ก.อุตฯ สั่งเอ็กซเรย์เข้มกว่า 200 โรงงาน เสี่ยงลักลอบทิ้งกากอุตสาหกรรม - ข่าวเด่นวันนี้ | Today Highlight News

Breaking

Home Top Ad

Post Top Ad

วันอาทิตย์ที่ 29 กันยายน พ.ศ. 2562

ก.อุตฯ สั่งเอ็กซเรย์เข้มกว่า 200 โรงงาน เสี่ยงลักลอบทิ้งกากอุตสาหกรรม

ก.อุตฯ สั่งเอ็กซเรย์เข้มกว่า 200 โรงงาน เสี่ยงลักลอบทิ้งกากอุตสาหกรรม

วันที่ 23 ก.ย.62 ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม ยกระดับการกำกับโรงงานเสี่ยงลักลอบทิ้งกากอุตสาหกรรม สั่งเอ็กซเรย์เข้มพร้อมจัดทำแผนป้องกันโดยเน้นที่ต้นทาง เพื่อป้องกันปัญหามลภาวะสิ่งแวดล้อมที่อาจเกิดขึ้นแก่ประชาชนที่อยู่โดยรอบ 
นายพสุ โลหารชุน ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า ในช่วงที่ผ่านมาปรากฏข่าวการลักลอบทิ้งกากอุตสาหกรรมอยู่บ่อยครั้งในหลายพื้นที่ ส่วนใหญ่เป็นกากอุตสาหกรรมที่มีสิ่งเจือปนเกินค่าที่กฎหมายกำหนดและหลายกรณีเข้าข่ายเป็นของเสียอันตราย ซึ่งเมื่อจังหวัดใดพบปัญหาการลักลอบทิ้งกากอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรมจะเข้าไปกำจัดกากอุตสาหกรรมเพื่อช่วยบรรเทาทุกข์แก่ประชาชนที่อยู่โดยรอบ รวมถึงป้องกันปัญหามลภาวะสิ่งแวดล้อมที่อาจเกิดขึ้นโดยแต่ละครั้งจะมีค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูงนับร้อยล้านบาท กระทรวงฯ จึงได้สั่งการให้ กรมโรงงานอุตสาหกรรม (กรอ.) จัดทำมาตรการป้องกันปัญหาลักลอบทิ้งกากอุตสาหกรรม และกำหนดแนวทางเพื่อป้องกันปัญหาดังกล่าวตั้งแต่ต้นทางอย่างเป็นระบบและครบวงจร โดยได้มีการเห็นชอบแผนการป้องกันการลักลอบทิ้งกากอุตสาหกรรม ปี พ.ศ.2562 ที่ กรอ.นำเสนอ มีผลดำเนินการในทันที
แผนการป้องกันการลักลอบทิ้งกากฯ แบ่งเป็น 3 ระยะตามลำดับ 
1) การแจ้งเตือนผู้ประกอบกิจการโรงงาน จำนวน 2,353 ราย ให้ปฏิบัติตามประกาศกระทรวงอุตสาหกรรม เรื่อง หลักเกณฑ์และวิธีการแจ้งรายละเอียดเกี่ยวกับสิ่งปฏิกูลหรือวัสดุไม่ใช้แล้วจากโรงงาน โดยทางสื่ออิเล็กทรอนิกส์ (Internet) พ.ศ. 2547 และ ประกาศกระทรวงอุตสาหกรรม เรื่องการกำจัดสิ่งปฏิกูลหรือวัสดุที่ไม่ใช้แล้ว พ.ศ. 2548 อย่างเคร่งครัด หากพบว่าไม่ปฏิบัติตามจะถือว่าฝ่าฝืนกฎหมาย มีระวางโทษปรับไม่เกินสองแสนบาทและอาจเป็นเหตุให้ทางราชการมีคำสั่งให้ปรับปรุงแก้ไขโรงงาน รวมทั้งอาจนำไปสู่เงื่อนไขการออกคำสั่งให้หยุดประกอบกิจการโรงงาน หรือ ปิดโรงงานได้แล้วแต่กรณี
 2) การส่งเสริมให้โรงงานอุตสาหกรรมให้มีการจัดการอุตสาหกรรมอย่างมีประสิทธิภาพด้วยหลัก 3Rs  (Reduce – การลดของเสียตั้งแต่แหล่งกำเนิด // Reuse – การนำของเสียที่เกิดขึ้นนำกลับไปใช้ซ้ำ // Recycle - การนำของเสียไปเปลี่ยนสภาพผ่านกระบวนการต่างๆ และกลับมาใช้ประโยชน์ใหม่) ซึ่งมีการเผยแพร่ความรู้ทางเว็บไซต์ กรอ. และผ่านโครงการต่าง ๆ 
3) การสั่งการให้ กรอ.และสำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัด (สอจ.) กำกับดูแล ตรวจสอบกำกับโรงงานที่มีความเสี่ยงต่อการลักลอบทิ้งกากของเสียอันตราย จำนวน 205 ราย ที่ประเมินแล้วว่ากากอุตสาหกรรมประเภทที่มีความเสี่ยงต่อการลักลอบทิ้งกากฯ แบ่งเป็น โรงงานในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานคร 12 ราย และโรงงานในต่างจังหวัด 193 ราย 
“เจ้าหน้าที่ กรอ. และ สอจ. จะเข้าไปตรวจสอบกำกับโรงงานที่มีความเสี่ยง จำนวน 205 โรง ในช่วงเดือนกันยายน - พฤศจิกายนนี้ เพื่อให้การดำเนินการเป็นไปตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด โดยโรงงานที่ กรอ. ได้ชี้เป้าเป็นกลุ่มโรงงานผู้รับบำบัด กำจัดของเสีย จำนวน 24 ราย และ กลุ่มโรงงานผู้ก่อกำเนิดของเสีย จำนวน 181 ราย ว่าโรงงานมีของเสียชนิดใด และใช้บริการโรงงานผู้รับบำบัด กำจัดใด อยู่ในพื้นที่จังหวัดใดบ้าง ส่วนการตรวจสอบฯ จะเข้าไปดูว่าโรงงานปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องครบถ้วนหรือไม่ โดยเฉพาะการแจ้งข้อมูลผ่านทางระบบอิเล็กทรอนิกส์ของโรงงานที่เกี่ยวข้องที่ต้องแจ้งเข้ามาในระบบของ กรอ. ทุกครั้งและทันที รวมถึงตรวจสอบปริมาณของเสียอันตราย และข้อมูลการส่งกำจัด บำบัด โดยต้องสอดคล้องกันตามหลักวิชาการ โดยกระทรวงฯ จะกำกับดูแลอย่างเข้มข้น นอกจากนี้ ยังสั่งการเจ้าหน้าที่ให้คำแนะนำโรงงาน ลดและจัดการของเสียจากการประกอบกิจการอย่างมีประสิทธิภาพ โดยนำหลัก 3Rs มาประยุกต์ใช้

