KKPจับกลุ่มลูกค้าคุณภาพสูง ลดเสี่ยงจากภาวะเศรษฐกิจผันผวน - ข่าวเด่นวันนี้ | Today Highlight News

Breaking

Home Top Ad

Post Top Ad

วันพุธที่ 31 กรกฎาคม พ.ศ. 2562

KKPจับกลุ่มลูกค้าคุณภาพสูง ลดเสี่ยงจากภาวะเศรษฐกิจผันผวน

KKPจับกลุ่มลูกค้าคุณภาพสูง  ลดเสี่ยงจากภาวะเศรษฐกิจผันผวน
นายอภินันท์ เกลียวปฏินนท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มธุรกิจการเงินเกียรตินาคินภัทร (KKP)เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานครึ่งปีแรกของกลุ่มธุรกิจฯได้รับผลกระทบจากสภาวะของตลาด ไม่ว่าจะการหดตัวของการลงทุนภาคเอกชน การส่งออก จำนวนนักท่องเที่ยวจีนที่ลดลง ปัญหาหนี้ครัวเรือนที่เพิ่มสูงขึ้น อีกทั้งในอนาคตยังมีความไม่แน่นอนจากสงครามการค้าและภัยแล้งทำให้เราเลือกที่จะเติบโตอย่างระมัดระวัง
อย่างไรก็ตาม ในช่วงครึ่งปีแรก สำหรับธุรกิจธนาคารพาณิชย์ ขนาดสินเชื่อยังคงรักษาอัตราการเติบโตที่ 2.1% โดยเฉพาะกลุ่มสินเชื่อบรรษัท สินเชื่อลอมบาร์ด และสินเชื่อธุรกิจ ซึ่งล้วนเป็นสินเชื่อที่ให้แก่ลูกค้ากลุ่มที่มีเครดิตดี และน่าจะให้ผลตอบแทนที่สม่ำเสมอแม้ในสภาวะเศรษฐกิจที่ท้าทายและมีความไม่แน่นอนสูงโดยสินเชื่อทั้ง 3 กลุ่มเติบโต 17% 3.9% และ 0.6% ตามลำดับ
ในส่วนของสินเชื่อลูกค้ารายย่อยขยายตัวเกือบทุกประเภทเช่นกัน มีเพียงสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์และสินเชื่อธุรกิจเอสเอ็มอี ที่ธนาคารชะลอการเติบโตโดยมุ่งรักษาคุณภาพสินเชื่อเพื่อลดการก่อตัวของหนี้เสีย ทั้งนี้ แม้อัตราส่วนสินเชื่อด้อยคุณภาพของสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์จะเพิ่มสูงขึ้นเล็กน้อย ก็เป็นการปรับตัวตามความคาดหมายและตามรูปแบบการดำเนินธุรกิจที่ได้เพิ่มสัดส่วนสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์มือสองเนื่องจากเป็นกลุ่มที่ให้อัตราผลตอบแทนที่ดีกว่ารถยนต์ใหม่
ในส่วนของธุรกิจตลาดทุนยังคงขยายตัวต่อเนื่อง ทั้งในส่วนของธุรกิจนายหน้าค้าหลักหลักทรัพย์ ซึ่งบริษัทหลักทรัพย์(บล.)ภัทรมีส่วนแบ่งตลาดเป็นอันดับหนึ่งธุรกิจวาณิชธนกิจ ซึ่งคาดว่าในครึ่งปีหลังและปีหน้าจะมีรายได้จากธุรกรรมใหญ่หลายรายการที่บล.ภัทรได้รับเลือกให้ดำเนินการ และที่สำคัญธุรกิจ Wealth Management ซึ่งมีสินทรัพย์ภายใต้คำแนะนำเพิ่ม เป็น 547,000 ล้านบาท โดยยังคงรุกหน้าเพิ่มผลิตภัณฑ์การลงทุนที่มีความซับซ้อนระดับสูงอย่างต่อเนื่อง อาทิ Equity-Linked Notes, Principal-Protected Notes, Phatra Derivative Warrants, Phatra Single Stock Future Blocktrade ฯลฯ ทั้งยังบุกเบิกบริการด้านการลงทุนตรงในสินทรัพย์ต่างประเทศที่หลากหลายไม่ว่าจะเป็นกองทุน หรือตราสารหนี้ นอกจากนี้ ธุรกิจจัดการกองทุนที่ดำเนินการผ่านบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน(บลจ.)ภัทร ก็เติบโตดี มีทรัพย์สินภายใต้การจัดการของกองทุนรวมกว่า 69,891 ล้านบาท
นายฟิลิป เชียง ชอง แทน กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารเกียรตินาคินซึ่งรับผิดชอบในส่วนของธุรกิจลูกค้ารายย่อยและลูกค้าบุคคล กล่าวถึงแผนธุรกิจในระยะต่อไปว่า ธนาคารได้แบ่งยุทธศาสตร์ออกเป็น 4 ส่วน คือ 1.การออกแบบผลิตภัณฑ์ให้เป็นตัวเลือกของผู้บริโภคอย่างแท้จริง 2.การพัฒนาขอบเขตและขีดความสามารถทางด้านไอทีเพราะอนาคตอยู่ที่โลกดิจิทัล 3.การให้ความสำคัญกับประสบการณ์ของผู้บริโภคซึ่งต้องครบวงจรทั้งออฟไลน์และออนไลน์ และ 4.การเสาะหา บำรุง และสร้างแรงจูงใจให้แก่บุคลากรคุณภาพ เนื่องจากคุณภาพคนคือตัวกำหนดคุณภาพของบริการที่จะออกสู่ผู้บริโภคในที่สุด
นายปรีชา เตชรุ่งชัยกุล ประธานสายการเงินและงบประมาณและประธานสายตลาดการเงิน ธนาคารเกียรตินาคิน กล่าวถึงผลการดำเนินงานงวดหกเดือน สิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2562ของธนาคารเกียรตินาคิน และบริษัทย่อยว่ากลุ่มธุรกิจฯ มีกำไรสุทธิ ไม่รวมส่วนของผู้ถือหุ้นส่วนน้อยเท่ากับ 2,699 ล้านบาท ลดลง 11.9% จากงวดเดียวกันของปี 2561 เป็นกำไรสุทธิของธุรกิจตลาดทุน ซึ่งดำเนินการโดยบริษัท ทุนภัทร และบริษัทย่อย จำนวน 327 ล้านบาท มีรายได้ดอกเบี้ยสุทธิ 5,971 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10.6% จากงวดเดียวกันของปีก่อน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Post Bottom Ad