“พาณิชย์”แจงสาเหตุราคาผลปาล์มน้ำมันตกต่ำ ได้รับผลกระทบจากอากาศร้อนทำให้สุกไว และเปอร์เซ็นต์น้ำมันลด แถมเกษตรกรยังเร่งตัดเพื่อหาเงินเป็นค่าใช้จ่ายรับเปิดเทอม ด้านส่งออกลด ทั้งจากอียูยกเลิกใช้น้ำมันปาล์มดิบ และอินเดีย ซึ่งเป็นผู้นำเข้ารายใหญ่ปรับขึ้นภาษี ยันจะเดินหน้าแก้ปัญหาราคาตกต่ำเต็มที่ เผยล่าสุด กฟผ. รับมอบน้ำมันปาล์มดิบไปผลิตไฟฟ้าแล้ว 1.52 แสนตัน พลังงานเร่งใช้บี 20 วันละ 20 ล้านลิตร คาดอีก 2 เดือนสต๊อกน้ำมันปาล์มดิบเหลือในระดับปกติ
นายวิชัย โภชนกิจ อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยถึงสาเหตุราคาผลปาล์มน้ำมันตกต่ำในขณะนี้ ว่า เนื่องจากในช่วงที่ผ่านมา อากาศร้อนจัดส่งผลให้ผลปาล์มมีสภาพสุกแดดจากความร้อน จนทำให้ทางใบและคอปาล์มพับลงมา เกษตรกรจึงต้องเร่งตัดผลปาล์มเพื่อส่งขายให้กับโรงสกัด ซึ่งเกษตรกรต้องรอคิวนาน 1-2 วัน ทำให้มีค่าใช้จ่ายในการขนส่งเพิ่มขึ้น และเปอร์เซ็นต์น้ำมันปาล์มลดลง รวมทั้งขณะนี้เป็นช่วงใกล้เปิดเทอม เกษตรกรเร่งตัดผลปาล์ม เพื่อมาเป็นค่าใช้จ่ายสำหรับบุตรหลาน ในขณะที่การส่งออกลดลง เนื่องจากสหภาพยุโรป (อียู) ออกมาตรการยกเลิกใช้น้ำมันปาล์มในการผลิตเชื้อเพลิงชีวภาพ รวมทั้งการขึ้นอัตราภาษีนำเข้าของอินเดีย ซึ่งเป็นผู้นำเข้าน้ำมันปาล์มอันดับ 1 ของโลก
ทั้งนี้ กรมฯ ยังคงร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งแก้ปัญหาราคาผลปาล์มตกต่ำ โดยได้เร่งปรับสมดุลน้ำมันปาล์มในประเทศอย่างต่อเนื่อง และล่าสุดการนำน้ำมันปาล์มดิบไปใช้ผลิตไฟฟ้าโดยการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ได้มีผู้จำหน่ายน้ำมันปาล์มดิบให้ กฟผ. ครบทั้ง 1.6 แสนตันแล้ว และ กฟผ. ได้รับมอบน้ำมันปาล์มดิบแล้ว 1.52 แสนตัน คงเหลืออีก 8,000 ตันที่จะรับมอบภายในเดือนเม.ย.2562
ขณะเดียวกัน ยังได้เร่งผลักดันการใช้ด้านพลังงาน โดยได้กำหนดเป้าหมายการส่งเสริมการใช้น้ำมันดีเซลหมุนเร็ว บี 20 วันละ 20 ล้านลิตร ซึ่งขณะนี้ทุกหน่วยงานได้เร่งรัดขับเคลื่อนให้บรรลุเป้าหมาย ทั้งการประกาศรับรองมาตรฐานคุณภาพน้ำมัน บี 20 กำหนดยี่ห้อและรุ่นรถยนต์ที่สามารถใช้ บี 20 ได้ การเพิ่มสถานที่จำหน่ายเพื่อกระจายให้ครอบคลุมทุกพื้นที่ การส่งเสริมบริษัทผู้ผลิตรถยนต์ที่มีความพร้อมในการพัฒนาเครื่องยนต์ของรถยนต์รุ่นใหม่ให้รองรับการใช้ บี 20 รวมทั้งมาตรการลดราคาจำหน่ายบี 20 ต่ำกว่าน้ำมันดีเซลลิตรละ 5 บาท และการลดภาษีรถยนต์ที่ใช้ไบโอดีเซล ซึ่งมาตรการจูงใจดังกล่าวจะสามารถรองรับน้ำมันปาล์มดิบได้ปีละมากกว่า 1.27 ล้านตัน
“รัฐบาลได้ดำเนินการแก้ไขปัญหาราคาผลปาล์มตกต่ำที่สร้างความเดือดร้อนให้แก่เกษตรกรชาวสวนปาล์มอย่างต่อเนื่องมาโดยตลอด โดยคาดว่าการขับเคลื่อนมาตรการของภาครัฐทั้งการนำไปผลิตไฟฟ้า การใช้ บี 20 จะช่วยลดสต็อกน้ำมันปาล์มดิบที่มีอยู่ประมาณ 3.7 แสนตัน ให้คงเหลือในระดับสต็อกปกติในอีก 2 เดือนข้างหน้า เพื่อให้บรรลุเป้าหมายของรัฐบาลในการรักษาเสถียรภาพราคาผลปาล์มน้ำมันที่เกษตรกรขายได้ ให้อยู่ในระดับที่เกษตรกรอยู่ได้ต่อไป”นายวิชัยกล่าว
