ค้าชายแดน-ผ่านแดน 6 เดือนพุ่ง 6.86 แสนล้าน รับลูก “จุรินทร์” จัดกิจกรรมปั๊มยอดเพิ่ม
กรมการค้าต่างประเทศเผยการค้าชายแดนและผ่านแดน 6 เดือนปี 62 มีมูลค่า 686,437.09 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1.16% มาเลเซียนำโด่งเป็นคู่ค้าชายแดนอันดับหนึ่ง ส่วนจีนตอนใต้แชมป์การค้าผ่านแดน รับลูก “จุรินทร์” สั่งขับเคลื่อนการค้าชายแดน เตรียมจัดคณะลุยชายแดนมาเลเซียส.ค.นี้ พร้อมจัดกิจกรรมกระตุ้นการค้า นำผู้ประกอบการ YEN-D เจรจาธุรกิจที่มาเลเซียและอินโดนีเซีย จัดมหกรรมการค้าชายแดนที่มุกดาหาร และแก้อุปสรรคการค้า มั่นใจยอดครึ่งปีหลังยังโตได้ต่อเนื่อง
นายอดุลย์ โชตินิสากรณ์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่า มูลค่าการค้าชายแดนและผ่านแดนของไทย 6 เดือนของปี 2562 (ม.ค.-มิ.ย.) มีมูลค่ารวมทั้งสิ้น 686,437.09 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1.16% เป็นการส่งออก 381,705.22 ล้านบาท ลดลง 0.98% และการนำเข้า 304,731.87 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3.97% เกินดุลการค้า 76,973.36 ล้านบาท โดยแยกเป็นการค้าชายแดนกับประเทศเพื่อนบ้าน 4 ประเทศ มูลค่า 553,422.58 ล้านบาท ลดลง 0.04% เป็นการส่งออก 312,223.55 ล้านบาท ลดลง 3.96% นำเข้า 241,199.03 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.55% เกินดุลการค้า 71,024.52 ล้านบาท และการค้าผ่านแดนกับ 3 ประเทศ มูลค่า 133,014.52 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6.46% เป็นการส่งออก 69,481.68 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 15.08% นำเข้า 63,532.84 ล้านบาท ลดลง 1.61% เกินดุลการค้า 5,948.84 ล้านบาท
ทั้งนี้ การค้าชายแดน มาเลเซียยังคงเป็นคู่ค้าอันดับหนึ่ง มูลค่า 271,602.50 ล้านบาท ลดลง 2.43% เป็นการส่งออก 129,186.33 ล้านบาท ลดลง 10.99% เพราะส่งออกสินค้ากลุ่มยางพาราได้ลดลง จากบาทแข็งค่าและริงกิตอ่อนค่า และนำเข้า 142,416.18 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6.90% รองลงมา คือ เมียนมา มูลค่า 102,202.74 ล้านบาท เป็นการส่งออก 54,559 ล้านบาท ลดลง 3.05% จากการที่เงินจ๊าตอ่อนตัว ทำให้ซื้อสินค้าไทยลดลง และนำเข้า 47,644 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 16.26% สปป.ลาว มูลค่า 99,396.11 ล้านบาท เป็นการส่งออก 59,547 ล้านบาท ลดลง 10.28% เพราะจีนเข้ามาลงทุนมากขึ้น ทำให้นำเข้าสินค้าไทยลดลง และเงินกีบยังอ่อนค่า ส่งผลให้ข้ามมาเที่ยวและซื้อสินค้าไทยลดลง และนำเข้า 39,849 ล้านบาท ลดลง 3.49% และกัมพูชา มูลค่า 80,221.23 ล้านบาท เป็นการส่งออก 68,932 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 20.24% จากการส่งออกเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ รถยนต์และอุปกรณ์ รวมถึงวัสดุก่อสร้าง ที่เพิ่มขึ้นตามการลงทุนโครงการพื้นฐานของกัมพูชา และนำเข้า 11,289 ล้านบาท ลดลง 13.37%
