เรียนแบบ “อินเดียศึกษา รั้ว มธ.” พบคนหลากชาติ ทำงานหลากอาชีพ ได้ Multi-skill และ Multi-cultural ทักษะต้องมีของบัณฑิตยุคใหม่ - ข่าวเด่นวันนี้ | Today Highlight News

Breaking

Home Top Ad

Post Top Ad

วันจันทร์ที่ 11 พฤษภาคม พ.ศ. 2563

เรียนแบบ “อินเดียศึกษา รั้ว มธ.” พบคนหลากชาติ ทำงานหลากอาชีพ ได้ Multi-skill และ Multi-cultural ทักษะต้องมีของบัณฑิตยุคใหม่

ใครที่กำลังมองหาหลักสูตรการเรียนที่น่าสนใจ มีความเป็นอินเตอร์ อีกทั้งเป็นหลักสูตรที่แปลกใหม่ สามารถสร้างความโดดเด่น และแตกต่างให้กับโปรไฟล์ของเราได้ สิ่งสำคัญที่ต้องพิจารณา นอกจากรายวิชาที่น่าสนใจแล้ว อาจจะต้องพิจารณาให้ไกลถึงสิ่งที่โลกการทำงานต้องการในอนาคต นั่นก็คือ การมีความสามารถ และความเข้าใจในวัฒนธรรมที่หลากหลาย (Multi-skill, Multi-cultural) ซึ่งเป็นสิ่งที่บัณฑิตยุคใหม่ต้องมี
“หลักสูตรอินเดียศึกษา” ของวิทยาลัยนานาชาติปรีดี พนมยงค์ (พีบีไอซี) มธ. เป็นอีกหนึ่งหลักสูตรที่นับว่าเป็นความแปลกใหม่ในเมืองไทย เพราะยังไม่มีที่ไหนเปิดสอน อีกทั้งหลักสูตรนี้มีความมุ่งมั่นปั้นบัณฑิตที่มีความรู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับประเทศอินเดียอย่างลึกซึ้ง ไม่ว่าจะเป็นด้านสังคม เศรษฐกิจ การเมือง ภาษาและวัฒนธรรม ซึ่งเป็นเครื่องการันตีว่าบัณฑิตที่จบการศึกษาจากหลักสูตรนี้จะมีความรู้ความสามารถในหลากหลายศาสตร์ รวมทั้งความเข้าใจในบริบทวัฒนธรรมที่หลากหลาย (Multi-skill, Multi-cultural) บทความนี้ จะพาไปพูดคุยกับศิษย์เก่าหลักสูตรอินเดียศึกษา พีบีไอซี มธ. ที่ผ่านการเรียนในหลักสูตรอินเดียศึกษาอย่างเข้มข้นเป็นเวลา 4 ปี อีกทั้งผ่านประสบการณ์แลกเปลี่ยนที่อินเดียมาเป็นเวลา 1 เทอมเต็ม ซึ่งพวกเขาเหล่านี้เรียกได้ว่าเป็นผู้ที่รู้ลึก รู้จริงเกี่ยวกับอินเดีย แต่ความรู้ลึก รู้จริงดังกล่าว จะได้เอาไปใช้อย่างไรกับชีวิตการทำงานบ้าง ไปติดตามกันเลย!
นางสาวนันทิตา ดูเบย์ ศิษย์เก่าหลักสูตรอินเดียศึกษา วิทยาลัยนานาชาติปรีดีพนมยงค์ (พีบีไอซี) มธ. เล่าว่า ปัจจุบันตนทำงานในตำแหน่งเจ้าหน้าที่จัดหาทรัพยากร ในบริษัทข้ามชาติที่มีสำนักงานอยู่ในหลายประเทศทั่วโลก โดยทำหน้าที่ประสานงานกับสำนักงานในประเทศอินเดีย ซึ่งนับเป็นตำแหน่งงานที่หาคนไทยทำได้ยากมาก เพราะคนไทยน้อยคนที่สามารถใช้ภาษาฮินดีในระดับติดต่อสื่อสารได้ อีกทั้งต้องมีความรู้ความเข้าใจในวัฒนธรรมอินเดียเป็นอย่างดี ซึ่งเปรียบเสมือนอาวุธลับในการทำงานร่วมกับชาวอินเดีย ซึ่งตนมองว่าสิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่ได้จากการเรียนในหลักสูตรอินเดียศึกษา พีบีไอซี ไม่ได้เน้นการเรียนเฉพาะด้านภาษา แต่ยังเน้นด้านวัฒนธรรม สังคม เศรษฐกิจ การเมือง ตลอดจนการเจรจาทางธุรกิจกับอินเดีย ทำให้ตนได้รับโอกาสการทำงานดีๆ ที่ไม่คาดคิด
เรียนแบบ “อินเดียศึกษา รั้ว มธ.” พบคนหลากชาติ ทำงานหลากอาชีพ ได้ Multi-skill และ Multi-cultural ทักษะต้องมีของบัณฑิตยุคใหม่
“การเรียนตลอด 4 ปี คือการปรับตัว และรู้จักนำองค์ความรู้ในวิชาต่างๆ มาประยุกต์ใช้ รวมถึงความพร้อมในการเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ ดังเช่นประสบการณ์ที่ได้ไปแลกเปลี่ยนที่อินเดียเป็นเวลา 1 เทอม สิ่งเหล่านี้ทำให้เราเป็นที่ยอมรับในด้านความสามารถที่หลากหลาย (Multi-skill) ในโลกการทำงาน” นางสาวนันทิตา กล่าว
