสร้างแรงบันดาลใจบอย-วิสูตร แสงอรุณเลิศ” และ นักการตลาดชื่อดังของเมืองไทย อ.ธันยวัชร์  ไชยตระกูลชัย” อีกด้วย

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Post Bottom Ad