หนุนทำเกษตรเชิงคู่เสริมรายได้แปลงใหญ่ภาคใต้ - ข่าวเด่นวันนี้ | Today Highlight News

Breaking

Home Top Ad

Post Top Ad

วันศุกร์ที่ 6 ธันวาคม พ.ศ. 2562

หนุนทำเกษตรเชิงคู่เสริมรายได้แปลงใหญ่ภาคใต้

สภาเกษตรกรฯ หนุนทำการเกษตรเชิงคู่ เสริมรายได้แปลงใหญ่ภาคใต้

       นายสิทธิพร จริยพงศ์ รองประธานสภาเกษตรกรแห่งชาติ และประธานสภาเกษตรกรจังหวัดสุราษฎร์ธานี กล่าวถึงการสร้างความมั่นคงของภาคการเกษตรว่าภาคการผลิตทางการเกษตรของประเทศไทย เช่น ปาล์มน้ำมัน ยางพารา ข้าว ข้าวโพด มันสำปะหลัง อ้อย เมื่อผลผลิตออกมาเกินความต้องการของตลาดทำให้เกิดราคาตกต่ำจนเกษตรกรหลายคนถอดใจ เมื่อมีโอกาสเดินทางไปดูงานที่มาเลเซีย ซึ่งนิยมบริโภคเนื้อแพะ/แกะ มีความต้องการแพะ/แกะอย่างมาก ตลาดยังเปิดกว้าง ปัจจุบันมาเลเซียสั่งนำเข้าแพะ/แกะจากออสเตรเลีย เทียบกับแพะ/แกะจากประเทศไทยคุณภาพดีกว่า จึงเกิดแนวคิดทำเกษตรเชิงคู่เพื่อเสริมรายได้ ด้วยการจัดการสวนยางปลูกระยะห่างอย่างเหมาะสม โดยปรับเปลี่ยนภายใต้ระเบียบของกยท. สวนปาล์มก็ เช่นกันขยายจากการปลูกแบบ 9X9 เมตร ขยายเป็น 10X10 - 12X12 เมตร วางแปลนโครงสร้างสวน แล้วปล่อยแพะ/แกะเพื่อเป็นเครื่องตัดหญ้า  มูลแพะ/แกะนำไปเป็นปุ๋ยบำรุงได้ แพะ/แกะกินอยู่ง่ายสามารถเลี้ยงควบคู่ได้ทั้งการทำสวนปาล์ม ยางพารา มันสำปะหลัง ข้าวโพด อ้อย
โดยเกษตรกรต้องศึกษาเทคนิคการเลี้ยงแบบเปิด แพะ/แกะสามารถขายได้ทุกเดือนทั้งตลาดในประเทศและต่างประเทศ ทั้งนี้ สภาเกษตรกรฯอยากให้เกษตรกรกำหนดการผลิต การตลาดและราคาได้เอง ซึ่งเมื่อวันที่ 5 ตุลาคม ได้นำเกษตรกรกลุ่มวิสาหกิจชุมชนแปลงใหญ่ภาคใต้ทำบันทึกข้อตกลงการซื้อ-ขายกับภาคเอกชนจากมาเลเซีย ตกลงซื้อแพะและแกะมีชีวิตน้ำหนัก 25-40 กิโลกรัม/ตัว ราคา 135 บาท / กิโลกรัม ต่อเดือนส่งขายไม่ต่ำกว่า150 ตัว และขยับยอดขายได้ 2,000-3,000 ตัว/เดือน ซึ่งมาเลเซียยินดีขยายตลาดไปกาตาร์และประเทศอื่นที่มีชาวมุสลิมให้ด้วย อย่างไรก็ตาม จากข้อมูลวันที่ 27 พฤศจิกายน การรับขึ้นทะเบียนองค์กรเกษตรกรของสภาเกษตรกรแห่งชาติ มีเกษตรกรรวมตัวเป็นกลุ่มวิสาหกิจชุมชนเพื่อประกอบอาชีพเลี้ยงแพะ/แกะภาคใต้รวม 44 กลุ่ม สมาชิก 2,453 คนหากเกษตรกรต้องการทำเกษตรเชิงคู่ หรือสนใจการเลี้ยงแพะ/แกะเสริมรายได้ สอบถามข้อมูลได้ที่สภาเกษตรกรจังหวัดทุกจังหวัดทั่วประเทศ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Post Bottom Ad