Ford Mustang Shelby GT500 แรงสุดตราบเท่าที่เคยมีมา

เมื่อเอ่ยชื่อของ Mustang Shelby บรรดาสาวกอเมริกันมัสเซิลคงรู้จักเป็นอย่างดีว่า เป็นผลงานการแต่งรถของ Carroll Shelby ภายใต้โลโก้ Cobra หรือ งูเห่า ซึ่งปัจจุบันชื่อของ Shelby ได้ถูกนำมาใช้เป็นเวอร์ชันตัวแรงพิเศษของมัสแตง ภายใต้การดูแลของทีมงาน Ford Performance (ทีมงานเดียวกับที่สร้างเรนเจอร์ แรพเตอร์นั่นเอง) 

ในคราวนี้ ทีมงาน Ford Performance ได้สร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ให้กับรถยนต์ของฟอร์ด เมื่อเขาได้จับเอา มัสแตงโพนี่คาร์ คันเก่งมาทำใหม่หมด โดยมุ่งหวังเทียบชั้นซุปเปอร์คาร์แถวหน้าของโลกและผลลัพท์ที่ได้ คือ พละกำลังที่มากกว่า 700 แรงม้า จากเครื่องยนต์ ขนาด 5.2 ลิตร กลายเป็นรถที่ทรงพลังที่สุด ที่ฟอร์ดเคยสร้างมาในประวัตศาสตร์ (แบบถูกต้องตามกฎหมาย จดทะเบียนใช้งานได้บนท้องถนนทั่วไป)

หัวใจสำคัญของการขับเคลื่อน อยู่ที่การเลือกใช้เครื่องยนต์ V8 แบบอลูมินัม อัลลอย (เช่นเดียวกับในรุ่น GT350 เพื่อให้มีน้ำหนักเบา) และเลือกใช้ซุปเปอร์ชาร์จ ขนาด 2.65 ลิตร เพื่อรีดกำลังให้ออกมาได้มากกว่า 700 แรงม้า รวมถึงการปรับปรุงโครงสร้างระบบน้ำมันหล่อลื่นและระบบหล่อเย็นใหม่หมดให้มีความไหลลื่น, แข็งแรงและลดแรงสั่นสะเทือนลงได้

นอกจากการปรับปรุงเครื่องยนต์แล้ว ระบบส่งกำลังยังเป็นอีกสิ่งหนึ่ง ที่ทีมงาน Ford Performance ให้ความใส่ใจอย่างมากโดยเลือกคบหากับเกียร์อัตโนมัติ 7 สปีด แบบดูอัลคลัตช์ ซึ่งถือว่าเป็นครั้งแรกที่นำเกียร์ชุดนี้มาใช้ในรถประเภทนี้ แน่นอนว่าเมื่อได้เครื่องยนต์และเกียร์ระดับท้อปมาใช้งาน ดังนั้น โครงสร้างแชสซีส์ จึงต้องมีการปรับใหม่ ด้วยความพิถีพิถัน เพื่อให้รองรับการขับเคลื่อนที่ระดับความเร็ว0-60 ไมล์/ชม. ในเวลา 3 วินาที และวิ่งควอเตอร์ไมล์ในเวลาเพียง 11 วินาที

เมื่อคุณทำรถสมรรถนะสูงอีกสิ่งที่ต้องทำควบคู่กันเสมอ คือ เบรกและยาง ในส่วนของยาง ฟอร์ด ร่วมมือกับมิชลิน ในการพัฒนายางรุ่นพิเศษสำหรับ Shelby GT500 โดยเฉพาะใส่กับล้อ ขนาด 20 นิ้ว สามารถเลือกได้ 2 รุ่น ตามความต้องการ Michelin Pilot Sport 4S ในรุ่นมาตรฐานและหากอยากเร้าใจขึ้นเลือกคบกับรุ่น Pilot Sport Cup2 ได้ ส่วนระบบเบรก เลือกใช้ เบรมโบ้ จานเบรกขนาด 420มม. คาลิปเปอร์ 6 พอร์ต ใหญ่ที่สุดในรถที่ผลิตในอเมริกา

สำหรับระบบช่วงล่าง ได้รับการปรับปรุงใหม่ทั้งหน้าและหลัง ควบคุมด้วยระบบไฟฟ้า โดยคอยล์สปริงมีน้ำหนักที่เบาลง เจเนอเรชันใหม่ล่าสุดของระบบช่วงล่าง MagneRide รองรับโหมดการขับขี่ที่หลากหลาย ซึ่งทีมงาน Ford Performance ใส่ไว้ให้ใช้งาน เช่น normal, slippery, sport, drag and track เป็นต้น 

ด้านการออกแบบภายนอก ได้รับการปรับปรุงใหม่เช่นเดียวกัน โดยทีมดีไซน์ร่วมมือกับทีมวิศวกรของ Ford Performance และ motor sportsในการสร้างรูปลักษณ์ของ Shelby GT500 ดูเหมือนรถแข่งในสนาม โดยที่กระจังหน้าขยายกว้างขึ้นรับลมได้มากกว่ารุ่น GT350 ถึง 50% พร้อมฝากระโปรงแบบเจาะรูสไตล์เครื่องบินเจตสอดรับกับเส้นสายต่างๆ ของตัวรถและมีสปอยเลอร์หลังพิเศษพร้อม diffuser ช่วยสร้างแรงกดได้เป็นอย่างดี

สำหรับห้องโดยสารภายในดีไซน์สไตล์รถแข่งโดยเลือกใช้วัสดุสุดหรู อย่างแผงข้างประตูเป็นหนังกลับจาก Miko เบาะนั่งตัวแข่งจาก Recaro แต่สามารถเปลี่ยนเป็นเบาะนั่งหนังกลับจาก Miko ได้ตามความต้องการส่วนระบบอำนวยความสะดวกมาครบครัน ทั้งหน้าจอแสดงผล ขนาด 12 นิ้ว ลำโพง B&O ระบบต่างๆ ควบคุมผ่านหน้าจอ 8 นิ้วที่ติดตั้งระบบ SYNC3 ที่ใช้งานผ่านการสัมผัสหน้าจอ

Ford Mustang Shelby GT500 พร้อมส่งมอบให้ลูกค้าได้ในช่วงฤดูใบไม้ร่วงของปีนี้โดยมากับ สีใหม่ 3 สี ได้แก่ แดง Red Hot, ส้ม Twister Orange และ เงิน IconicSilver พร้อมด้วยแถบคาดสไตล์สปอร์ต ส่วนสนนราคายังไม่เปิดเผยในเวลานี้