หูฟัง ZenBuds จาก Amazfit คว้ารางวัลการออกแบบยอดเยี่ยมจากเวที Red Dot Design Award 2020 เฉลิมฉลองสัปดาห์แห่งการนอนหลับโลก - ข่าวเด่นวันนี้ | Today Highlight News

Breaking

Home Top Ad

Post Top Ad

วันอังคารที่ 24 มีนาคม พ.ศ. 2563

หูฟัง ZenBuds จาก Amazfit คว้ารางวัลการออกแบบยอดเยี่ยมจากเวที Red Dot Design Award 2020 เฉลิมฉลองสัปดาห์แห่งการนอนหลับโลก



ผลสำรวจและข้อมูลจากบิ๊กดาต้าชี้ให้เห็นว่า ผู้หญิงจีนนอนหลับได้ยาวนานกว่าผู้ชายถึง 21 นาทีต่อคืน

เพื่อเฉลิมฉลองให้กับวันนอนหลับโลกซึ่งตรงกับวันที่ 22 มีนาคม 2563 แบรนด์ Amazfit ของบริษัท Huami (NYSE: HMI) ได้เปิดตัวรายงาน 2019 Chinese Sleep Whitepaper[1] ในวันที่ 21 มีนาคม โดยใช้บิ๊กดาต้ามาวิเคราะห์รูปแบบการนอนของชาวจีน ด้วยกลยุทธ์ที่เน้นในด้านสุขภาพและการใส่ใจกับคุณภาพการนอน Amazfit จึงได้เปิดตัว ZenBuds ในมหกรรม CES2020 ส่งผลให้ Huami สามารถคว้ารางวัล Red Dot จากเวที Red Dot Design Award 2020[2] มาได้สำเร็จ ด้วยการออกแบบผลิตภัณฑ์สุดพิเศษซึ่งมีความสร้างสรรค์เป็นอย่างยิ่ง
รายงานชี้ผู้หญิงจีนนอนหลับได้นานกว่าผู้ชาย 21 นาทีต่อคืน
รายงาน 2019 Chinese Sleep Whitepaper ของ Huami ใช้บิ๊กดาต้ามาช่วยวิเคราะห์คุณภาพการนอนมากกว่า 10 ล้านระดับ [3] รวมถึงผลการสำรวจออนไลน์จากกว่า 100,000 คำถาม โดยทางบริษัทได้วิเคราะห์และศึกษาพฤติกรรมการนอนของชาวจีนในปี 2562 ในหลายมิติด้วยกัน พร้อมเรียกร้องให้ทุกคนใส่ใจคุณภาพการนอนของตนเอง และปรับพฤติกรรมการนอนให้ดียิ่งขึ้น
การสำรวจพบว่า พฤติกรรมการนอนของผู้หญิงจีนนั้นดีกว่าผู้ชายอย่างมีนัยสำคัญ โดยข้อมูลระบุว่า ผู้หญิงจะสามารถนอนได้ยาวนานกว่าผู้ชายเฉลี่ย 21 นาทีต่อคืน โดยจะเริ่มนอนในเวลา 23.40 น. หรือเร็วกว่าผู้ชาย 23 นาที และตื่นก่อนผู้ชาย 2 นาที สำหรับคะแนนการนอนหลับของผู้หญิงเฉลี่ยอยู่ที่ 83.5 คะแนน เทียบกับผู้ชายที่ระดับ 81 คะแนน ส่วนในเรื่องของท่าทางการนอนนั้น ผู้ชายมักจะชอบนอนหงาย ขณะที่ผู้หญิงชอบนอนตะแคง
ZenBuds จาก Amazfit คว้ารางวัล Red Dot Award จากการมอบคุณภาพการนอนที่ดีขึ้นกว่าเดิม
หลังจากที่เปิดตัวไปในมหกรรม CES2020 ZenBuds ก็กลายมาเป็นที่จับตาในอุตสาหกรรมเทคโนโลยี เนื่องจากผลิตภัณฑ์ตัวนี้ช่วยให้ผู้ใช้งานได้คลายความเครียดและความกดดันต่าง ๆ ซึ่งส่งผลต่อคุณภาพการนอน โดย ZenBuds เป็นหูฟังอัจฉริยะที่ตัดเสียงรบกวนจากภายนอก ซึ่งถูกออกแบบมาเป็นพิเศษเพื่อช่วยให้ผู้ใช้งานรู้สึกผ่อนคลายและนอนหลับได้ดี ด้วยคุณสมบัติในการตัดเสียงรบกวนและเปิดเพลงที่มีความผ่อนคลาย ผู้ใช้งานจึงถูกตัดขาดจากโลกภายนอกและนอนหลับได้ง่ายขึ้น นอกจากนี้ ฟังก์ชันการติดตามการนอนอัจฉริยะยังสามารถวิเคราะห์คุณภาพการนอนได้ในแต่ละคืน เพื่อช่วยให้ผู้ใช้งานมีพฤติกรรมการนอนที่ดีขึ้น
