“PRIME” มั่นใจ รายได้ทั้งปีสดใส รายได้โรงไฟฟ้าเข้าเต็มที่ ลุยปั้นโครงการใหม่ ดันเติบโตต่อเนื่อง - ข่าวเด่นวันนี้ | Today Highlight News

Breaking

Home Top Ad

Post Top Ad

วันเสาร์ที่ 25 มกราคม พ.ศ. 2563

“PRIME” มั่นใจ รายได้ทั้งปีสดใส รายได้โรงไฟฟ้าเข้าเต็มที่ ลุยปั้นโครงการใหม่ ดันเติบโตต่อเนื่อง

“PRIME” มั่นใจ รายได้ทั้งปีสดใส รายได้โรงไฟฟ้าเข้าเต็มที่ ลุยปั้นโครงการใหม่ ดันเติบโตต่อเนื่อง

          "PRIME" มั่นใจรายได้ทั้งปี 2019 สดใส รับรู้รายได้ค่าไฟเข้าเป้า เร่งพัฒนาโครงการใหม่ดันผลงานโดดเด่นเติบโตต่อเนื่อง

          นาย สมประสงค์ ปัญจะลักษณ์ ประธานกรรมการบริษัท ไพร์ม โรด เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ 'PRIME' ผู้ผลิตพลังงานทดแทนระดับภูมิภาค เผยว่า บริษัทฯ คาดว่ารายได้ปี 2019 จะเป็นไป ตามเป้าหมาย เนื่องจากโรงไฟฟ้าของบริษัทฯทั้งในและต่างประเทศ สามารถสร้างรายได้ค่าไฟฟ้า ได้ตามเป้าหมาย โดยในช่วง 9 เดือนแรกปี 2019 PRIME มีรายได้รวม 488.2 ล้านบาท และมีกำไรเบ็ดเสร็จ 206 ล้านบาท และมีอัตรากำไรสุทธิสูง 42.2% โดยบริษัทฯมีกำไรเบ็ดเสร็จเพิ่มขึ้นอย่างมาก เมื่อเปรียบเทียบกับผลขาดทุนเบ็ดเสร็จ 377.2 ล้านบาทในช่วง 9 เดือนแรกปี 2561 ของ บริษัท ฟู้ด แคปปิตอล จำกัด (มหาชน)"
          "ในปี 2020 นี้ บริษัทฯ เร่งเดินหน้าโครงการที่อยู่ระหว่างพัฒนาและก่อสร้างจำนวน 108 เมกะวัตต์ ซึ่งอยู่ในประเทศไทย ญี่ปุ่น และ โดยเฉพาะในประเทศกัมพูชา ซึ่งเป็นโครงการโซลาฟาร์มขนาดใหญ่ขนาด 78 เมกะวัตต์ ซึ่งจัดว่าเป็นโครงการโซลาฟาร์มขนาดใหญ่ที่สุดโครงการหนึ่ง ในประเทศกัมพูชา และได้รับความ สนใจ อย่างสูงจากบริษัทผู้ผลิตไฟฟ้าจากทั่วโลก นอกจากนี้ บริษัทฯกำลังศึกษาการลงทุนโรงไฟฟ้า พลังงานหมุนเวียนเพิ่มเติม ทั้งในประเทศ อาทิโครงการโรงไฟฟ้าชุมชนของรัฐบาล และ โครงการโซลาฟาร์ม ขนาดใหญ่ในเอเชีย เพื่อสร้างการเติบโตอย่างต่อเนื่องต่อไป"
          ปัจจุบันบริษัท ทุนจดทะเบียนชำระแล้วจำนวน 17,017,941,757 บาท (ราคาพาร์ 1 บาทต่อหุ้น) มีอัตรา หนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้นเพียง 1.33 เท่า โดยมีสินทรัพย์จำนวน 5,319 ล้านบาท และหนี้สินรวม 3,034 ล้านบาทและมีส่วนของผู้ถือหุ้นรวม 2,285 ล้านบาท มีอัตราผลตอบแทน ต่อส่วนผู้ถือหุ้น (ROE) 12% และบริษัทฯ มีโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ขนาดกำลังการผลิตติดตั้งทั้งหมดรวม 287 เมกะวัตต์ โดยจำหน่าย จ่ายไฟฟ้าแล้ว 179 เมกะวัตต์ และอยู่ระหว่างพัฒนาและก่อสร้าง 108 เมกะวัตต์ โดยเป็นโรงไฟฟ้า ในประเทศไทยจำนวน 132.3 เมกะวัตต์ ในประเทศญี่ปุ่นจำนวน 68.2 เมกะวัตต์ ในประเทศไต้หวันจำนวน 8.5 เมกะวัตต์ และ ประเทศกัมพูชาจำนวน 78 เมกะวัตต์ (สัญญาจำหน่ายไฟฟ้า 60 เมกะวัตต์) ซึ่งจะก่อสร้าง ที่จังหวัดกัมปงชนัง โดยประเทศกัมพูชา เป็น 1 ในประเทศกำลัง พัฒนาที่กำลัง ขยายตัว ทางเศรษฐกิจและภาคอุตสาหกรรมและมีความต้องการ พลังงานไฟฟ้าเพิ่มขึ้นในปริมาณมาก ซึ่งบริษัทฯ คาดว่าจะมีโอกาสที่จะขยายการลงทุนเพิ่มเติมในประเทศกัมพูชาอีกด้วย

          นอกจากนี้ บริษัทฯ กำลังศึกษาการลงทุนในประเทศ ไต้หวัน เวียดนาม ลาว ซึ่งเป็นประเทศที่มีศักยภาพ การเติบโตสูง และความต้องการพลังงานไฟฟ้าจำนวนมาก

 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Post Bottom Ad