พณ. ชี้ประโยชน์ เอฟทีเอ ดันไทยติด Top10 ผู้ส่งออกสินค้าเกษตรโลก - ข่าวเด่นวันนี้ | Today Highlight News

Breaking

Home Top Ad

Post Top Ad

วันจันทร์ที่ 30 กันยายน พ.ศ. 2562

พณ. ชี้ประโยชน์ เอฟทีเอ ดันไทยติด Top10 ผู้ส่งออกสินค้าเกษตรโลก

พณ. ชี้ประโยชน์ เอฟทีเอ ดันไทยติด Top10 ผู้ส่งออกสินค้าเกษตรโลก


30 กันยายน 2562
นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า กรมได้ติดตามสถานการณ์การส่งออกสินค้าเกษตรของไทยในช่วงสภาวะเศรษฐกิจทั่วโลกชะลอตัว พบว่าช่วง 7 เดือนแรกปี 2562 ไทยส่งออกสินค้าเกษตรสู่ตลาดโลกคิดเป็นมูลค่ารวม 23,741 ล้านเหรียญสหรัฐ ทำให้ไทยขยับลำดับขึ้นมาเป็นประเทศผู้นำในการส่งออกสินค้าเกษตรสู่ตลาดโลก ลำดับที่ 10 จากเดิมลำดับที่ 11 ในปี 2561 และหากเทียบกับกลุ่มสมาชิกอาเซียน ไทยเป็นประเทศที่ส่งออกสินค้าเกษตรสูงที่สุดอีกด้วย
นางอรมน กล่าวว่า ในสภาวะเศรษฐกิจทั่วโลกที่ชะลอตัวส่งผลให้การส่งออกสินค้าเกษตรของประเทศต่างๆ หดตัว ความตกลงการค้าเสรี(เอฟทีเอ)เป็นกุญแจสำคัญช่วยสร้างแต้มต่อให้สินค้าเกษตรไทย มีศักยภาพด้านการแข่งขันสูงในตลาดโลก โดยเฉพาะตลาดที่ไทยมีเอฟทีเอด้วย โดยช่วง 7 เดือนแรกปี 2562 การส่งออกสินค้าเกษตรไทยไป 18 ประเทศคู่เอฟทีเอ ได้แก่ อาเซียน จีน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ อินเดีย ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ เปรู ชิลี และฮ่องกง มีมูลค่ารวม 16,833 ล้านเหรียญสหรัฐ คิดเป็นร้อยละ 70 ของการส่งออกสินค้าเกษตรไทยทั้งหมด
” มีคู่ค้าสำคัญ 3 อันดับแรก ได้แก่ อาเซียน จีน และญี่ปุ่น สอดคล้องกับสถิติช่วงครึ่งปี 2562 ที่มีการใช้สิทธิประโยชน์ในการส่งออกสินค้าเกษตรด้วยเอฟทีเอสูง โดยเฉพาะยางพารา มันสำปะหลังและผลิตภัณฑ์ ผลไม้สดและแปรรูป ไก่สดแช่แข็ง เป็นต้น”
สำหรับเอฟทีเอที่มีการใช้สิทธิประโยชน์ในการส่งออกสินค้าเกษตรสูงเป็นอันดับต้น ได้แก่ เอฟทีเอระหว่างอาเซียน (ฝรั่ง มะม่วง มังคุด) เอฟทีเออาเซียน-จีน (ยางพารา ทุเรียน มันสำปะหลัง มะม่วง ฝรั่ง มังคุด) เอฟทีเอไทย-ญี่ปุ่น (เนื้อไก่และเครื่องในไก่ เนื้อสัตวปีกแช่แข็ง กุ้งปรุงแต่ง) เอฟทีเออาเซียน-ญี่ปุ่น (กุ้งปรุงแต่ง ปลาแมคเคอเรล/ปลาซาร์ดีนปรุงแต่ง) เอฟทีเออาเซียน-เกาหลี (ฝรั่ง มะม่วง มังคุด) เอฟทีเออาเซียน-ออสเตรเลีย-นิวซีแลนด์ (ปลาทูน่าปรุงแต่ง) เอฟทีเอไทย-ชิลี (ปลาทูน่า ปลาสคิปแจ๊ค)
          นางอรมน กล่าวว่า สินค้าเกษตรไทยที่มีอัตราการเติบโตช่วง 7 เดือนแรกปี 2562 เช่น ผลไม้ เพิ่มขึ้นร้อยละ 45 เครื่องเทศและสมุนไพร เพิ่มขึ้นร้อยละ 28 ผัก เพิ่มขึ้นร้อยละ 4 ไก่สด เพิ่มขึ้นร้อยละ 4 มีตลาดส่งออกสำคัญที่ขยายตัว ได้แก่ จีน ขยายตัวร้อยละ 14 ฮ่องกง ขยายตัวร้อยละ 13 สหรัฐฯ ขยายตัวร้อยละ 8 เกาหลีใต้ ขยายตัวร้อยละ 8 ออสเตรเลีย ขยายตัวร้อยละ 1.5 เป็นต้น
ซึ่งกรมฯ ให้ความสำคัญกับการเจรจาผลักดันให้คู่ค้าลดเลิกภาษีและอุปสรรคทางการค้า เพื่อสร้างความได้เปรียบและโอกาสทางการตลาดให้กับสินค้าเกษตรของไทยอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งการทบทวนความตกลงเอฟทีเอที่มีอยู่แล้ว เอฟทีเอที่อยู่ระหว่างการเจรจา เช่น อาร์เซ็ป ตุรกี ปากีสถาน และศรีลังกา และเอฟทีเอที่มีแผนจะเจรจาในอนาคต เช่น สหภาพยุโรป และสหราชอาณาจักร เป็นต้น
ปัจจุบันมีเกษตรกรไทยจำนวนมากที่มีศักยภาพที่จะพัฒนาสินค้าเกษตรไทยออกสู่ตลาดต่างประเทศ จึงขอเชิญชวนให้เกษตรกรและผู้ประกอบการไทยใช้สิทธิประโยชน์จากความตกลงเอฟทีเอที่ประเทศคู่ค้า ลดภาษีศุลกากรให้กับสินค้าเกษตรไทย ตรวจสอบข้อมูลที่ http://ftacenter.dtn.go.th

ที่มา: www.matichon.co.th

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Post Bottom Ad