“ซาบีน่า” รุกเจาะลูกค้าองค์กรรับผลิตหน้ากากผ้าดันออเดอร์ทะลัก 5 ล้านชิ้น พร้อมวางจำหน่ายหน้ากากผ้า Triple Mask แบรนด์ SABINA เดือน พ.ค.นี้ - ข่าวเด่นวันนี้ | Today Highlight News

Breaking

Home Top Ad

Post Top Ad

วันจันทร์ที่ 11 พฤษภาคม พ.ศ. 2563

“ซาบีน่า” รุกเจาะลูกค้าองค์กรรับผลิตหน้ากากผ้าดันออเดอร์ทะลัก 5 ล้านชิ้น พร้อมวางจำหน่ายหน้ากากผ้า Triple Mask แบรนด์ SABINA เดือน พ.ค.นี้

“ซาบีน่า” รุกเจาะลูกค้าองค์กรรับผลิตหน้ากากผ้าดันออเดอร์ทะลัก 5 ล้านชิ้นพร้อมวางจำหน่ายหน้ากากผ้า Triple Mask แบรนด์ SABINA เดือน พ.ค.นี้

หลังส่งคอลเลคชั่น ThaiFruit ตีตลาดลูกค้าวัยรุ่น ดันยอดขายออนไลน์พุ่งเท่าตัว
ซาบีน่าพลิกกลยุทธ์รับวิถีชีวิตปกติภายใต้มาตรฐานใหม่ “นิว นอร์มอล” (New Normal) หลังสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ส่งผลให้หน้ากากผ้ากลายเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวัน เผยเปิดแนวรุกเจาะกลุ่มลูกค้าองค์กร รับผลิตให้หน่วยงานต่างๆ ล่าสุดมีคำสั่งผลิตเข้ามาแล้วกว่า 5 ล้านชิ้น ประกาศรับออเดอร์ต่อเนื่อง หวังทำตลาดจริงจัง พร้อมเตรียมวางจำน่ายหน้ากากผ้า Triple Mask (ทริปเพิ้ล มาส์ก) ภายใต้แบรนด์ “SABINA” ภายในเดือนพฤษภาคมนี้ ชูคุณสมบัติพิเศษช่วยป้องกันแบคทีเรียและฝุ่น มั่นใจได้รับกระแสตอบรับดี ด้วยการผลิตจากวัตถุดิบคุณภาพพรีเมี่ยม โดยเฉพาะเนื้อผ้าที่มีคุณภาพดี ไม่ระคายเคือง เน้นกระตุ้นการขายผ่านช่องทางออนไลน์อย่างต่อเนื่อง หลังจากช่วงกลางเดือนเมษายนที่ผ่านมา มีการเปิดตัวสินค้าหน้ากากผ้าแนวแฟชั่นภายใต้คอลเลคชั่น “ThaiFruit” สดใสด้วยลวดลายผลไม้ไทยรับกระแสซัมเมอร์ วางขายพร้อมชุดชั้นในเจาะลูกค้ากลุ่มวัยรุ่น ดันยอดขายช่องทางออนไลน์พุ่งเท่าตัว
นายบุญชัย ปัณฑุรอัมพร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซาบีน่า จำกัด (มหาชน) หรือ SABINA ผู้ผลิตและจำหน่ายชุดชั้นในแบรนด์ “ซาบีน่า” เปิดเผยว่า จากการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่หรือโควิด-19 ส่งผลให้หน้ากากผ้ากลายเป็นของใช้จำเป็นในการชีวิตประจำวัน บริษัทฯ จึงเดินหน้าทำตลาดหน้ากากผ้าอย่างจริงจัง โดยแบ่งการผลิตออกเป็น 2 ส่วน ได้แก่ การรับผลิต (OEM) ให้กับองค์กรต่างๆ ซึ่งตอนนี้มายอดสั่งผลิตรวมแล้วกว่า 5 ล้านชิ้น รวมถึงการผลิตหน้ากากนาโนป้องกันไรฝุ่นภายใต้แบรนด์ “วิน-มาสก์” จำนวน 2 แสนชิ้นให้กับโรงพยาบาลศิริราช โดยหลังจากนี้ บริษัทฯ จะรุกทำตลาดองค์กร (Corporate) เพื่อผลิตหน้ากากผ้าให้กลุ่มเป้าหมาย เช่น โรงพยาบาล ร้านอาหาร ร้านกาแฟ รวมถึงบริษัทห้างร้าน และหน่วยงานต่างๆ ที่ต้องการหน้ากากผ้าคุณภาพดีสำหรับแจกจ่ายให้กับพนักงานในองค์กรหรือลูกค้า