นางสาวนันทิตา เล่าต่อว่า ตลอด 4 ปีที่ได้เรียนในหลักสูตรอินเดียศึกษา มีหลายวิชาที่เราสนุกไปกับการเรียนมากๆ แต่อีกใจหนึ่งก็คิดว่าจะได้นำความรู้เหล่านั้นมาใช้ในการทำงานหรือไม่ เพราะคิดว่าการที่เรารู้เรื่องอินเดียอย่างลึกซึ้ง อาจจะยังไม่เป็นที่ต้องการของตลาดงานในไทย แต่ตนได้ค้นพบว่ายังมีบริษัทข้ามชาติที่ตั้งอยู่ในไทยอีกมาก ที่มีส่วนงานที่ต้องประสานงานกับบริษัทในอินเดีย เนื่องจากอินเดียเป็นประเทศที่มีเศรษฐกิจขนาดใหญ่ และมีการดำเนินธุรกิจกับทั่วโลก ซึ่งบริษัทเหล่านี้ต้องการผู้ที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญเกี่ยวกับอินเดียอย่างลึกซึ้ง อีกทั้งมีค่าตอบแทนที่ค่อนข้างสูงไม่แพ้บริษัทข้ามชาติอื่นๆ ในไทย ในขณะที่ประเทศไทยยังมีผู้ที่รู้ลึก รู้จริงเกี่ยวกับอินเดีย และสามารถสื่อสารภาษาฮินดีได้น้อยมาก โดยประสบการณ์ส่วนตัวในการสมัครงานนั้น ชื่อหลักสูตร “อินเดียศึกษา” และรายวิชาในทรานสคริปต์ของเรา มีผลอย่างมากต่อการเรียกสัมภาษณ์และได้งาน เพราะรายวิชาที่เราได้เรียน ถือว่าครอบคลุมในทุกมิติของอินเดีย อีกทั้งประสบการณ์แลกเปลี่ยนที่ประเทศอินเดียเป็นเวลา 1 เทอม ยังเป็นเครื่องยืนยันว่าเราผ่านการใช้ชีวิตและกระบวนการ ดังคำกล่าวที่ว่า “ถ้าอยู่กับคนอินเดียได้ ก็สามารถอยู่กับคนทั้งโลกได้”
ด้านศิษย์เก่าที่เลือกเรียนภาษาฮินดีเพิ่มเติมที่ประเทศอินเดีย ก่อนเข้าสู่โลกการทำงานจริงอย่าง นางสาวศศิกานต์ พ่วงรัก ศิษย์เก่าหลักสูตรอินเดียศึกษา วิทยาลัยนานาชาติปรีดี พนมยงค์ (พีบีไอซี) มธ. ได้เปิดเผยว่า หลังจากจบการศึกษาในหลักสูตรอินเดียศึกษา พีบีไอซี ตนตั้งเป้าหมายชัดเจนว่าอนาคตจะศึกษาต่อปริญญาโททางด้านภาษาฮินดีศาสตร์ ณ ประเทศอินเดีย และตั้งใจกลับมาทำงานด้านการศึกษาภาษาฮินดี จึงเป็นสาเหตุให้ตัดสินใจสมัครทุนฮินดีระยะสั้น ซึ่งเป็นทุนที่สนับสนุนโดยรัฐบาลอินเดีย ใช้เวลาในการเรียน 9 เดือน ที่ประเทศอินเดีย เพื่อเติมเต็มความรู้ภาษาฮินดีให้พร้อมศึกษาต่อในระดับที่สูงขึ้น อีกทั้งยังเป็นการซึมซับประสบการณ์การใช้ชีวิตในประเทศอินเดียเพิ่มเติม นอกจากนี้ ตนยังตั้งใจทำหน้าที่เผยแพร่แง่มุมสุดอันซีนในอินเดีย ผ่านการเปิดเฟซบุ๊กแฟนเพจ “อินเดี่ยนแลนด์ แดนมหัศจรรย์” ที่บอกเล่าเรื่องราวต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นประสบการณ์การใช้ชีวิตประจำวันที่มีทั้งเรื่องสนุก ลุ้น ตื่นเต้นในอินเดีย หรือจะเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มี 'หิมะตก’ ที่หลายคนคาดไม่ถึง ทั้งหมดนี้ ตนต้องการบอกเล่าเรื่องราว และสร้างความเข้าใจอินเดียในมุมมองใหม่ๆ ให้แก่คนไทย ว่าอินเดียยังมีอะไรที่น่าสนใจให้ค้นหาอีกมาก
“หนึ่งในผลลัพธ์ของหลักสูตรอินเดียศึกษา คือการเข้าใจวัฒนธรรมที่หลากหลาย (Multi-Cultural) ของอินเดีย ทำให้เราเป็นคนที่มีมุมมองที่เปิดกว้างต่อการเรียนรู้มากขึ้น รวมถึงสามารถปรับตัวในสภาพแวดล้อมต่างๆ ได้ดี ไม่ว่าจะเป็นการทำงาน หรือการเรียนรู้ในสิ่งใหม่ๆ นอกจากนี้ อินเดียศึกษา ยังเป็นอีกอาณาบริเวณศึกษาที่ยังไม่ 'Mass’ ในเมืองไทย หรือเรียกได้ว่าเป็นขุมทรัพย์ที่คนไทยจำนวนมากยังไม่ค้นพบ ยิ่งเรารู้จักอินเดียอย่างลึกซึ้งก่อนใคร ก็ยิ่งคว้าโอกาสที่มากมายได้ก่อนคนอื่น” นางสาวศศิกานต์ กล่าวทิ้งท้าย
สำหรับผู้ที่สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ www.pbic.tu.ac.th หรือเฟซบุ๊ก facebook.com/PBIC.TU

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Post Bottom Ad