ดีไซน์หูฟังแบบ In-Ear ตัดเสียงรบกวนภายนอก
ZenBuds ได้รับการออกแบบตามหลักการยศาสตร์ให้พอดีกับรูหูของผู้ใช้งานและช่วยให้นอนหลับสบายขึ้น โดยจะตัดเสียงรบกวนจากภายนอก ทำให้ผู้ใช้งานรู้สึกสงบตลอดคืน ส่งผลให้เกิดความรู้สึกผ่อนคลาย อีกทั้งยังใช้งานได้ในเวลากลางวันหากต้องการสมาธิมากขึ้น
น้ำหนักเบา สวมใส่สบาย
เพื่อให้สามารถใส่นอนได้ตลอดทั้งคืน ZenBuds มีน้ำหนักเบาเพียง 1.78 กรัม [4] ต่อข้าง อีกทั้งยังได้รับการออกแบบมาให้กระชับต่อรูหูและสวมใส่สบาย ส่งผลให้ผู้ใช้งานสามารถใส่นอนได้โดยไม่รู้สึกรำคาญแม้นอนตะแคง  
เล่นเสียงที่ให้ความรู้สึกผ่อนคลาย  
เทคโนโลยี Knowles Balanced Armature ช่วยสร้างเสียงที่มอบความรู้สึกผ่อนคลายช่วยให้นอนหลับสบาย ด้วยการเลียนเสียงสถานการณ์และสภาพแวดล้อมทางธรรมชาติที่หลากหลาย ช่วยคลายความตึงเครียดและทำให้นอนหลับได้ดีขึ้น
ติดตามการนอนหลับแบบเรียลไทม์ด้วยเทคโนโลยีอัจฉริยะ
ZenBuds จะเก็บรวบรวมข้อมูลผู้ใช้ทั้งอัตราการเต้นของหัวใจ, ตำแหน่งร่างกาย และการเคลื่อนไหว เพื่อประมวลผลเป็นรายงานคุณภาพการนอนหลับ[5] ซึ่งจะช่วยให้ผู้ใช้สามารถรับรู้สถานะการนอนของพวกเขาได้ดีขึ้น พร้อมมอบคำแนะนำเพื่อปรับพฤติกรรมการนอนให้ดีขึ้นด้วย
หยุดทำงานอัตโนมัติด้วยฟังก์ชั่นการตรวจจับการนอน
ZenBuds สามารถควบคุมได้ด้วยการแตะเบา ๆ หรืออาจตั้งค่าให้หยุดเล่นเสียงอัตโนมัติได้ผ่านฟังก์ชั่นการตรวจจับการนอนหลับ เพื่อให้หูฟังปิดตัวเองเมื่อพบว่าผู้ใช้งานนอนหลับแล้ว เพื่อการนอนหลับต่อเนื่องตลอดคืน
จุกซิลิโคนให้สัมผัสนุ่มสบายและเป็นมิตรกับผิว
จุกหูฟัง ZenBuds ทำมาจากวัสดุซิลิโคนที่มีความนุ่มและเป็นมิตรกับผิว มอบความสบายเหนือชั้นในการสวมใส่แม้ขณะนอนหลับ
แบตเตอรี่สามารถใช้งานได้นาน 8-12 ชั่วโมง [6]
แบตเตอรี่ของหูฟังรุ่นนี้มีความสามารถการใช้งานต่อการชาร์จหนึ่งครั้งนานสูงสุดถึง 12 ชั่วโมง [7] เมื่อมีการตั้งค่าให้โปรแกรมตรวจจับการนอนหลับทำงานต่อไป หลังเพลงถูกปิดลงอัตโนมัติใน 3 ชั่วโมงอีกทั้งยังใช้งานได้ยาวนานถึง 8 คืน [8] เมื่อมีการใช้งานร่วมกับเคสชาร์จ
นาฬิกาปลุกแบบ In-Ear หมดกังวลเรื่องการรบกวนคนรอบข้าง
ผู้ใช้งานจะถูกปลุกให้ตื่นจากเสียงนาฬิกาปลุกจากหูฟังแบบ In-Ear ที่ค่อย ๆ เพิ่มระดับความดังขึ้นทีละน้อย จึงไม่ต้องกังวลว่าเสียงนาฬิกาปลุกของคุณจะรบกวนคนรอบข้างอีกต่อไป

