สนพ.ปรับตัวเลขพยากรณ์การใช้พลังงานขั้นสุดท้าย ปี63 ลดลง6% จากผลพวงของโควิด-19 - ข่าวเด่นวันนี้ | Today Highlight News

Breaking

Home Top Ad

Post Top Ad

วันจันทร์ที่ 25 พฤษภาคม พ.ศ. 2563

สนพ.ปรับตัวเลขพยากรณ์การใช้พลังงานขั้นสุดท้าย ปี63 ลดลง6% จากผลพวงของโควิด-19


การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในประเทศไทย ที่ส่งผลให้เศรษฐกิจไทยหยุดชะงักแบบกระทันหัน ทำให้สำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) ต้องปรับตัวเลขพยากรณ์การใช้พลังงานขั้นสุดท้ายในปี2563 ใหม่โดยปรับตัวลดลง 6.0% และการใช้น้ำมันสำเร็จรูป ลดลง 6.3% คิดเป็น 134 ล้านลิตรต่อวัน โดยเฉพาะในภาคการขนส่งและอุตสาหกรรม
นายวัฒนพงษ์ คุโรวาท ผู้อำนวยการสำนักงานสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) เปิดเผยว่า การระบาดของโรคติดเชื้อไวรัส COVID-19 ส่งผลกระทบต่อการพยากรณ์การใช้พลังงานปี 2563 ที่ สนพ. ได้แถลงข่าวไปช่วงต้นปี 2563  ดังนั้นเพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนไป สนพ. ได้มีการปรับคาดการณ์การใช้พลังงานขั้นสุดท้ายในปี 2563 ใหม่ โดยใช้สมมุติฐานว่า การระบาดของโรคติดเชื้อไวรัส COVID-19 มีการระบาดสูงสุดในไตรมาสที่ 2 เริ่มลดลงในช่วงไตรมาสที่ 3 และกลับเข้าสู่สภาวะปกติในไตรมาสที่ 4 ซึ่งการแพร่ระบาดของ COVID-19 ส่งผลกระทบทั้งทางตรงและทางอ้อม ทำให้เศรษฐกิจไทยหยุดชะงักอย่างกระทันหันในขั้นรุนแรง โดยสามารถจำแนกผลกระทบตามภาคเศรษฐกิจได้ดังนี้
1) ภาคขนส่ง (Transport) ได้รับผลกระทบจากมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคม (Social Distancing) การทำงานที่บ้าน (Work from Home) และลดการเดินทางข้ามจังหวัด
2) ภาคอุตสาหกรรม ได้รับผลกระทบจากภาวะการระบาดไปทั่วโลก ส่งผลต่อการส่งออกสินค้า และการชะงักงันในระบบการผลิตของ Supply จากทั่วโลก โดยเฉพาะการผลิตจากประเทศจีน
3) ภาคครัวเรือน ทำให้เกิดการว่างงาน การขาดรายได้ และ Social Distancing
4) ภาคการพาณิชย์ (Commercial) ได้รับผลกระทบจากการปิดแหล่งชุมชนและการค้า เช่น ห้างสรรพสินค้า สถานบันเทิง กิจกรรมสันทนาการ และร้านอาหาร เป็นต้น
5) ภาคการท่องเที่ยว ได้รับผลกระทบจากการปิดโรงแรมและแหล่งท่องเที่ยว การกักตัว 14 วันสำหรับผู้เดินทางทั้งในและต่างประเทศ การจำกัดการเดินทาง และการเกิดการระบาดอย่างหนักทั้งในจีน เกาหลี รวมทั้งยุโรป สหรัฐอเมริกา และทวีปอเมริกา ตลอดจนประเทศต่างๆ ในอาเซียน และญี่ปุ่น และมาตรการป้องกันการระบาดในต่างประเทศ
ทั้งนี้ สนพ. คาดการณ์การใช้พลังงานขั้นสุดท้ายของปี 2563 ปรับตัวลดลง 6.0% โดยการใช้น้ำมันสำเร็จรูป ลดลง 6.3% คิดเป็น 134 ล้านลิตรต่อวัน โดยเป็นการลดลงในแต่ละภาคเศรษฐกิจ ดังนี้

– ภาคขนส่ง การใช้น้ำมันเบนซิน อยู่ที่ 30.2 ล้านลิตรต่อวัน ลดลง 5.7% การใช้น้ำมันดีเซล อยู่ที่ 45.6 ล้านลิตรต่อวัน ลดลง 3.7% การใช้ LPG อยู่ที่ 883 พันตัน ลดลง 18.6% การใช้น้ำมันเครื่องบินปรับลดลงมากที่สุดถึง 12.7% หรือคิดเป็น 17.1 ล้านลิตรต่อวัน
– ภาคอุตสาหกรรม เป็นภาคเศรษฐกิจที่มีการใช้พลังงานอย่างหลากหลายชนิด ผลกระทบจากการระบาด COVID-19 ส่งผลต่อการใช้พลังงานที่สำคัญๆ ของภาคเศรษฐกิจนี้ได้แก่ น้ำมัน (ดีเซล และ LPG) ไฟฟ้า และถ่านหิน โดยการใช้น้ำมันดีเซล ลดลง 2.4% คิดเป็น 10.0 ล้านลิตรต่อวัน การใช้ LPG ลดลง 5% การใช้ไฟฟ้าและการใช้ถ่านหิน ลดลง 5.0%
ที่มา:Energy News Center-ENC 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Post Bottom Ad