ผวาสินค้าเหล็กพุ่ง39% หลังใช้กม.ตอบโต้ทุ่มตลาด - ข่าวเด่นวันนี้ | Today Highlight News

Breaking

Home Top Ad

Post Top Ad

วันจันทร์ที่ 30 กันยายน พ.ศ. 2562

ผวาสินค้าเหล็กพุ่ง39% หลังใช้กม.ตอบโต้ทุ่มตลาด

ผวาสินค้าเหล็กพุ่ง39%  หลังใช้กม.ตอบโต้ทุ่มตลาด
นายพันธนวุฒิ ถิ่นคำแบ่ง นายกสมาคมการค้าผู้ผลิตหลังคาเหล็กไทย เปิดเผยว่าประมาณช่วงกลางเดือนพฤศจิกายน 2562พระราชบัญญัติ(พ.ร.บ.)การตอบโต้การทุ่มตลาดและการอุดหนุนซึ่งสินค้าจากต่างประเทศ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2562 ที่มีกระทรวงพาณิชย์ เป็นเจ้าภาพ จะมีผลใช้บังคับ ซึ่งจะมีการตั้งกำแพงภาษีการนำเข้าเหล็กสูงกว่า 39% คาดว่าส่งผลกระทบโดยรวมต่อผู้บริโภคต้องซื้อสินค้าในราคาที่สูงขึ้น และส่งผลกระทบต่อผู้ประกอบการธุรกิจที่ใช้หลังคาเหล็กไทยเป็นวัตถุดิบ ประมาณ 1,500 ราย ที่ต้องแบกรับภาระต้นทุนที่สูงขึ้น และแรงงานในระบบกว่า 100,000 คน
ทั้งนี้ เมื่อต้นเดือนกันยายนที่ผ่านมา ทางสภาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม(สภาเอสเอ็มอี) และภาคีเครือข่ายสภาเอสเอ็มอีที่อยู่ในอุตสาหกรรมเหล็กและอุตสาหกรรมต่อเนื่องจำนวน 5 สมาคม ได้ยื่นหนังสือต่อนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รมว.พาณิชย์ และนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจรมว.อุตสาหกรรม เพื่อขอให้พิจารณาช่วยเหลือโดยนายสุริยะตอบรับให้เข้าพบแล้วต้นเดือน ตุลาคมนี้ ส่วนนายจุรินทร์ยังอยู่ระหว่างประสาน โดยช่วงที่ผ่านมาเคยพยายามคัดค้านกฎหมายดังกล่าวตั้งแต่อยู่ในการพิจารณาของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.)แต่ไม่ได้ผลตอบรับ เพราะกลุ่มที่ต้องการให้มีกฎหมายบังคับคือกลุ่มผู้ผลิตบริษัทเหล็กบางราย
“ผลกระทบจากกฎหมายนี้ค่อนข้างรุนแรงโดยเฉพาะผลกระทบต่อผู้บริโภคที่ต้องซื้อสินค้าในราคาแพงขึ้นอย่างน้อย 39% ตามที่กำแพงภาษีนำเข้า เนื่องจากอุตสาหกรรมการผลิตหลังคาเหล็กไทย ผลิตเพียง 2 บริษัท มีกำลังการผลิตรวมกันไม่เกินปีละ 3.35 แสนตันต่อปี ขณะที่การบริโภคอยู่ที่ 1 ล้านตันต่อปี ที่เหลือ 6-7 แสนตันต่อปีต้องนำเข้า จึงปฏิเสธไม่ได้ว่า เมื่อนำเข้าต้นทุนสูงขึ้น ผู้บริโภคก็ต้องได้รับผลกระทบตาม โดยคาดว่าภายใน 3 เดือน หลังกฎหมายบังคับใช้ ราคาหลังคาเหล็กจะปรับตัวเพิ่มขึ้นแน่นอน”นายพันธนวุฒิกล่าว

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Post Bottom Ad