ขณะที่การค้าผ่านแดน จีนตอนใต้ยังเป็นคู่ค้าอันดับหนึ่ง มูลค่า 59,540.84 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 39.45% เป็นการส่งออก 23,942.72 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 51.08% จากการส่งออกผลไม้สด โดยเฉพาะทุเรียน มังคุด และลำไย และนำเข้า 35,598.12 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 32.58% รองลงมาคือ เวียดนาม มูลค่า 38,565.01 ล้านบาท เป็นการส่งออก 31,031 ล้านบาท เพิ่ม 10.72% นำเข้า 7,535 ล้านบาท ลดลง 44.71% และสิงคโปร์ มูลค่า 34,908.67 ล้านบาท เป็นการส่งออก 14,508 ล้านบาท ลดลง 12.07% นำเข้า 20,400 ล้านบาท ลดลง 15.34%
นายอดุลย์กล่าวว่า กรมฯ ได้เตรียมแผนขับเคลื่อนการค้าชายแดนในช่วงครึ่งปีหลังตามนโยบายนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ โดยมีกำหนดเดินทางลงพื้นที่ชายแดนมาเลเซีย เพื่อติดตามสถานการณ์การค้าชายแดน รับฟังปัญหา และหาแนวทางผลักดันการค้าประมาณเดือนส.ค.2562 และได้เตรียมจัดกิจกรรมส่งเสริมการค้า เช่น นำผู้ประกอบการ YEN-D ไปเจรจาธุรกิจที่มาเลเซีย 13-15 ก.ย.2562 และที่อินโดนีเซีย 20-22 ก.ย.2562 และจัดมหกรรมการค้าชายแดนที่จ.มุกดาหารในเดือนก.ย.2562 รวมทั้งจะร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้าน เพื่อแก้ไขปัญหาอุปสรรคทางการค้าอย่างต่อเนื่อง
“ในปีนี้ กรมฯ ได้ตั้งเป้าการค้าชายแดนและผ่านแดนไว้ 1.6 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 15% ถือเป็นเป้าทำงาน จะทำได้หรือไม่ได้ ยังไม่รู้ แต่จะทำให้ดีที่สุด เพราะปัจจุบันไทยมีปัญหาเงินบาทแข็งค่า ส่วนค่าเงินของคู่ค้าก็อ่อนค่า ทำให้กระทบต่อการซื้อสินค้าไทย และยังมีผลกระทบจากสงครามการค้าที่เริ่มเห็นผลชัดเจนขึ้น ความขัดแย้งของคู่ค้าใหม่ๆ ระหว่างสหรัฐฯ กับสหภาพยุโรป (อียู) ญี่ปุ่นกับเกาหลีใต้ ซึ่งกระทบต่อความกังวลของผู้บริโภคและนักลงทุนเพิ่มขึ้น แต่ก็ยังมั่นใจว่าการค้าชายแดนและแผนแดนจะยังคงขยายตัวได้ดี”นายอดุลย์กล่าว
นายอดุลย์ โชตินิสากรณ์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่า มูลค่าการค้าชายแดนและผ่านแดนของไทย 6 เดือนของปี 2562 (ม.ค.-มิ.ย.) มีมูลค่ารวมทั้งสิ้น 686,437.09 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1.16% เป็นการส่งออก 381,705.22 ล้านบาท ลดลง 0.98% และการนำเข้า 304,731.87 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3.97% เกินดุลการค้า 76,973.36 ล้านบาท โดยแยกเป็นการค้าชายแดนกับประเทศเพื่อนบ้าน 4 ประเทศ มูลค่า 553,422.58 ล้านบาท ลดลง 0.04% เป็นการส่งออก 312,223.55 ล้านบาท ลดลง 3.96% นำเข้า 241,199.03 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.55% เกินดุลการค้า 71,024.52 ล้านบาท และการค้าผ่านแดนกับ 3 ประเทศ มูลค่า 133,014.52 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6.46% เป็นการส่งออก 69,481.68 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 15.08% นำเข้า 63,532.84 ล้านบาท ลดลง 1.61% เกินดุลการค้า 5,948.84 ล้านบาท
