แสงช่วงยูวีซี ยับยั้งเชื้อไวรัสโคโรนาในอากาศและบนพื้นผิว - ข่าวเด่นวันนี้ | Today Highlight News

Breaking

Home Top Ad

Post Top Ad

วันจันทร์ที่ 18 พฤษภาคม พ.ศ. 2563

แสงช่วงยูวีซี ยับยั้งเชื้อไวรัสโคโรนาในอากาศและบนพื้นผิว

อ.พญ.ไอณภัค บุญทวียุวัฒน์และศ.ดร.นพ ประวิตร อัศวานนท์ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญจากสมาคมแพทย์ผิวหนังแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ไวรัสโคโรนา ประกอบด้วย อาร์เอ็นเอสายเดียว คลุมด้วยกรอบสองชั้น มีความทนอยู่บนพื้นผิว และล่องลอยในอากาศได้  ขึ้นอยู่กับความชื้น อุณหภูมิและลักษณะของพื้นผิว โดยอยู่บนพื้นผิวพลาสติก หรือสแตนเลสอาจอยู่ได้นานกว่าพื้นผิวอื่น1 การสัมผัสละอองฝอยที่มีไวรัสหรือพื้นผิวที่ปนเปื้อนไวรัสเป็นทางติดต่อหลักจากผู้ป่วย การกำจัดเชื้อไวรัสที่ล่องลอยในอากาศและบนพื้นผิว จึงเป็นการป้องกันการติดต่อเชื้อไวรัสที่น่าสนใจ
การฆ่าเชื้อด้วยแสงช่วงยูวีซี (ซึ่งอยู่ในช่วงคลื่น 200-290 นาโนเมตร รูปภาพที่ 1) เป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการกำจัดเชื้อไวรัสที่มีประสิทธิภาพและรวดเร็ว อย่างไรก็ตามประสิทธิภาพในการฆ่าเชื้อขึ้นกับ ปริมาณแสงที่ใช้ ความชื้นของอากาศ สภาพพื้นผิว ชนิดของเชื้อไวรัส หลังจากเชื้อได้รับแสงยูวีซี โดยเฉพาะความคลื่นที่ 260 นาโนเมตร จะส่งผลให้เชื้อหมดความสามารถในการติดต่อและเจริญเติบโต หรือก่อโรคได้อีก
แสงช่วงยูวีซี ยับยั้งเชื้อไวรัสโคโรนาในอากาศและบนพื้นผิว

ความสามารถในการยับยั้งเชื้อไวรัสบนพื้นผิว  เมื่อทดสอบบนพื้นผิวที่มีความสามารถในการเก็บกักเชื้อไวรัสได้มากที่สุด ภายใต้ภาวะที่เหมาะสม แสงยูวีซีที่ความยาวคลื่นสูงสุด 260 นาโนเมตรสามารถยังยั้งไวรัสที่ประกอบด้วย อาร์เอ็นเอสายเดียวเช่นโคโรนาไวรัสได้ดีกว่า เชื้อไวรัสชนิดอื่น และยั้บยั้งจำนวนเชื้อได้มากชัดเจนอย่างมีนัยสำคัญ ได้ถึง 99% จากจำนวนเชื้อไวรัสตั้งต้นก่อนการฉายแสงโดยใช้ขนาดแสงยูวีซี เพียง 1-3 มิลลิจูลต่อตารางเซนติเมตร2 นั่นหมายความว่าหากใช้หลอดไฟยูวีซีอาจเป็นฟลูออเรสเซนต์ หรือหลอดแอลอีดี ที่มีความสามารถในการยังยั้งเชื้อไวรัสโคโรนาบนพื้นผิว โดยใช้เวลาประมาณ 5 นาที ทั้งนี้ อุปกรณ์ที่ประกอบด้วยหลอดยูวีซี จำเป็นต้องให้ความเข้มอย่างน้อย10 W/cm2 หากเป็นเชื้อไวรัสอื่นๆ จำเป็นต้องได้ใช้ขนาดของแสงยูวีซีที่แตกต่างกันไปดังตารางที่ 1 โดยความชื้นมีประสิทธิภาพของการยับยั้งเชื้อลดลง
การยับยั้งเชื้อไวรัสในอากาศ
แสงยูวีซีสามารถยั้บยั้งโคโรน่าไวรัสได้ง่าย โดยพบว่ามีเปอร์เซ็นต์การรอดของเชื้อเพียง 12 เปอร์เซ็นต์หลังจากได้รับแสงยูวีซีในขนาดที่ต่ำกว่าขนาดที่ใช้ในเชื้อไวรัสอื่นดังตารางที่ 2
และผลของแสงยูวีซีต่อคน สามารถแยกเป็น  
  1. ผิวหนัง  ดีเอ็นเอที่ผิวหนังคนเรา จะดูดซับช่วงคลื่นยูวีซีได้ด้วยโดยอาจแสดงให้เห็นเป็นอาการแดง อย่างไรก็ตามการเปลี่ยนแปลงของดีเอ็นเอ ซึ่งอาจจะนำไปสู่มะเร็งผิวหนัง อาจเริ่มก่อนที่เห็นผิวหนังเป็นสีแดงก็ได้ โดยปริมาณของยูวีซีที่ความยาวคลื่นที่สูงสุด 254 นาโนเมตร ที่ทำให้ผิวหนังมีปฏิกิริยาเป็นสีแดง อยู่ที่ 10 mJ/cm2 ในคนผิวขาว4  
  2. ดวงตา แสงยูวีซีสามารถทำให้กระจกตา เยื่อบุตาขาวอักเสบ เกิดการระคายเคือง แสบร้อนได้หลังจากการได้รับแสงยูวีซีในระยะสั้น
การใช้แสงยูวีซีในการยับยั้งเชื้อโรคอย่างปลอดภัย  ป้องกันผิวหนังและตาด้วยเสื้อผ้าที่มีใยผ้าหนา และแว่นตาอย่างน้อยที่เป็นประจกใส หรือหลีกเลี่ยงการรับแสงยูวีซีโดยตรง โดยการเปิดใช้งานตามเวลาที่ไม่มีผู้คน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Post Bottom Ad