สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ส่งผลกระทบต่อทุกภาคส่วนและต่อเนื่องเป็นลูกโซ่ไปยังสภาพคล่องของภาคธุรกิจและครัวเรือนไทย ธนาคารกสิกรไทยได้ออกมาตรการช่วยเหลือดูแลลูกค้าอย่างต่อเนื่อง ภายใต้โครงการรวมใจไม่ทิ้งกัน เพื่อบรรเทาภาระทางการเงินและช่วยประคับประคองลูกค้าของธนาคารให้สามารถก้าวข้ามวิกฤตในครั้งนี้ ไปด้วยกัน โดยในปัจจุบันได้ช่วยเหลือลูกค้าธุรกิจไปแล้ว 80,229 ราย ยอดหนี้กว่า 393,906 ล้านบาท และช่วยเหลือลูกค้าบุคคล 297,800 ราย ยอดหนี้ 186,850 ล้านบาท
นายปรีดี ดาวฉาย กรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า ธนาคารกสิกรไทยติดตามดูแลสถานการณ์ลูกค้าของธนาคาร ทั้งลูกค้าธุรกิจและลูกค้าบุคคลรายย่อย อย่างใกล้ชิด และได้เริ่มให้ความช่วยเหลือลูกค้าผ่านมาตรการของธนาคารเองตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2563 เป็นต้นมา โดยมีการปรับลดภาระผ่อนชำระต่อเดือน พักชำระเงินต้น พักชำระเงินต้นและดอกเบี้ย ตลอดจนปล่อยสินเชื่อใหม่เพื่อช่วยเพิ่มสภาพคล่องให้กับกลุ่มลูกค้าธุรกิจผ่านโครงการสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ (Soft Loan) ทั้งในส่วนของธนาคารออมสินและธนาคารแห่งประเทศไทย โดยมีความคืบหน้าในการให้ความช่วยเหลือลูกค้า ดังนี้
ธนาคารให้ความช่วยเหลือลูกค้าธุรกิจไปแล้ว เป็นจำนวน 80,229 ราย คิดเป็นยอดหนี้ที่ได้รับความช่วยเหลือกว่า 393,906 ล้านบาท ในจำนวนนี้ส่วนใหญ่เป็นลูกค้าผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม
ธนาคารให้ความช่วยเหลือลูกค้าบุคคลรายย่อยไปแล้ว เป็นจำนวน 297,800 ราย คิดเป็นยอดหนี้ที่ได้รับความช่วยเหลือ 186,850 ล้านบาท ในจำนวนนี้ส่วนใหญ่เป็นลูกค้าสินเชื่อบ้าน สินเชื่อที่มีหลักประกัน และสินเชื่อบัตรเครดิต
การให้สินเชื่อใหม่เพื่อเพิ่มสภาพคล่องให้กับลูกค้าผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อมภายใต้โครงการ Soft Loan ของธนาคารออมสินและธนาคารแห่งประเทศไทย รวมถึงที่ธนาคารกสิกรไทยปล่อยกู้เอง เป็นจำนวน 21,000 ราย รวมยอดหนี้ที่ได้รับความช่วยเหลือประมาณ 42,000 ล้านบาท โดยใช้ บสย. ค้ำประกันจำนวน 34,000 ล้านบาท และเป็นสินเชื่อที่ไม่มีหลักประกัน 8,000 ล้านบาท (ยอดสิ้นสุด 18 พ.ค. 2563)
ธนาคารให้ความช่วยเหลือลูกค้าบุคคลรายย่อยไปแล้ว เป็นจำนวน 297,800 ราย คิดเป็นยอดหนี้ที่ได้รับความช่วยเหลือ 186,850 ล้านบาท ในจำนวนนี้ส่วนใหญ่เป็นลูกค้าสินเชื่อบ้าน สินเชื่อที่มีหลักประกัน และสินเชื่อบัตรเครดิต
การให้สินเชื่อใหม่เพื่อเพิ่มสภาพคล่องให้กับลูกค้าผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อมภายใต้โครงการ Soft Loan ของธนาคารออมสินและธนาคารแห่งประเทศไทย รวมถึงที่ธนาคารกสิกรไทยปล่อยกู้เอง เป็นจำนวน 21,000 ราย รวมยอดหนี้ที่ได้รับความช่วยเหลือประมาณ 42,000 ล้านบาท โดยใช้ บสย. ค้ำประกันจำนวน 34,000 ล้านบาท และเป็นสินเชื่อที่ไม่มีหลักประกัน 8,000 ล้านบาท (ยอดสิ้นสุด 18 พ.ค. 2563)
นอกจากนี้ธนาคารยังมีโครงการให้ความช่วยเหลือธุรกิจ ให้สามารถรักษาการจ้างพนักงานที่มีรายได้น้อยให้อยู่รอดในภาวะวิกฤตนี้ 2 โครงการ คือ โครงการ “เถ้าแก่ใจดี เจ้าหนี้มีใจ” เป็นการลดดอกเบี้ยให้เจ้าของธุรกิจ เพื่อนำเงินส่วนนี้ไปจ่ายเงินดือนพนักงาน โดยธนาคารกับเจ้าของธุรกิจช่วยกันจ่ายเงินเดือนให้พนักงานคนละครึ่ง และโครงการ “สินเชื่อ 0% เพื่อรักษาคนงานเอสเอ็มอี” เป็นโครงการช่วยเหลือธุรกิจเอสเอ็มอีขนาดเล็กให้รักษาการจ้างพนักงาน โดยธนาคารให้เงินทุน ดอกเบี้ย 0% 10 ปี ไม่มีค่าธรรมเนียม ปีแรกไม่ต้องผ่อนชำระ โดยหวังว่าทั้ง 2 โครงการจะช่วยผู้ประกอบการให้ยังคงมีการจ้างงานต่อเนื่องได้ถึง 56,000 คน
นายปรีดี กล่าวทิ้งท้ายว่า ธนาคารยังคงเดินหน้าทำงานอย่างต่อเนื่อง เพื่อช่วยเหลือลูกค้าที่ได้รับผลกระทบอย่างเต็มที่ รวมถึงการสนับสนุนให้ลูกค้าสามารถกลับมาดำเนินธุรกิจได้ตามปกติ หลังจากที่สถานการณ์โควิด-19 ผ่านพ้นไป
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น