‘JMT’มั่นใจครึ่งปีหลังแกร่ง รุกซื้อหนี้ด้อยคุณภาพเข้าพอร์ตเพิ่ม - ข่าวเด่นวันนี้ | Today Highlight News

Breaking

Home Top Ad

Post Top Ad

วันอาทิตย์ที่ 29 กันยายน พ.ศ. 2562

‘JMT’มั่นใจครึ่งปีหลังแกร่ง รุกซื้อหนี้ด้อยคุณภาพเข้าพอร์ตเพิ่ม

‘JMT’มั่นใจครึ่งปีหลังแกร่ง  รุกซื้อหนี้ด้อยคุณภาพเข้าพอร์ตเพิ่ม
นายสุทธิรักษ์ ตรัยชิรอาภรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจ เอ็ม ที เน็ทเวอร์คเซอร์วิสเซ็ส จำกัด (มหาชน) หรือ JMT ผู้นำในธุรกิจบริหารหนี้ด้อยคุณภาพรายใหญ่ของประเทศ เปิดเผยถึงแนวโน้มผลประกอบการในช่วงครึ่งปีหลัง 2562 ว่า ผลประกอบการของบริษัทจะเติบโตกว่าในช่วงครึ่งปีแรก 2562 จากแผนการตัดต้นทุนของกองหนี้ด้อยคุณภาพก้อนใหญ่ครบทั้งจำนวน ซึ่งจะสนับสนุนผลประกอบการในช่วงโค้งสุดท้ายของปี 2562 ให้โดดเด่น ในขณะที่ในช่วงไตรมาส 3/2562 บริษทจะเดินหน้าซื้อหนี้ด้อยคุณภาพเข้ามาบริหารอย่างต่อเนื่อง โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการเจรจากับสถาบันการเงินแห่งหนึ่ง เพื่อซื้อกองหนี้มูลค่าประมาณ 6,000 ล้านบาท โดยคาดว่าจะได้ผลสรุปในเร็วๆ นี้ และบริษัทยังมีกองหนี้ที่อยู่ระหว่างการรอเซ็นสัญญาเพิ่มเติมอีก
ทั้งนี้ในช่วงครึ่งปีหลัง 2562 แนวโน้มภาพรวมสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ในระบบยังคงมีอยู่จำนวนมาก (Non-Performing Loan : NPL) โดยเฉพาะในช่วงไตรมาส 4/2562 สถาบันการเงินต่างๆ มีแผนขายหนี้ออกมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะเป็นโอกาสของบริษัทที่จะได้รับอานิสงส์ในการซื้อหนี้เข้ามาเติมพอร์ต สำหรับเงินลงทุนในปี 2562 นี้ที่บริษัทวางไว้ที่ประมาณ 4,500 ล้านบาทคาดว่าจะใช้หมดตามเป้าหมาย โดยในงวดครึ่งปีแรก 2562 นี้ใช้เงินลงทุนไปแล้วประมาณ 1,200 ล้านบาท มีพอร์ตบริหารหนี้รวมอยู่ที่ 148,000 ล้านบาท ถือเป็นผู้นำอันดับหนึ่งในธุรกิจบริหารหนี้ด้อยคุณภาพในประเทศไทยแบบที่ไม่มีหลักประกัน
“ผลประกอบการในช่วงครึ่งปีหลัง 2562 บริษัทรับปัจจัยบวกจากแผนการตัดต้นทุนในกองหนี้ก้อนใหญ่หมดในช่วงไตรมาส 3 ซึ่งสะท้อนความสามารถในการบริหารงาน และการจัดเก็บหนี้ในระดับที่ดีอย่างต่อเนื่อง พร้อมเดินหน้าซื้อหนี้เข้ามาบริหารเพิ่ม ทั้งหนี้แบบไม่มีหลักประกัน และการรุกหนี้แบบมีหลักประกัน โดยบริษัทได้ให้ความสำคัญในเรื่องคุณภาพของหนี้มากกว่าจำนวน เพื่อการเติบโตของกำไรเป็นสำคัญ และคาดว่าจะใช้เงินลงทุนได้ตามแผนวานที่วางไว้ สนับสนุนภาพรวมรายได้และกำไรทั้งปี 2562 ที่คาดว่าจะเติบโต 50% จากปี 2561 โดยรายได้รวมอยู่ที่ประมาณ 1,886 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 506 ล้านบาท ซึ่งทำสถิติสูงสุดใหม่ต่อเนื่องทั้งรายได้และกำไร”นายสุทธิรักษ์ กล่าว

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Post Bottom Ad