นายวิชัย โภชนกิจ อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยถึงสาเหตุราคาผลปาล์มน้ำมันตกต่ำในขณะนี้ ว่า เนื่องจากในช่วงที่ผ่านมา อากาศร้อนจัดส่งผลให้ผลปาล์มมีสภาพสุกแดดจากความร้อน จนทำให้ทางใบและคอปาล์มพับลงมา เกษตรกรจึงต้องเร่งตัดผลปาล์มเพื่อส่งขายให้กับโรงสกัด ซึ่งเกษตรกรต้องรอคิวนาน 1-2 วัน ทำให้มีค่าใช้จ่ายในการขนส่งเพิ่มขึ้น และเปอร์เซ็นต์น้ำมันปาล์มลดลง รวมทั้งขณะนี้เป็นช่วงใกล้เปิดเทอม เกษตรกรเร่งตัดผลปาล์ม เพื่อมาเป็นค่าใช้จ่ายสำหรับบุตรหลาน ในขณะที่การส่งออกลดลง เนื่องจากสหภาพยุโรป (อียู) ออกมาตรการยกเลิกใช้น้ำมันปาล์มในการผลิตเชื้อเพลิงชีวภาพ รวมทั้งการขึ้นอัตราภาษีนำเข้าของอินเดีย ซึ่งเป็นผู้นำเข้าน้ำมันปาล์มอันดับ 1 ของโลก
ทั้งนี้ กรมฯ ยังคงร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งแก้ปัญหาราคาผลปาล์มตกต่ำ โดยได้เร่งปรับสมดุลน้ำมันปาล์มในประเทศอย่างต่อเนื่อง และล่าสุดการนำน้ำมันปาล์มดิบไปใช้ผลิตไฟฟ้าโดยการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ได้มีผู้จำหน่ายน้ำมันปาล์มดิบให้ กฟผ. ครบทั้ง 1.6 แสนตันแล้ว และ กฟผ. ได้รับมอบน้ำมันปาล์มดิบแล้ว 1.52 แสนตัน คงเหลืออีก 8,000 ตันที่จะรับมอบภายในเดือนเม.ย.2562
ขณะเดียวกัน ยังได้เร่งผลักดันการใช้ด้านพลังงาน โดยได้กำหนดเป้าหมายการส่งเสริมการใช้น้ำมันดีเซลหมุนเร็ว บี 20 วันละ 20 ล้านลิตร ซึ่งขณะนี้ทุกหน่วยงานได้เร่งรัดขับเคลื่อนให้บรรลุเป้าหมาย ทั้งการประกาศรับรองมาตรฐานคุณภาพน้ำมัน บี 20 กำหนดยี่ห้อและรุ่นรถยนต์ที่สามารถใช้ บี 20 ได้ การเพิ่มสถานที่จำหน่ายเพื่อกระจายให้ครอบคลุมทุกพื้นที่ การส่งเสริมบริษัทผู้ผลิตรถยนต์ที่มีความพร้อมในการพัฒนาเครื่องยนต์ของรถยนต์รุ่นใหม่ให้รองรับการใช้ บี 20 รวมทั้งมาตรการลดราคาจำหน่ายบี 20 ต่ำกว่าน้ำมันดีเซลลิตรละ 5 บาท และการลดภาษีรถยนต์ที่ใช้ไบโอดีเซล ซึ่งมาตรการจูงใจดังกล่าวจะสามารถรองรับน้ำมันปาล์มดิบได้ปีละมากกว่า 1.27 ล้านตัน
“รัฐบาลได้ดำเนินการแก้ไขปัญหาราคาผลปาล์มตกต่ำที่สร้างความเดือดร้อนให้แก่เกษตรกรชาวสวนปาล์มอย่างต่อเนื่องมาโดยตลอด โดยคาดว่าการขับเคลื่อนมาตรการของภาครัฐทั้งการนำไปผลิตไฟฟ้า การใช้ บี 20 จะช่วยลดสต็อกน้ำมันปาล์มดิบที่มีอยู่ประมาณ 3.7 แสนตัน ให้คงเหลือในระดับสต็อกปกติในอีก 2 เดือนข้างหน้า เพื่อให้บรรลุเป้าหมายของรัฐบาลในการรักษาเสถียรภาพราคาผลปาล์มน้ำมันที่เกษตรกรขายได้ ให้อยู่ในระดับที่เกษตรกรอยู่ได้ต่อไป”นายวิชัยกล่าว
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น