กรมธุรกิจพลังงาน คาดเริ่มทดลองใช้ระบบBlockchain ในการซื้อขายปาล์มน้ำมันทั้งระบบได้ภายในเดือน มิ.ย. 2563 นี้ หลังจากประชุมร่วมกับผู้ประกอบการโรงงานผลิตน้ำมันปาล์มบริสุทธิ์ ( B100)โรงสกัดน้ำมันปาล์มดิบและผู้ค้าน้ำมันมาตรา 7 ในวันนี้ (15 พ.ค.2563 ) มั่นใจสามารถควบคุมราคาซื้อขายได้ตามกำหนด โดยจะขอความร่วมมือผู้ค้าน้ำมันมาตรา 7 ให้ซื้อ B100 เฉพาะโรงงานที่อยู่ในระบบ Blockchain เท่านั้น พร้อมเปิดตัวเลขการเทียบเคียงราคา หากราคาน้ำมันปาล์มบริสุทธิ์ บรรจุขวดลิตรละ 32 บาท (รวมVAT) ราคาน้ำมันปาล์มดิบ ควรจะอยู่ที่ กก.ละ 18 บาท และราคาผลปาล์มน้ำมัน ( 18% ) ควรจะอยู่ที่ 3.05 บาทต่อกก.
นางสาวนันธิกา ทังสุพานิช อธิบดีกรมธุรกิจพลังงาน เปิดเผยว่า ในวันนี้ (15 พ.ค.2563 ) กรมฯ ได้เรียกประชุมผู้ประกอบการน้ำมันปาล์มบริสุทธิ์ (B100) ,โรงสกัดน้ำมันปาล์มดิบ และผู้ค้าน้ำมันมาตรา 7 เพื่อเตรียมทดลองนำระบบ Blockchain มาดูแลระบบการซื้อขายปาล์มน้ำมัน โดยผู้ประกอบการเห็นชอบแนวทางดังกล่าวซึ่งจะช่วยให้เกษตรกรชาวสวนปาล์มได้รับราคาผลผลิตที่เป็นธรรม
โดยเบื้องต้น ผู้ประกอบการได้ขอเวลา 2 สัปดาห์ เพื่อไปหารือร่วมกันว่าจะคัดเลือกผู้ประกอบการรายใดมาทดลองนำร่องระบบดังกล่าว เนื่องจากระบบ Blockchain ที่จะนำมาใช้ถือเป็นเรื่องใหม่ที่ยังไม่เคยมีการทดลองใช้ในประเทศไทยมาก่อน และจะนำกลับมารายงานกรมธุรกิจพลังงานในการประชุมครั้งต่อไป
สำหรับการทดลองระบบ Blockchain ดังกล่าว จะต้องทำการทดลองทั้งห่วงโซ่ระบบน้ำมันปาล์ม ได้แก่ เกษตรกรชาวสวนปาล์ม, โรงงานสกัดน้ำมันปาล์มดิบ,โรงงานผลิต B100 และผู้ค้าน้ำมันมาตรา 7 โดยในช่วงเริ่มต้นจะนำร่องกับโรงงานผลิตB100 ที่เป็นเจ้าของโรงงานสกัดน้ำมันปาล์มดิบอยู่ด้วย เพื่อสะดวกต่อการทดสอบระบบ ซึ่งคาดว่าจะเริ่มทดลองระบบได้ในเดือนมิ.ย. 2563 นี้ จากนั้นต้องรอดูผลสำเร็จก่อนจึงจะขยายไปสู่โรงงาน B100 แห่งอื่นๆ ต่อไป
อย่างไรก็ตามการนำระบบ Blockchain ดังกล่าวมาใช้ ภาครัฐมั่นใจว่าจะช่วยให้ราคาปาล์มเกิดความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย และเกษตรกรชาวสวนปาล์มจะไม่ถูกกดราคาผลผลิตอีกต่อไป เนื่องจากได้กำหนดราคาซื้อขายที่เปลี่ยนแปลงตามช่วงราคา เช่น หากราคาน้ำมันปาล์มบริสุทธิ์บรรจุขวด 1 ลิตรอยู่ที่ 32 บาทต่อขวด ราคาน้ำมันปาล์มดิบ(CPO)ต้องอยู่ที่ 18 บาทต่อกิโลกรัม และราคาผลปาล์มทะลาย ( 18% ) ต้องอยู่ที่ 3.05 บาทต่อกิโลกรัม เป็นต้น
นางสาวนันธิกา กล่าวว่า หากการทดลองระบบดังกล่าวประสบผลสำเร็จ กรมฯจะขอความร่วมมือกับผู้ค้าน้ำมันมาตรา 7 เพื่อให้รับซื้อน้ำมันปาล์มบริสุทธิ์ 100% หรือ B100 จากผู้ประกอบการ B100 ที่อยู่ในระบบ Blockchain เท่านั้น เพื่อให้ราคาการซื้อขายน้ำมันปาล์มเป็นไปตามที่กำหนดและเกิดความเป็นธรรมกับทุกฝ่ายทั้งระบบ
โดยระบบ Blockchain ที่จะนำมาใช้นั้น จะเป็นระบบที่นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานจะเป็นผู้คัดเลือกผู้พัฒนาระบบ Blockchain ที่เหมาะสมมาทดลองใช้ในเร็วๆนี้ต่อไป
สำหรับราคาน้ำมัน B100 ณ วันที่ 13 พ.ค. 2563 อยู่ที่ 24.87 บาทต่อลิตร,ส่วนราคา CPO อยู่ที่ 20.25-20.75 บาทต่อกิโลกรัม และราคาปาล์มทะลายอยู่ที่ 2.50-3.20 บาทต่อกิโลกรัม ซึ่งยังไม่สอดคล้องกับสูตรการเทียบเคียงราคาที่ภาครัฐมีการคำนวณออกมา
ที่มา:Energy News Center-ENC
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น