ข่าวดีในข่าวร้าย! ผู้นำเข้าสหรัฐฯ เร่งสั่งซื้อ คาดดันส่งออกสินค้าถูกหั่นจีเอสพีช่วงโค้งสุดท้ายพุ่ง - ข่าวเด่นวันนี้ | Today Highlight News

Breaking

Home Top Ad

Post Top Ad

วันพุธที่ 30 ตุลาคม พ.ศ. 2562

ข่าวดีในข่าวร้าย! ผู้นำเข้าสหรัฐฯ เร่งสั่งซื้อ คาดดันส่งออกสินค้าถูกหั่นจีเอสพีช่วงโค้งสุดท้ายพุ่ง

ข่าวดีในข่าวร้าย! ผู้นำเข้าสหรัฐฯ เร่งสั่งซื้อ คาดดันส่งออกสินค้าถูกหั่นจีเอสพีช่วงโค้งสุดท้ายพุ่ง

img
กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) เผยสหรัฐฯ ตัดจีเอสพีสินค้าไทย ยังไม่ส่งผลกระทบต่อการส่งออกในปีนี้ แต่จะเป็นผลดีมากกว่า เหตุผู้นำเข้าเร่งซื้อในช่วงโค้งสุดท้ายของปีนี้เพิ่มขึ้น พร้อมแจ้งผู้ส่งออกเบาใจ ได้ทำแผนรับมือแล้ว ทั้งกระจายความเสี่ยงให้กับสินค้าที่โดนผลกระทบ หาตลาดส่งออกใหม่ ดันผู้ประกอบการไทยไปลงทุนในสหรัฐฯ หรือประเทศที่สหรัฐฯ มีเอฟทีเอ จับมือผู้นำเข้าจัดกิจกรรมกระตุ้นความต้องการสินค้าไทย และใช้ช่องทางออนไลน์ขยายตลาด
        
นายสมเด็จ สุสมบูรณ์ รักษาราชการแทนอธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า การที่สหรัฐฯ ประกาศตัดสิทธิจีเอสพีที่เคยให้ไทยบางรายการ จะยังคงไม่กระทบต่อการส่งออกสินค้าไทยที่ส่งไปสหรัฐฯ ในปี 2562 เนื่องจากสินค้าส่วนใหญ่มีคำสั่งซื้อไว้ล่วงหน้าและทยอยส่งมอบไปแล้ว และคาดว่าจะส่งผลดีต่อการส่งออกในช่วงโค้งสุดท้ายของปีนี้ ที่ผู้นำเข้าสหรัฐฯ จะมีการเร่งนำเข้าเพิ่มมากขึ้น ก่อนมาตรการตัดสิทธิจะมีผลบังคับใช้ โดยสินค้าที่จะได้รับผลดี เช่น กลุ่มสินค้าอาหารแปรรูป ผลิตภัณฑ์ยาง เครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีฐานการผลิตในไทย

ทั้งนี้ กรมฯ ได้ทำแผนกระจายความเสี่ยง โดยหาตลาดส่งออกให้หลากหลายและแสวงหาตลาดใหม่ให้กับสินค้าที่โดนผลกระทบ โดยกรมฯ ได้สั่งการให้ทูตพาณิชย์ทำหน้าที่เป็นเซลล์แมน เร่งหาตลาดและสำรวจความต้องการของตลาดแล้ว และยังมีแผนตั้งแต่ขณะนี้จนถึงช่วงกลางปี 2563 ที่จะบุกตลาดและกระตุ้นให้เกิดความต้องการสินค้าไทยในประเทศเป้าหมายทั่วโลก เช่น อินเดีย บาห์เรนและกาตาร์ แอฟริกาใต้ ญี่ปุ่น จีน สหราชอาณาจักร สหภาพยุโรป ตุรกี รัสเซีย CLMV ศรีลังกา บังคลาเทศ และอินโดนีเซีย เป็นต้น

ขณะเดียวกัน จะเร่งรัดผลักดันการส่งออกสินค้าในกลุ่มที่ได้มีการคืนสิทธิจีเอสพี จำนวน 7 รายการ ได้แก่ ปลาแช่แข็ง ดอกกล้วยไม้สด เห็ดทรัฟเฟิล ผงโกโก้ หนังของสัตว์เลื้อยคลาน เลนส์แว่นตา และส่วนประกอบของเครื่องแรงดันไฟฟ้า  

นายสมเด็จกล่าวว่า กรมฯ ยังมีแผนส่งเสริมให้ผู้ประกอบการไทยในกลุ่มสินค้าอุตสาหกรรม อุตสาหกรรมการเกษตร และอาหารแปรรูป ใช้โอกาสจากภาวะเงินบาทแข็งค่าไปลงทุนในสหรัฐฯ ในรูปของสำนักงานขาย หรือการแสวงหาเทคโนโลยีทันสมัย เพื่อเพิ่มความสามารถในการแข่งขัน หรือในประเทศที่สหรัฐฯ มีข้อตกลงการค้าเสรี เช่น แคนาดา ชิลี และเม็กซิโก เพื่อใช้สิทธิในการส่งสินค้าเข้าสหรัฐฯ

นอกจากนี้ จะเร่งกระชับความสัมพันธ์กับผู้นำเข้าพันธมิตร และเพิ่มความร่วมมือกับผู้นำเข้าขนาดกลาง และ SMEs ในประเทศต่างๆ อย่างต่อเนื่องผ่านกิจกรรมต่างๆ รวมทั้งสร้างความต้องการสินค้าไทยในตลาดต่างประเทศ เช่น การจัดกิจกรรมส่งเสริมในห้างสรรพสินค้า ซุปเปอร์มาร์เก็ต ร้านอาหารไทย และกิจกรรมส่งเสริมสินค้าไทยในหลายตลาด ซึ่งจะดำเนินการไปพร้อมกับการให้ความสำคัญกับการรักษาคุณภาพและมาตรฐานสินค้า พัฒนาสินค้าด้วยนวัตกรรมที่สอดคล้องกับแนวโน้มของตลาด อีกทั้งการสร้างความเข้มแข็งให้แบรนด์สินค้า และทรัพย์สินทางปัญญาของสินค้า เพื่อสร้างจุดเด่นและความได้เปรียบของสินค้าไทย

ส่วนช่องทางอื่นๆ จะเน้นการผลักดันการค้าผ่าน www.thaitrade.com ซึ่งเป็นช่องทางการค้าออนไลน์ที่สามารถส่งออกสินค้าไทยคู่ขนานไปกับการค้ารูปแบบเดิม และยังจะร่วมมือกับแพลตฟอร์มของประเทศคู่ค้าที่สำคัญผลักดันการทำตลาดออนไลน์ โดยจะเปิด TopThai Flagship Store ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มขายสินค้าของไทยในแพลตฟอร์มต่างประเทศ และในเดือนพ.ย.2562 จะเปิดตัวร่วมกับ TMall Global ในจีน และจะขยายสู่ประเทศสำคัญอื่นๆ ต่อไป

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Post Bottom Ad