เตือนระวังโรคต้นเน่าในข้าวโพด - ข่าวเด่นวันนี้ | Today Highlight News

Breaking

Home Top Ad

Post Top Ad

วันพุธที่ 31 กรกฎาคม พ.ศ. 2562

เตือนระวังโรคต้นเน่าในข้าวโพด

ระยะนี้จะมีฝนตกกระจายทั่วไป กรมวิชาการเกษตร เตือนเกษตรกรผู้ปลูกข้าวโพด ให้หมั่นสังเกตอาการโรคต้นเน่า มักพบแสดงอาการในระยะที่ต้นข้าวโพดเริ่มออกดอกจนถึงระยะต้นข้าวโพดติดฝัก ซึ่งระยะนี้ต้นข้าวโพดจะอ่อนแอต่อโรคนี้มาก โดยอาการของโรคจะพบใบข้าวโพดมีสีเขียวอมเทา ต่อมาใบจะเหี่ยวสลดและไหม้แห้งตาย ส่วนบริเวณลำต้นเหนือดินพบแผลสีน้ำตาลอ่อนถึงสีน้ำตาลเข้ม ต่อมาแผลจะแห้งยุบตัวลง ลำต้นจะแตกหรือฉีก เมื่อผ่าดูภายในลำต้นจะพบเนื้อเยื่อบริเวณที่เกิดอาการของโรคเป็นสีชมพูอมม่วง ลำต้นจะกลวงเพราะถูกเชื้อราย่อยสลาย ทำให้ต้นหักล้มได้ง่าย เกษตรกรผู้ปลูกข้าวโพดควรหมั่นตรวจแปลงปลูก กรณีเริ่มพบการระบาดให้ถอนต้นข้าวโพดที่แสดงลักษณะอาการของโรคไปเผาทำลาย และควรหมั่นกำจัดวัชพืชภายในแปลงปลูก เพื่อลดความชื้นสะสมในแปลง รวมทั้งก่อนปลูกข้าวโพดในฤดูต่อไป เกษตรกรควรไถพรวนพลิกดินขึ้นมาตากแดด 2-3 แดด โดยไถให้ลึกจากผิวดินมากกว่า 20 เซนติเมตรขึ้นไป และตากดินให้นานกว่า 2 สัปดาห์ เพื่อฆ่าเชื้อโรคที่อาจตกค้างในดิน ลดปริมาณเชื้อในดินลงได้มาก จากนั้นให้ใส่ปูนขาวเพื่อปรับสภาพดิน และใส่ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยอินทรีย์ เพื่อเติมอินทรียวัตถุในแปลงปลูก
นอกจากนี้ ในการเพาะปลูกข้าวโพดครั้งถัดไป เกษตรกรควรเลือกใช้เมล็ดพันธุ์ข้าวโพดที่ต้านทานโรค และคลุกเมล็ดพันธุ์ก่อนปลูกด้วยสารป้องกันกำจัดโรคพืชเมทาแลกซิล 35% ดีเอส อัตรา 7-10 กรัมต่อเมล็ดพันธุ์ 1 กิโลกรัม หรือสารเมทาแลกซิล-เอ็ม 35% อีเอส อัตรา 3.5 มิลลิลิตรต่อเมล็ดพันธุ์ 1 กิโลกรัม หรือสารไดเมโทมอร์ฟ 50% ดับเบิ้ลยูพี อัตรา 30 กรัมต่อเมล็ดพันธุ์ 1 กิโลกรัม อีกทั้ง ควรปรับระยะปลูกให้เหมาะสม ไม่ปลูกชิดกันและไม่ใส่ปุ๋ยไนโตรเจนมากเกินไป

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Post Bottom Ad