การเปิดเกมใหม่ของฝ่ายบริหารจั ดการข้อมูลธุรกิจด้วย “ระบบอั ตโนมัติ”
โดย นิลันทา บริโท ผู้อำนวยการฝ่ายขายอาวุโส ออโตโนมัส ดาต้าเบส ประจำภูมิภาคอาเซียน
แนวคิดเรื่องเทคโนโลยีระบบอั ตโนมัติได้รับการกล่าวถึงอย่ างมากในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา อุตสาหกรรมหลายประเภทต่างนำคำ ๆ นี้ไปใช้กับผลิตภัณฑ์ของตน เช่น สินค้ายานพาหนะ แต่แท้ที่จริงแล้ว คำว่า “อัตโนมัติ” หมายถึ งอะไรกันแน่ ? และเราจะได้รับผลกระทบหรื อประโยชน์ใดจากสิ่งนี้ ?
ขับเคลื่อนสู่เป้าหมายใหม่ด้ วยระบบอัตโนมัติ
ในทำนองเดียวกัน องค์กรและภาคธุรกิจต่าง ๆ ในอาเซียนที่ต้องการสร้ างความสำเร็จในเศรษฐกิจยุคดิจิ ทัลก็ต้องทำแบบเดียวกัน นั่นคือการมองย้อนเพื่ อตรวจสอบประสิทธิ ภาพการทำงานในปัจจุบันผ่านการพิ จารณาโอกาสต่าง ๆ เพื่อสร้างการเติบโตและการพัฒนา ซึ่งจะเป็นพื้ นฐานในการกำหนดแผนปฏิบัติเพื่ อให้บรรลุถึงเป้าหมายใหม่นั้น ซึ่งแผนปฏิบัตินี้จะยิ่งทวี ความสำคัญในยามที่องค์กรต่าง ๆ กำลังเผชิญกับความท้าทายใหม่ ๆ เฉกเช่นทุกวันนี้
ท่ามกลางยุคสมัยใหม่นี้ ผู้บริโภคต่างเรียกร้องให้ธุรกิ จพร้อมให้บริการแก่พวกเขาได้ทุ กเมื่อ รวมถึงต้องการโซลูชั่นที่ ออกแบบมาเพื่อตอบสนองความต้ องการเฉพาะบุคคลได้ย่างตรงจุด ซึ่งในการสร้างประสบการณ์ลูกค้ าชั้นเลิศเพื่อตอบโจทย์ความต้ องการเหล่านี้ องค์กรต่าง ๆ จึงต้องสามารถเข้าถึงข้อมูลทั้ งหมดในธุรกิจของตนเองได้ ตลอดเวลา เพื่อให้พนักงานสามารถตัดสิ นใจได้อย่างชาญฉลาดและรวดเร็ วกว่าโดยตั้งอยู่บนพื้นฐานของข้ อมูล
ความยากลำบากที่รออยู่เบื้องหน้ า
อย่างไรก็ดี ยังมีความท้าทายอีกมากมายที่บริ ษัทต่าง ๆ ต้องเผชิญ เมื่อต้องการก้าวเข้าสู่ โลกใบใหม่ที่มีการขับเคลื่ อนการดำเนินงานด้วยข้อมูล
องค์กรทุกวันนี้ต้องเผชิญกับข้ อมูลปริมาณมหาศาลอย่างที่ไม่ เคยเป็นมาก่อน ซึ่งถูกสร้างเพิ่มขึ้นทุกวั นในหลากหลายรูปแบบโดยมาจากแหล่ งข้อมูลภายนอกที่องค์กรไม่ เคยใช้งานมาก่อนนอกจากนี้ ข้อมูลวิสาหกิจซึ่งคุณเคยคิดว่ าเป็นสิ่งที่นำมาใช้ประโยชน์ได้ ง่ายที่สุด ก็มักถูกจัดเก็บในหลายแห่ งแยกจากกัน โดยสามารถนำมาใช้ได้เพียงเล็กน้ อยเท่านั้น การใช้ประโยชน์ทั้งจากข้อมู ลใหม่และข้อมูลเดิมที่มีอยู่ก็ ถือเป็นเรื่องที่ซับซ้อน และจำเป็นต้องมีโซลูชั่นที่เหนื อล้ำกว่าความสามารถของมนุษย์
