SFLEX กำหนดราคาไอพีโอ 3.88 บาท/หุ้น ระดมทุน 426.80 ล้านบาท จองซื้อ 11-13 ธ.ค. นี้ คาดเทรด SET 19 ธ.ค.นี้ - ข่าวเด่นวันนี้ | Today Highlight News

Breaking

Home Top Ad

Post Top Ad

วันเสาร์ที่ 7 ธันวาคม พ.ศ. 2562

SFLEX กำหนดราคาไอพีโอ 3.88 บาท/หุ้น ระดมทุน 426.80 ล้านบาท จองซื้อ 11-13 ธ.ค. นี้ คาดเทรด SET 19 ธ.ค.นี้

SFLEX กำหนดราคาไอพีโอ 3.88 บาท/หุ้น ระดมทุน 426.80 ล้านบาท จองซื้อ 11-13 ธ.ค. นี้ คาดเทรด SET 19 ธ.ค.นี้

SFLEXระดมทุน426ล้าน  ซื้อเครื่องจักรขยายการผลิตสินค้า
นายสมภพ กีระสุนทรพงษ์ กรรมการผู้อำนวยการ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.)ฟินันเซียไซรัส ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินและผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้นสามัญเพิ่มทุนของ บริษัท สตาร์เฟล็กซ์ หรือ SFLEX เปิดเผยว่า บริษัท ได้กำหนดราคาเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่ประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) 110 ล้านหุ้น มีมูลค่าที่ตราไว้ 1 บาทต่อหุ้น ในราคา 3.88 บาทต่อหุ้น เสนอขายให้แก่ประชาชน 99 ล้านหุ้น คิดเป็น 24.15% และเสนอขายต่อกรรมการ ผู้บริหาร และพนักงานของบริษัท 11 ล้านหุ้น คิดเป็น 2.68% หุ้นทั้งสองส่วนจะเสนอขายในราคาเดียวกัน เปิดจองซื้อระหว่างวันที่ 11-13 ธันวาคม 2562 คาดว่าจะเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) หมวดธุรกิจบรรจุภัณฑ์ ในวันที่ 19 ธันวาคม 2562 โดยใช้ชื่อย่อ “SFLEX”
นายปรินทร์ธรณ์ อภิธนาศรีวงศ์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท สตาร์เฟล็กซ์กล่าวว่า แผนการระดมทุนในครั้งนี้จะช่วยเพิ่มศักยภาพในการเติบโตให้กับบริษัท โดยเตรียมนำเงินที่ได้จากการระดมทุนทั้งสิ้น426.80 ล้านบาท ไปใช้ซื้อเครื่องจักรและอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับการผลิตฟิล์มประเภทที่ใช้ในการปิดผนึกขึ้นรูป (Sealant) ประมาณ 140 ล้านบาท พร้อมกันนี้ จะนำเงินไปลงทุนสร้างคลังสินค้าประมาณ 50 ล้านบาท รวมถึงนำไปชำระคืนเงินกู้ยืมจากสถาบันการเงินประมาณ 95 ล้านบาท และส่วนที่เหลือจะนำไปใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการประกอบธุรกิจ
กลยุทธ์ต่อจากนี้ SFLEX มีเป้าหมายที่ต้องการเป็นผู้นำทางด้านบรรจุภัณฑ์พลาสติกชนิดอ่อน (Flexible Packaging)ทั้งในประเทศไทย และประเทศในกลุ่ม CLMV โดยมีกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจที่สำคัญ คือ การสร้างพันธมิตรทางธุรกิจ (Business Partnership) กับลูกค้าในระยะยาว ยิ่งไปกว่านั้น บริษัทยังพัฒนานวัตกรรมใหม่ๆ ที่สอดคล้องกับแนวโน้มของตลาด Flexible Packaging ที่หันมาใช้วัตถุดิบรีไซเคิล และการใช้วัตถุดิบที่ย่อยสลายได้ตามธรรมชาติเพื่อให้เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากยิ่งขึ้น
สำหรับผลประกอบการ ในปี 2559-2561 บริษัทมีรายได้รวม 1,181.01 ล้านบาท 1,353.33 ล้านบาท 1,374.25 ล้านบาท กำไรสุทธิอยู่ที่ 33.29 ล้านบาท 146.63 ล้านบาท 136.11 ล้านบาท ตามลำดับ สำหรับงวด 9 เดือนแรกของปี 2562 บริษัท มีรายได้รวม 943.22 ล้านบาทมีกำไรสุทธิ 46.42 ล้านบาท

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Post Bottom Ad