ศรีตรังทุ่ม3,000ล้านบาท ขยายรง.ผลิตถุงมือยาง - ข่าวเด่นวันนี้ | Today Highlight News

Breaking

Home Top Ad

Post Top Ad

วันอังคารที่ 29 มกราคม พ.ศ. 2562

ศรีตรังทุ่ม3,000ล้านบาท ขยายรง.ผลิตถุงมือยาง


ศรีตรังทุ่ม3,000ล้านบาท ขยายรง.ผลิตถุงมือยาง


สงครามการค้าไม่กระทบ “ศรีตรัง” ตั้งเป้าปี62 ยอดผลิตถุงมือโต 30% อัดงบฯ 3,000 ล้านบาท เดินหน้าขยายกำลังการผลิตตามเป้า 30,000 ล้านชิ้นในปี 2021 เร่งขยายตลาดใหม่ 
นางสาวทิพย์วดี สุดเวหา ผู้จัดการกลุ่มงานนักลงทุนสัมพันธ์ บริษัท ศรีตรังแอโกรอินดัสทรี จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทวางเป้าหมาย ปี 2562 จะขายผลิตภัณฑ์ยางแท่ง ยางแผ่น น้ำยาง 1.45 ล้านตัน ขยายตัว 5-6% จากปีก่อน ส่วนถุงมือยาง 22,000-23,000 ล้านชิ้น ขยายตัว 25-30% จากปีก่อน เนื่องจากตลาดมีแนวโน้มเติบโต โดยเฉพาะตลาดหลัก เช่น ยุโรป อเมริกา มีสัดส่วน 50% ไม่ได้รับผลกระทบจากสงครามการค้า โดยการที่สหรัฐขึ้นภาษีสินค้าจีน 20% เป็นโอกาสให้กับไทย
อีกทั้งบริษัทเร่งหาตลาดใหม่ ๆ emerging market เช่น ใน CLMV อินเดีย ละตินอเมริกา แอฟริกาใต้ ตะวันออกกลาง โดยตั้งเป้าหมาย 5,000-6,000 ล้านชิ้นต่อปี ส่วนตลาดในประเทศสัดส่วน 12% มีแนวโน้มเติบโตจากถุงมือโรงพยาบาล และร้านเสริมสวยต่าง ๆ
พร้อมกันนี้ มีแผนขยายกำลังผลิตโดยจะลงทุน 3,000 ล้านบาท ขยายกำลังการผลิตถุงมือยางเพิ่มขึ้น 9,000 ล้านชิ้น เพื่อให้เป็นไปตามเป้าหมาย 30,000 ล้านชิ้นในปี 2021 จากปัจจุบันผลิตได้ 21,000 ล้านชิ้น ใน จ.สงขลา สุราษฎร์ธานี โดยอยู่ระหว่างการควบรวมโรงงานไทยกอง ที่ จ.ตรัง คาดว่าจะสรุปได้ในเดือนเมษายนนี้
“ในด้านราคายางยังคาดการณ์ได้ยากเพราะเปลี่ยนแปลงทุกวัน ในสัปดาห์สุดท้ายของเดือนธันวาคม 2561 ราคายางอยู่ที่ กก.ละ 127 เซนต์ คาดว่าปีนี้ราคาจะอยู่ที่ กก.ละ 130-140 เซนต์ไม่หลุด 120 เซนต์ ถ้าหลุดแนวรับถัดไปคือ 100 เซนต์ซึ่งคิดเป็นราคายางในประเทศกก.ละ 23-25 บาท จากปีก่อน กก.ละ 35 บาท”
ทั้งนี้ ปัจจัยเสี่ยงสำคัญ คือ อัตราแลกเปลี่ยนที่ส่งผลกระทบราคาส่งออก ซึ่งทางบริษัทได้ทำประกันความเสี่ยง (เฮดจิ้ง) ไว้แล้ว แม้ว่าช่วงต้นปีบาทแข็งค่าขึ้นแต่โชคดีที่ค่าเงินมาเลเซียก็แข็งค่าขึ้นเช่นกัน ส่วนปัจจัยสต๊อกยางเก่าในจีน 7 แสนตัน เป็นยางเก่าและปกติจีนผลิตถุงมือยางไนไตร (Nitrile)และไวนิล ซึ่งเป็นประเภทเดียวกับมาเลเซีย ส่วนไทยผลิตถุงมือยางธรรมชาติ
“ส่วนพายุโซนร้อนปาบึกทำให้หยุดกรีดไปเพียง 3 วันเท่านั้น ส่วนมาตรการเรื่องช็อปช่วยชาติกระตุ้นยางล้อไม่มีผลกับราคายางมากนัก หากมีการเลือกตั้งเชื่อว่ารัฐบาลน่าจะช่วยเกษตรกรโดยตรงมากกว่า อีกด้านหนึ่งบริษัทยังได้ัรับผลดีจากมาตรการช่วยเหลือชดเชยดอกเบี้ย 3% สำหรับเอกชนที่ใช้ยางธรรมชาติในประเทศมาแปรรูปด้วย”
นอกจากนี้ บริษัทยังสามารถลดต้นทุนด้านพลังงานโดยปลูกหญ้าเนเปียร์และการใช้เศษไม้จะมาจากโรงงานไม้พาลเลตในเครือมาผลิตไฟฟ้าชีวมวล 80-90% ของการใช้พลังงาน ซึ่งมีต้นทุน กก.ละไม่ถึง 2 บาท จากหากใช้แก๊ส ต้นทุน กก.ละ 15 บาท ตรงนี้ถือว่าเป็นปัจจัยบวก

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Post Bottom Ad