 ข้อมูลจำเพาะของผลิตภัณฑ์

 Amazfit ZenBuds

 วางจำหน่าย

 กำหนดไว้ในปี 2020

 ราคา

 149.90 ดอลลาร์สหรัฐ

 เวอร์ชั่นบลูทูธ

 BT5.0 BLE

 กันน้ำ

 N/A

 ไมโครโฟน

 ไม่มี

 อายุแบตเตอรี่

 ใช้งานต่อเนื่อง 8 ถึง 12 ชั่วโมง  (>68 ชั่วโมงเมื่อใช้ร่วมกับเคสชาร์ต)

 น้ำหนัก

 1.78 กรัม

 เซนเซอร์

 G sensor

 วัสดุ

 ซิลิโคน

 ลำโพง

 Knowles Technology

 ฟีเจอร์

 ดีไซน์เฉพาะให้ตัดเสียงรบกวนรอบข้าง,
 วัดอัตราการเต้นของหัวใจ, ติดตามการนอนหลับ, เสียงนุ่มลึกเป็นธรรมชาติ,
 นาฬิกาปลุก

 อุปกรณ์ในกล่อง

 หูฟัง 1 คู่, เคสชาร์จ 1 อัน, จุกซิลิโคน
 3 คู่ (ขนาดใหญ่, กลาง, เล็ก), สายชาร์ต USB-A to Type C 1 เส้น
 และคู่มือการใช้งาน

[1] https://weibo.com/ttarticle/p/show?id=2309404484526402306487
[2] งานประกาศรางวัล RedDot Award ซึ่งจัดขึ้นที่ประเทศเยอรมนี นับเป็นหนึ่งในเวทีระดับโลกของแวดวงอุตสาหกรรมการออกแบบ เช่นเดียวกับงาน IDEA Award และ IF Design Award
[3] บนแอป MI Fit
[4] หูฟังแต่ละข้างมีน้ำหนักเพียง 1.78 กรัม เมื่อใส่กับจุกซิลิโคนขนาดกลาง
[5] ในแอปของ Amaz?t
[6] 8 ชั่วโมง: เมื่อปิดฟังก์ชั่นการปิดเพลงอัตโนมัติด้วยการตรวจจับการนอนหลับและวัดระดับการเต้นของหัวใจ 12 ชั่วโมง: เมื่อเปิดใช้งานตรวจจับการนอนหลับและวัดระดับการเต้นของหัวใจ โดยเพลงจะดับลงหลังจากที่เล่นต่อเนื่องนาน 3 ชั่วโมง ส่วนการตรวจับการนอนจะทำงานตลอดคืน
[7] ข้อมูลจาก Amazfit Lab ซึ่งอาจเปลี่ยนแปลงได้ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขการทดสอบที่ต่างกันไป
[8] 64 ชั่วโมงจากการชาร์จหูฟังด้วยเคสชาร์จ ข้อมูลจาก Amazfit Lab อาจเปลี่ยนแปลงได้ ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขการทดสอบ
รูปภาพ - https://photos.prnasia.com/prnh/20200323/2758216-1
คำบรรยายภาพ: Amazfit ZenBuds คว้ารางวัล Red Dot จากเวที Red Dot Design Award 2020

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Post Bottom Ad