ส่วนกรณีพบการลักลอบทิ้งกากอุตสาหกรรมในพื้นที่ กระทรวงฯ ได้ซักซ้อมความเข้าใจและวางแนวทางปฏิบัติแจ้ง สอจ.ทั่วประเทศทราบโดยทั่วกันแล้ว โดยได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ สอจ. ทำงานร่วมกับพนักงานสอบสวน เพื่อให้รู้ว่าได้รับของเสียมาจากโรงงานใด เพื่อเป็นหลักฐานก่อนเสนอเรื่องของบประมาณมายังกระทรวง เพื่อดำเนินการเรียกค่าเสียหายในการกำจัดฯ คืนให้แก่ภาครัฐต่อไป โดย กรอ. จะเป็นหน่วยงานสนับสนุนด้านวิชาการ และกระทรวงฯ ได้ดำเนินการขอจัดสรรงบประมาณประจำปี 2563 เพื่อสำรองจ่ายไปพลางก่อน” นายพสุ กล่าว
จากการวิเคราะห์เหตุการณ์และสาเหตุการลักลอบทิ้งกากอุตสาหกรรม 3 กรณี (Cases) ย้อนหลังของ กรอ. พบว่า การบำบัด กำจัดของเสียอันตรายแต่ละชนิด ประเภท จะมีวิธีการและค่าใช้จ่ายแตกต่างกัน และของเสียที่ไม่มีมูลค่า กำจัดยาก มีค่าจ่ายในการบำบัด กำจัดสูง มีความเสี่ยงต่อการที่ผู้ประกอบการเหล่านั้น จะนำของเสียที่รับมาบำบัดไปลักลอบทิ้งตามบ่อน้ำ บ่อลูกรัง พื้นที่ รกร้าง เพื่อเป็นการลดต้นทุนในการบำบัด ดังนั้น กรอ. จะมุ่งเน้นการกำกับดูแลผู้รับบำบัด/กำจัด ซึ่งมีจำนวนโรงงานทั้งสิ้น 2,343 ราย และจะยกระดับการตรวจสอบโรงงานที่มีความเสี่ยงต่อการลักลอบทิ้งของเสียประเภท กรด-ด่างเข้มข้น Coolant และเชื้อเพลิงทดแทน เฝ้าระวังเป็นกรณีพิเศษ ซึ่งคัดโรงงานเกี่ยวข้องได้จำนวน 205 ราย    
ทั้งนี้ โรงงานที่เกี่ยวข้องกับการจัดการกากอุตสาหกรรมในประเทศไทย มีจำนวนทั้งสิ้น 2,353 ราย แบ่งเป็น ประเภทโรงงานลำดับที่ 101 (ปรับคุณภาพของเสียรวม) จำนวน 141 ราย โรงงานลำดับที่ 105 (คัดแยกหรือฝังกลบสิงปฏิกูล หรือวัสดุไม่ใช้แล้ว) จำนวน 1,450 ราย และ โรงงานลำดับที่ 106 (นำผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมที่ไม่ใช้แล้วหรือของเสียจากโรงงานมาผลิตเป็นวัตถุดิบหรือผลิตภัณฑ์ใหม่โดยผ่านกรรมวิธีการผลิตทางอุตสาหกรรม) จำนวน 762 ราย
ด้านนายสุรพล ชามาตย์ รองปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวว่า ปัจจุบันยังมีการร้องเรียนเกี่ยวกับเรื่องการอนุญาตขนกากอุตสาหกรรมเข้าสู่โรงงานที่ไม่ใช่โรงงานตามอนุญาต (โรงงานประเภทลำดับ ที่ 101 105 และ 106 ตามกฎหมายว่าด้วยโรงงาน) ซึ่งจะส่งผลต่อสิ่งแวดล้อมโดยรอบและสุขภาพของประชาชนในพื้นที่ จึงอยากจะขอเตือนผู้ประกอบการให้ดำเนินการขออนุญาตการนำเข้า

ที่มา : M Report

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Post Bottom Ad