ทั้งนี้ การค้าชายแดน มาเลเซียยังคงเป็นคู่ค้าอันดับหนึ่ง มูลค่า 271,602.50 ล้านบาท ลดลง 2.43% เป็นการส่งออก 129,186.33 ล้านบาท ลดลง 10.99% เพราะส่งออกสินค้ากลุ่มยางพาราได้ลดลง จากบาทแข็งค่าและริงกิตอ่อนค่า และนำเข้า 142,416.18 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6.90% รองลงมา คือ เมียนมา มูลค่า 102,202.74 ล้านบาท เป็นการส่งออก 54,559 ล้านบาท ลดลง 3.05% จากการที่เงินจ๊าตอ่อนตัว ทำให้ซื้อสินค้าไทยลดลง และนำเข้า 47,644 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 16.26% สปป.ลาว มูลค่า 99,396.11 ล้านบาท เป็นการส่งออก 59,547 ล้านบาท ลดลง 10.28% เพราะจีนเข้ามาลงทุนมากขึ้น ทำให้นำเข้าสินค้าไทยลดลง และเงินกีบยังอ่อนค่า ส่งผลให้ข้ามมาเที่ยวและซื้อสินค้าไทยลดลง และนำเข้า 39,849 ล้านบาท ลดลง 3.49% และกัมพูชา มูลค่า 80,221.23 ล้านบาท เป็นการส่งออก 68,932 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 20.24% จากการส่งออกเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ รถยนต์และอุปกรณ์ รวมถึงวัสดุก่อสร้าง ที่เพิ่มขึ้นตามการลงทุนโครงการพื้นฐานของกัมพูชา และนำเข้า 11,289 ล้านบาท ลดลง 13.37%
ขณะที่การค้าผ่านแดน จีนตอนใต้ยังเป็นคู่ค้าอันดับหนึ่ง มูลค่า 59,540.84 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 39.45% เป็นการส่งออก 23,942.72 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 51.08% จากการส่งออกผลไม้สด โดยเฉพาะทุเรียน มังคุด และลำไย และนำเข้า 35,598.12 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 32.58% รองลงมาคือ เวียดนาม มูลค่า 38,565.01 ล้านบาท เป็นการส่งออก 31,031 ล้านบาท เพิ่ม 10.72% นำเข้า 7,535 ล้านบาท ลดลง 44.71% และสิงคโปร์ มูลค่า 34,908.67 ล้านบาท เป็นการส่งออก 14,508 ล้านบาท ลดลง 12.07% นำเข้า 20,400 ล้านบาท ลดลง 15.34%
นายอดุลย์กล่าวว่า กรมฯ ได้เตรียมแผนขับเคลื่อนการค้าชายแดนในช่วงครึ่งปีหลังตามนโยบายนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ โดยมีกำหนดเดินทางลงพื้นที่ชายแดนมาเลเซีย เพื่อติดตามสถานการณ์การค้าชายแดน รับฟังปัญหา และหาแนวทางผลักดันการค้าประมาณเดือนส.ค.2562 และได้เตรียมจัดกิจกรรมส่งเสริมการค้า เช่น นำผู้ประกอบการ YEN-D ไปเจรจาธุรกิจที่มาเลเซีย 13-15 ก.ย.2562 และที่อินโดนีเซีย 20-22 ก.ย.2562 และจัดมหกรรมการค้าชายแดนที่จ.มุกดาหารในเดือนก.ย.2562 รวมทั้งจะร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้าน เพื่อแก้ไขปัญหาอุปสรรคทางการค้าอย่างต่อเนื่อง
“ในปีนี้ กรมฯ ได้ตั้งเป้าการค้าชายแดนและผ่านแดนไว้ 1.6 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 15% ถือเป็นเป้าทำงาน จะทำได้หรือไม่ได้ ยังไม่รู้ แต่จะทำให้ดีที่สุด เพราะปัจจุบันไทยมีปัญหาเงินบาทแข็งค่า ส่วนค่าเงินของคู่ค้าก็อ่อนค่า ทำให้กระทบต่อการซื้อสินค้าไทย และยังมีผลกระทบจากสงครามการค้าที่เริ่มเห็นผลชัดเจนขึ้น ความขัดแย้งของคู่ค้าใหม่ๆ ระหว่างสหรัฐฯ กับสหภาพยุโรป (อียู) ญี่ปุ่นกับเกาหลีใต้ ซึ่งกระทบต่อความกังวลของผู้บริโภคและนักลงทุนเพิ่มขึ้น แต่ก็ยังมั่นใจว่าการค้าชายแดนและแผนแดนจะยังคงขยายตัวได้ดี”นายอดุลย์กล่าว
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น