ผู้เชี่ยวชาญฟันธง! เศรษฐกิจโลกปี 63 'ไม่แน่นอน' - ข่าวเด่นวันนี้ | Today Highlight News

Breaking

Home Top Ad

Post Top Ad

วันศุกร์ที่ 27 ธันวาคม พ.ศ. 2562

ผู้เชี่ยวชาญฟันธง! เศรษฐกิจโลกปี 63 'ไม่แน่นอน'

ผู้เชี่ยวชาญฟันธง! เศรษฐกิจโลกปี 63 'ไม่แน่นอน'


ผู้เชี่ยวชาญฟันธง! เศรษฐกิจโลกปี 63 'ไม่แน่นอน'

บรรดาผู้เชี่ยวชาญชี้ว่า เศรษฐกิจโลกในปี 2563 จะประสบกับความไม่แน่นอนจากหลายปัจจัย ตั้งแต่การเมืองสหรัฐ การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ไปจนถึงการปรับเปลี่ยนด้วยเทคโนโลยีดิจิทัล แต่อาจไม่ระส่ำถึงขั้นกลับไปเกิดวิกฤติครั้งใหม่

องค์การเพื่อความร่วมมือและการพัฒนาทางเศรษฐกิจ (โออีซีดี) คาดการณ์ว่า ปีหน้าเศรษฐกิจโลกจะขยายตัวเพียง 2.9% ต่ำที่สุดนับตั้งแต่วิกฤติการเงินโลกเข้าสู่จุดสูงสุดในปี 2552 เนื่องจากแม้ว่าธนาคารกลางหลายประเทศดำเนินมาตรการเชิงรุก แต่รัฐบาลกลับเตะถ่วงการดำเนินนโยบาย ทั้งที่โลกกำลังเกิดการเปลี่ยนแปลงด้านสภาพภูมิอากาศและมีเทคโนโลยีใหม่ ๆ เกิดขึ้นอยู่ตลอดเวลา
ขณะที่กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) มองในแง่ดีกว่าเล็กน้อยว่า เศรษฐกิจโลกปีหน้าจะขยายตัว 3.4% แต่เตือนว่าอาจเกิดการชะลอตัวและการฟื้นตัวอย่างไม่แน่นอนขึ้นพร้อมกัน
ลูโดวิก ซูบราน นักเศรษฐศาสตร์ของ “อลิอันซ์” บริษัทประกันยักษ์ใหญ่ของเยอรมนี กล่าวว่า กำลังจะเกิดการเติบโตแบบชำระล้างขึ้นทั่วโลก การเปลี่ยนแปลงอย่างกะทันหันแบบเป็นระบบไม่น่าจะเกิดขึ้นในภาคการเงิน แต่จะเกิดจากภายนอก เช่น การเปลี่ยนแปลงระเบียบครั้งใหญ่อย่างกะทันหันในเรื่องข้อมูลส่วนบุคคลหรือเรื่องเกี่ยวกับสภาพภูมิอากาศ
ส่วนกรณีการถอดถอนประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐ ซูบรานมองว่า หากทรัมป์รอดจากกระบวนการอภิปรายถอดถอนจากตำแหน่งในช่วงต้นปี 2563 และได้รับเลือกตั้งอีกสมัยในปลายปีเดียวกัน เขาอาจเพิ่มเดิมพันกับจีนเป็น 2 เท่าและเสี่ยงที่จะเกิดการเผชิญหน้าทางทหารขึ้นได้
ด้าน อิงโก คืบเลอร์ ตัวแทนพนักงาน "มาห์เล" ผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ในเยอรมนีเผยว่า พวกเขาไม่กังวลเรื่องจะเอาชนะวิกฤติที่เกิดขึ้นเป็นวัฏจักร เนื่องจากรู้อยู่แล้วว่าจะต้องทำอย่างไร
"แต่ประเด็นที่น่ากังวลอย่างมากคือเรื่องการปรับเปลี่ยน การใช้เทคโนโลยีดิจิทัล และการใช้ยานยนต์ไฟฟ้า หากแบตเตอรี่รถไฟฟ้าราคาถูกจากจีนทะลักเข้ามาจนล้นตลาด ก็จะมีคนตกงานจำนวนมาก" คืบเลอร์เผยกับเอเอฟพี
ความไม่เสมอภาคในการกระจายการความมั่งคั่งมีแนวโน้มรุนแรงยิ่งขึ้นหลังจากที่เป็นชนวนเหตุการประท้วงตั้งแต่ฮ่องกงไปจนถึงชิลี ข้อมูลของอ็อกซ์แฟม องค์กรการกุศลในอังกฤษเผยว่า ในปี 2561 มหาเศรษฐี 26 คนมีทรัพย์สินเท่ากับคนยากจนครึ่งโลกรวมกัน
เดือน ต.ค. เอสเธอร์ ดูโฟล นักวิชาการชาวฝรั่งเศส กล่าวเตือนหลังได้รับรางวัลโนเบลร่วมสาขาเศรษฐศาสตร์ประจำปีนี้ว่า แม้แต่คนที่มีความสะดวกสบายทางวัตถุอาจพบกับความทุกข์และยากลำบากไม่ต่างจากคนยากจนที่สุด
ขณะที่ สตีฟ ไอส์แมน นักลงทุนชาวอเมริกันที่มีชื่อเสียงจากหนังสือเรื่อง“The Big Short” คาดว่า ในปีหน้าอาจจะยังไม่เกิดวิกฤติโลก แต่สถานการณ์ดีที่สุดที่พอหวังได้คือการเติบโตที่หยุดชะงักอย่างช้า ๆ
“สิ่งที่จะเกิดขึ้นต่อไป ไม่ช้าก็เร็วคือภาวะถดถอยที่เกิดขึ้นจนเป็นเรื่องธรรมดาซึ่งทำให้เศรษฐกิจชะลอตัวและติดลบ และทำให้ผู้คนสูญเงินจำนวนมาก แค่นั้นก็ทรมานมากพอแล้ว” ไอส์แมนเผยกับเอเอฟพี
ที่มา - กรุงเทพธุรกิจ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Post Bottom Ad