นอกจากนี้ การใช้งานแอปพลิเคชันและโซลูชั่ นธุรกิจสมัยใหม่ซึ่งจำเป็นต้ องมีทั้งประสบการณ์ ข้อมูล เป้าหมาย และบริการที่เข้าถึงได้เพื่ อทำให้ข้อมูลสามารถทำงานได้นั้น ก็อาจกลายเป็นอุปสรรคของผู้ใช้ งานได้ ดังที่เอกสารรายงานนวั ตกรรมของออราเคิลประจำปี 2562 (2019 Oracle Innovation Report) พบว่า ในเอเชียแปซิฟิก มีโครงการด้านนวัตกรรมไม่ถึง 20% ที่เกิดขึ้นและทำงานได้จริ งแม้จะมีข้อมูลเชื่อมโยงที่ชั ดเจนระหว่างการเติบโตกับนวั ตกรรมก็ตาม[1]เหตุผลสำคัญของเรื่ องนี้ก็คือ ธุรกิจต่าง ๆ ยังขาดแคลนเทคโนโลยีที่ เหมาะสมเพื่อช่วยให้ พวกเขาสามารถใช้งานและส่ งมอบโครงการด้านนวั ตกรรมของพวกเขาได้
ความมั่นคงปลอดภัยทางข้อมูลก็ เป็นอีกหนึ่งจุดอ่อนสำคัญที่วิ สาหกิจต้องเผชิญเมื่อธุรกิจต่าง ๆ เกิดการใช้ข้อมูลกันอย่างฉับไว ก็จะเกิดความเสี่ยงที่ พวกเขาอาจละเลยด้านความมั่ นคงปลอดภัยทางข้อมูล และสิ่งนี้อาจส่งผลกระทบต่อคุ ณภาพของข้อมูลเชิงลึกที่กลั่ นกรองจากข้อมูลที่มีอยู่ในระบบ
การสร้างโอกาสใหม่ในทศวรรษใหม่
นับเป็นโชคดีที่เทคโนโลยีเกิ ดใหม่ เช่น ปัญญาประดิษฐ์ และระบบอัตโนมัติ สามารถช่วยลดการแทรกแซงของมนุ ษย์ ซึ่งจำเป็นต่อการเพิ่มความฉั บไวในการทำงานและความมั่ นคงปลอดภัยที่จำเป็น
เทคโนโลยีเหล่านี้ก่อให้เกิ ดแนวทางปฏิบัติใหม่ในการบริ หารจัดการข้อมูลด้วยOracle Autonomous Databaseผ่านความสามารถของปั ญญาประดิษฐ์ (AI)และการเรียนรู้ของเครื่อง (Machine Learning:ML) ซึ่งเป็นแกนการทำงานหลัก ผลิตภัณฑ์ใหม่นี้ประกอบด้วย Ora cle Autonomous Data Warehouse และOracle Autonomous Transaction Processing Databaseที่ช่วยลดภาระงานอันน่ าเบื่อหน่ายมากมายซึ่งเดิมทีต้ องใช้เวลาสะสางกันหลายชั่วโมง นับตั้งแต่การบริหารหน่ วยความจำไปจนถึ งการตรวจสอบภาระงานและการปรับค่ าข้อมูลทั้งหมดให้สามารถขับเคลื่ อนการทำงานด้วยตนเองและซ่ อมแซมตนเองได้ ซึ่งความสามารถของระบบอัตโนมัติ ยังเหมาะกับการรักษาความปลอดภั ยของฐานข้อมูล เพราะทำให้เกิดประสิทธิภาพการรั กษาความปลอดภัยได้ด้ วยตนเองแบบอัตโนมัติ โดยสามารถตรวจจับ ตอบสนอง และป้องกันการคุกคามทั้ งจากภายในและภายนอกได้
