กขค.เตือนบิ๊กค้าปลีก ซื้อกิจการ “เทสโก้ โลตัส” ในไทย ต้องขออนุญาตก่อนรวมธุรกิจ - ข่าวเด่นวันนี้ | Today Highlight News

Breaking

Home Top Ad

Post Top Ad

วันศุกร์ที่ 20 ธันวาคม พ.ศ. 2562

กขค.เตือนบิ๊กค้าปลีก ซื้อกิจการ “เทสโก้ โลตัส” ในไทย ต้องขออนุญาตก่อนรวมธุรกิจ

กขค.เตือนบิ๊กค้าปลีก ซื้อกิจการ “เทสโก้ โลตัส” ในไทย ต้องขออนุญาตก่อนรวมธุรกิจ

img
คณะกรรมการการแข่งขันทางการค้า (กขค.) เตือนบิ๊กค้าปลีกรายใหญ่ หากสนใจเข้าซื้อกิจการ “เทสโก้ โลตัส” ในไทย หลังได้ข่าวอาจมีการประมูลต้นปี 63 จะต้องขออนุญาตการควบรวมธุรกิจก่อน หากไม่ดำเนินการ มีความผิดตามกฎหมาย มีโทษปรับสูงสุด 0.5% ของมูลค่าธุรกรรมในการรวมธุรกิจ

นายสันติชัย สารถวัลย์แพศย์ กรรมการการแข่งขันทางการค้า และโฆษกคณะกรรมการการแข่งขันทางการค้า (กขค.) เปิดเผยว่า ได้ทราบข่าวจากผู้เกี่ยวข้องในวงการธุรกิจค้าปลีก เกี่ยวกับกระแสข่าวการขายกิจการ “เทสโก้ โลตัส”          ในประเทศไทยว่ามีความคืบหน้า และอาจจะมีการเปิดประมูลราคาซื้อขาย ในช่วงต้นปี 2563 โดยมีผู้ประกอบธุรกิจค้าปลีกรายใหญ่หลายรายให้ความสนใจที่จะเข้าซื้อกิจการดังกล่าว

“กขค. ขอย้ำเตือนว่า การซื้อขายกิจการเทสโก้ โลตัสในประเทศไทย หากเกิดขึ้นจริงตามที่ปรากฎเป็นข่าว จะต้องดําเนินการขออนุญาต และต้องได้รับการอนุญาตจาก กขค. ก่อน จึงจะทําการรวมธุรกิจได้ เนื่องจากเข้าข่ายเป็นการรวมธุรกิจ ตามพ.ร.บ.การแข่งขันทางการค้า พ.ศ.2560 หากฝ่าผืนไม่ดําเนินการตามที่กฎหมายกําหนด ต้องถูกลงโทษปรับสูงสุดในอัตราร้อยละ 0.5 ของมูลค่าธุรกรรมในการรวมธุรกิจ”

ทั้งนี้ การรวมธุรกิจตามพ.ร.บ.การแข่งขันทางการค้า กําหนดแนวปฏิบัติไว้ 2 แนวทาง คือ 1.เมื่อมีการรวมธุรกิจแล้ว อาจก่อให้เกิดการผูกขาดหรือเป็นผู้ประกอบธุรกิจ ซึ่งมีอํานาจเหนือตลาด (มีส่วนแบ่งตลาดเกินร้อยละ 50 และมียอดเงินขายตั้งแต่ 1,000 ล้านบาทขึ้นไป หรือเป็นผู้ประกอบธุรกิจ 3 รายแรกในตลาดมีส่วนแบ่งตลาดรวมกันเกินร้อยละ 75) ต้องขออนุญาตจาก กขค. ก่อน และต้องได้รับการอนุญาตจึงจะทําการรวมธุรกิจได้

2.เมื่อมีการรวมธุรกิจแล้ว อาจก่อให้เกิดการแข่งขันลดลงอย่างมีนัยสําคัญ ต้องแจ้งให้ กขค. ทราบภายใน 7 วัน นับแต่วันที่รวมธุรกิจ โดย กขค. ได้กําหนดหลักเกณฑ์ไว้ว่า เป็นการรวมธุรกิจที่มียอดเงินขายในตลาดตั้งแต่ 1,000 ล้านบาทขึ้นไป และไม่ก่อให้เกิดการผูกขาด หรือเป็นผู้ประกอบธุรกิจซึ่งมีอํานาจเหนือตลาด

อย่างไรก็ตาม ล่าสุด กขค. ได้สั่งการให้สํานักงานคณะกรรมการกากรแข่งขันทางการค้า (สขค.) เฝ้าระวัง และติดตามการรวมธุรกิจอย่างใกล้ชิด และขอแจ้งเตือนผู้ประกอบธุรกิจที่เกี่ยวข้องให้ระมัดระวัง และปฏิบัติตามกฎหมายการแข่งขันอย่างเคร่งครัด หากตรวจพบว่ามีการกระทําที่เป็นการฝ่าฝืนกฎหมาย จะดําเนินการลงโทษอย่างเฉียบขาดทันที

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Post Bottom Ad