“ในส่วนของการรับผลิตนั้น ซาบีน่าได้รับการตอบรับที่ดีมากจากหน่วยงานต่างๆ ที่ติดต่อเข้ามา เนื่องจากไว้วางใจในคุณภาพวัตถุดิบ โดยเฉพาะผ้าที่คุณภาพดี รวมถึงกระบวนการผลิต การตัดเย็บ การตรวจสอบคุณภาพภายใต้มาตรฐาน ซาบีน่า ซึ่งในส่วนนี้เราเชื่อว่า ตลาดยังโตได้อีกมาก เนื่องจากหลังจากวิกฤติโควิด-19 คลี่คลาย ประชาชนสามารถกลับมาใช้ชีวิตตามปกติได้ แต่ทุกอย่างจะเป็นความปกติภายใต้มาตรฐานใหม่หรือ “นิว นอร์มอล” (New Normal) ที่หน้ากากผ้ายังมีความจำเป็นอย่างมาก โดยขณะนี้โรงงานผลิตของซาบีน่าทั้ง 5 แห่ง ประกอบด้วย ยโสธร, ชัยนาท, บุรีรัมย์, พุทธมณฑลสาย 5 และท่าพระ สามารถรองรับคำสั่งซื้อที่มีเข้ามาได้อย่างต่อเนื่อง” นายบุญชัยกล่าว
ขณะเดียวกัน บริษัทฯ ยังได้ผลิตหน้ากากผ้าภายใต้แบรนด์ “SABINA” โดยพร้อมแล้วที่จะวางจำหน่ายหน้ากากผ้า Triple Mask (ทริปเพิ้ล มาส์ก) ในเดือนพฤษภาคมนี้ โดยคุณสมบัติเฉพาะของหน้ากากผ้า Triple Mask (ทริปเพิ้ล มาส์ก) ของซาบีน่า จะเป็นหน้ากากผ้าพรีเมียม ปกป้องถึง 3 ชั้น ด้วยนวัตกรรม Magic Silver Innovation ที่ช่วยยับยั้งแบคทีเรีย และได้รับการรับรองมาตรฐาน SEK จากประเทศญี่ปุ่น สามารถซักและนำมาใช้ซ้ำได้ จะวางขายในราคาเพียงชิ้นละ 100 บาท โดยเริ่มขายผ่านช่องทางออนไลน์ตลอดจนจุดขายพิเศษใหม่ๆ และเตรียมพร้อมวางขายหน้าร้านเมื่อจุดขายเปิดทำการตามปกติ ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้ซาบีน่าได้จำหน่ายหน้ากากผ้า ภายใต้คอลเลคชั่น “ThaiFruit” โดยวางจำหน่ายในราคาชิ้นละ 150 บาท พร้อมกับชุดชั้นในคอลเลคชั่นเดียวกัน โดยจุดเด่นหน้ากากผ้าจะมีลายเดียวกันกับลวดลายชุดชั้นใน ซึ่งเน้นลวดลายผลไม้ไทยสีสันสดใสรับกับช่วงซัมเมอร์ เจาะกลุ่มลูกค้าวัยรุ่น ทำให้ยอดขายผ่านช่องทางออนไลน์เพิ่มขึ้นกว่าเท่าตัว
สำหรับผู้สนใจสั่งซื้อหน้ากากผ้า Triple Mask (ทริปเพิ้ล มาส์ก) แบรนด์ “SABINA” สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่  Facebook : SabinaThailand  และ Line@ : @SabinaThailand  
“หลังจากนี้ การสวมหน้ากากผ้า จะกลายเป็นรูปแบบปกติของการใช้ชีวิตในวิถีใหม่ เหมือนกับการสวมใส่ชุดชั้นในที่เราต้องใส่ทุกวัน ต้องดูแลความสะอาด ใส่แล้วนำไปซักเพื่อใส่ซ้ำ ทุกคนต้องมีหน้ากากผ้าติดตู้ไว้ไม่ต่างจากชุดชั้นใน เพราะนอกจากเรื่องของการแพร่ระบาดของไวรัสแล้ว ยังมีเรื่องของฝุ่น PM 2.5  ซึ่งประเด็นเกี่ยวกับความปลอดภัยด้านสุขภาพนี้ จะมีความสำคัญมากขึ้นเรื่อยๆ ดังนั้น ธุรกิจจึงต้องปรับตัวตามวิถีใหม่ที่จะเกิดขึ้น ซึ่งซาบีน่ามั่นใจว่า เรามีความพร้อม ทั้งการผลิต การทำตลาด รวมถึงการขาย ที่เราสร้างช่องทางขายออนไลน์ให้แข็งแกร่งในช่วงหลายปีที่ผ่านมา สอดรับกับพฤติกรรมเว้นระยะห่างที่ทำให้การซื้อขายผ่านช่องออนไลน์เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ซาบีน่ากล่าว

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Post Bottom Ad