ผลลัพธ์ที่ได้ก็คือ ฐานข้อมู ลระบบอัตโนมัติ (Autonomous Database) จะช่วยปลดปล่อยทีมงานฝ่ ายเทคโนโลยีสารสนเทศให้ สามารถใช้เวลาไปกับงานอื่น ๆ ที่สร้างมูลค่าให้แก่ธุรกิจได้ มากกว่าหากผลกระทบก็ไม่ได้มีเพี ยงเท่านี้ เพราะในความเป็นจริง ผลของการใช้ Autonomous Databaseยังแผ่ขยายไปยังส่วนอื่ น ๆ ขององค์กรนอกเหนือจากฝ่ ายเทคโนโลยีสารสนเทศ ซึ่งครอบคลุมถึงฝ่ายการเงิน ฝ่ายปฏิบัติการ และการตลาด
เน้นย้ำอีกครั้งว่า การใช้ปัญญาประดิษฐ์ และระบบการเรียนรู้ของเครื่องช่ วยสร้างข้อมูลเชิงลึกที่กลั่ นกรองจากข้อมูลที่มีอยู่ ในระบบได้เพียงปลายนิ้วของพนั กงาน ผู้ซึ่งจำเป็นต้องใช้มันได้อย่ างรวดเร็วและง่ายดายที่สุด ซึ่งจะปฏิวัติวิธีการเข้าถึ งและการใช้ข้อมูลของพวกเขาไปอย่ างสิ้นเชิง
การสร้างผลกระทบที่แท้จริง
พีทีจี เอ็นเนอยี (PTG Energy) ผู้ให้บริ การแบบครบวงจรชั้นนำซึ่งมีธุรกิ จเชื้อเพลิงใหญ่เป็นอันดั บสองของเมืองไทย ถือเป็นกรณีตัวอย่างขององค์กรที่ ได้รับประโยชน์จากระบบ Oracle Autonomous Databaseในฐานะวิสาหกิจขนาดใหญ่ ที่มีการดำเนินธุรกิจครอบคลุมทั้ งพลังงานหมุนเวียน ค้าปลีก อาหารและเครื่องดื่ม ร้านค้าสะดวกซื้อ และอื่น ๆ พีทีจีจึงจำเป็นต้องมั่นใจได้ว่ า แรงงานมีความพร้อมในการปฏิบัติ งานอย่างมีประสิทธิภาพและตัดสิ นใจทางธุรกิจได้อย่างชาญฉลาดผ่ านการใช้แหล่งข้อมูลเดียวกัน อย่างไรก็ดี ธุรกิจของบริษัทยังคงต้องพึ่ งพาฐานข้อมูลเดิมที่ไม่ สามารถตอบสนองธุรกิจที่กำลังเติ บโต ซึ่งส่งผลให้เกิ ดการรายงานผลและการตัดสินใจที่ เชื่องช้า
เมื่อเปลี่ยนมาใช้งานระบบOracle Autonomous Databaseทำให้พีทีจีสามารถระบุ ถึงพฤติกรรมลูกค้ารูปแบบใหม่ที่ เพิ่งเกิดขึ้นสำหรับการตั้งเป้ าหมายของธุรกิจ ซึ่งถือเป็นโอกาสที่เพิ่งค้ นพบใหม่ที่ช่วยให้พีทีจี สามารถยกระดับประสบการณ์การให้ บริการลูกค้าในภาพรวมได้อย่างดี เยี่ยม
อีกหนึ่งกรณีตัวอย่างคือ ฟอร์ท สมาร์ท (Forth Smart) ผู้ให้บริการทางการเงินซึ่งมี เครื่องจำหน่ายแบบหยอดเหรี ยญมากกว่า 120,000 เครื่องในประเทศไทย โดยให้บริการเติมเงินสมาร์ ทโฟนและโอนเงินแก่ลูกค้าทั่วไป และมีการทำธุรกรรมราว 2 ล้านรายการต่อวัน เมื่อเปลี่ยนมาใช้ระบบฐานข้อมู ลอัตโนมัติ ทำให้ ฟอร์ท สมาร์ท ได้ข้อมูลเชิงลึกจากเครือข่ ายเครื่องบริการได้แบบเรียลไทม์ ซึ่งแต่เดิมต้องเวลา 3 วันในการรวบรวมข้อมูลชุดเดียวกั นนี้ สิ่งนี้ส่งผลกระทบอย่างมีนั ยสำคัญต่อขี ดความสามารถในการรายงานผลทางการ เงินของบริษัท และช่วยให้บริษัทสามารถแบ่งกลุ่ มลูกค้าที่มีความซับซ้อนเพื่ อทำการวิเคราะห์คาดการณ์ล่วงหน้ า ช่วยให้สามารถเลือกมุ่งเน้ นการคิดค้นนวัตกรรมใหม่เฉพาะด้ านได้ดียิ่งขึ้น
การเริ่มต้นใหม่ในยุคระบบอั ตโนมัติ
ทุกองค์กรจำเป็นต้องดำเนิ นงานให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด และตระหนักถึงมูลค่าของข้อมูลทั้ งหมดของบริษัทเพื่อใช้สร้ างความเติบโตในโลกเศรษฐกิจซึ่ งการเปลี่ยนแปลงแบบพลิกฝ่ามื อเกิดขึ้นทุกวัน และนวัตกรรมถือเป็นสิ่งสำคัญสู่ ความสำเร็จ ประโยชน์ที่ได้เห็นจากกรณีตั วอย่างทั้งสองนี้แสดงให้เห็นแล้ วว่า เพราะเหตุใดเราจึงเชื่อมั่นว่ าระบบฐานข้อมูลอัตโนมัติจึงมี ความจำเป็นอย่างยิ่ งในการวางรากฐานของธุรกิจสมั ยใหม่ทุกประเภท
ด้วยความสามารถในการขับเคลื่ อนด้วยตัวเอง การซ่อมแซมตัวเอง และการรักษาความปลอดภัยได้ด้ วยตัวเอง ทำให้ระบบฐานข้อมูลอัตโนมัติช่ วยให้ธุรกิจสามารถดำเนินไปได้ อย่างรวดเร็วฉับไว ทั้งยังสามารถโยกย้ายทรัพยากรด้ านเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อเพิ่ มมูลค่าให้แก่กิจกรรมต่าง ๆ และมอบข้อมูลให้แก่พนักงานได้ เพียงปลายนิ้วสัมผัส โดยมีระดับการแทรกแซงน้อยที่สุด
เมื่อผสานผลลัพธ์ทั้งสองเข้าด้ วยกัน จะทำให้บริษัทต่าง ๆ สามารถก้าวเข้าสู่อาณาจักรแห่ งนวัตกรรมได้อย่างลึกซึ้ง สามารถขจัดคู่แข่ง เนื่องจากบริษัทมี ความสามารถและข้อมูลเชิงลึ กในการมอบข้อเสนอที่มีมูลค่ าโดดเด่นแก่ลูกค้าและเติมเต็ มความต้องการของลูกค้าได้ดีกว่า ซึ่งสิ่งนี้เหมาะสมอย่างยิ่งกั บธุรกิจสินค้าอุปโภคบริโภคที่มี อัตราการจำหน่ายเร็วและมีต้นทุ นต่ำ ธุรกิจเทคโนโลยีการเงิน หรืออุตสาหกรรมอื่น ๆ ทั่วภูมิภาคอาเซียน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น