'ส. ขอนแก่นฟู้ดส์’ หรือ SORKON โชว์ผลการดำเนินงานไตรมาส 1/63 ทำรายได้รวม 726.4 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 33.4 ล้านบาท หลังธุรกิจอาหารแปรรูปจากเนื้อสัตว์และอาหารทะเลแปรรูปเติบโตต่อเนื่อง ด้านผู้บริหารเตรียมความพร้อมหลังภาครัฐคลายล็อกดาวน์ ลุยออกมาตรการเพื่อความปลอดภัยของลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการและพนักงานเพื่อสร้างความมั่นใจ พร้อมเล็งออกโปรโมชั่นเพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายและปรับเปลี่ยนผลิตภัณฑ์รูปแบบใหม่ให้ซื้อได้สะดวกขึ้น รับกำลังซื้อลดลงและพฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนไป
นายจรัสภล รุจิราโสภณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธุรกิจอาหารพร้อมรับประทาน (RTE-QSR) บริษัท ส. ขอนแก่นฟู้ดส์ จำกัด (มหาชน) หรือ SORKON ผู้ผลิตและจำหน่ายอาหารแปรรูปจากเนื้อสัตว์รายใหญ่ของไทย เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานงวดไตรมาส 1/2563 (มกราคม-มีนาคม 2563) บริษัทฯ ทำรายได้รวม 726.4 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4.3% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ที่มีรายได้ 696.6 ล้านบาท โดยมีปัจจัยเติบโตจากธุรกิจอาหารแปรรูปจากเนื้อสัตว์ อาทิ อาหารพื้นเมืองไทย อาหารขบเคี้ยว อาหารแช่แข็งพร้อมทานและธุรกิจอาหารทะเลแปรรูป ซึ่งเป็นสัดส่วนรายได้หลักของบริษัทฯ ขณะที่ธุรกิจร้านอาหารมีรายได้ชะลอตัวลง 12.9% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน หลังรัฐบาลมีมาตรการให้ร้านอาหารเปิดจำหน่ายให้แก่ลูกค้าเฉพาะที่ซื้อเพื่อนำกลับบ้านเท่านั้น
ด้านกำไรสุทธิส่วนที่เป็นของผู้ถือหุ้นของบริษัทฯ ในไตรมาส 1/2563 ทำได้ 33.4 ล้านบาท ลดลง 10% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2562 ที่มีกำไรสุทธิ 37.1 ล้านบาท เนื่องจากการบันทึกรายการขาดทุนจากการเปลี่ยนแปลงมูลค่ายุติธรรมหักต้นทุนในการขายของสินทรัพย์ชีวภาพ และรายการดอกเบี้ยจ่ายจากหนี้สินตามสัญญาเช่า อย่างไรก็ตามบริษัทฯ ได้มุ่งเน้นการบริหารต้นทุนให้มีประสิทธิภาพสูงสุด เพื่อรับมือความผันผวนของราคาวัตถุดิบ ขณะเดียวกันได้มุ่งเน้นเพิ่มความหลากหลายของกลุ่มสินค้ามากขึ้น
ทั้งนี้ ในที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ มีมติจัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ประจำปี 2563 ในวันอังคารที่ 14 กรกฎาคม 2563 เวลา 10.0 น. ณ ห้องประชุมชั้น 8 สำนักงานสาขาของบริษัทฯ อาคารกุหลาบ หมู่ 15 ถนนบางนา-ตราด ตาบลบางแก้ว อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ
นอกจากนี้ บริษัทฯ เตรียมความพร้อมหลังภาครัฐพิจารณาผ่อนคลายล็อกดาวน์ โดยแนวโน้มสถานการณ์แพร่ระบาด COVID-19 มีทิศทางที่ดีขึ้น พร้อมออกมาตรการป้องกันเพื่อความปลอดภัยของลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการและพนักงานสำหรับธุรกิจร้านอาหาร ทั้งร้านแซ่บคลาสสิกและร้านยูนนานทุกสาขา โดยได้เตรียมความพร้อม (1) มาตรการ Social Distance ตั้งจุดคัดกรองเพื่อตรวจวัดอุณหภูมิบริเวณทางเข้าร้านพร้อมจำกัดจำนวนผู้เข้ามาใช้บริการ กำหนดระยะห่างที่นั่งรับประทานอาหารภายในร้านและรักษาระยะห่างระหว่างลูกค้าและพนักงาน (2) ขอความร่วมมือลูกค้าทุกท่านให้ข้อมูลส่วนตัวเบื้องต้น เพื่อสามารถตรวจสอบในกรณีหากพบผู้ติดเชื้อ สร้างความเชื่อมั่นให้กับลูกค้าที่มาใช้บริการ
และ (3) มาตรการความสะอาด ทำความสะอาดอุปกรณ์ภายในร้านให้ถูกต้องตามมาตรฐาน มั่นใจได้ว่าปลอดภัยสูงสุดพร้อมเน้นย้ำให้พนักงานปฏิบัติตนให้ถูกสุขลักษณะ เช่น การใส่หน้ากากอนามัยตลอดเวลา, ล้างทำความสะอาดมือด้วยแอลกอฮอล์ทุก 1 ชั่วโมงหรือหลังปฏิบัติงานที่อาจทำให้เกิดความไม่สะอาด รวมถึงเพิ่มช้อนกลางในทุกเมนูอาหารและไม่เสิร์ฟอาหารหรือสัมผัสโดยตรงกับลูกค้า
บริษัทฯ มีแผนจัดกิจกรรมทางการตลาด (Promotion) เพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายของผู้บริโภค ส่วนของร้านอาหาร จัดรายการอาหารและสินค้าประเภทกับข้าวในราคาพิเศษอย่างต่อเนื่อง และจัดชุดเมนู (Set) อาหารสำหรับรับประทานท่านเดียวมากขึ้น พร้อมเพิ่มจุดขายของ Food truck เพื่อขยายพื้นที่ให้บริการเดลิเวอรี่ครอบคลุมทุกความต้องการของผู้บริโภค ด้านผลิตภัณฑ์ ส. ขอนแก่น นอกจากโปรโมชั่นลดราคา ณ จุดขายแล้ว ยังได้มุ่งพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้มีขนาดเล็กลงเพื่อให้ผู้บริโภคซื้อได้สะดวกขึ้น เช่น หมูแผ่น หมูสวรรค์ ส่วนสินค้าซองใหญ่จะปรับปรุงบรรจุภัณฑ์ให้เป็นแบบซิปล็อคที่สามารถจัดเก็บทานได้หลายครั้ง
นอกจากนี้ บริษัทฯ จะทำโปรโมชั่นส่งเสริมการขายผ่านช่องทางหน้าร้านและช่องทางเดลิเวอรี่ให้มากขึ้น เพื่อรองรับพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เชื่อว่าจะเปลี่ยนแปลงไปอย่างมากหลังสถานการณ์แพร่ระบาดผ่านพ้นไป ส่วนภาวะเศรษฐกิจมองว่ายังชะลอตัวไปอีกสักระยะ โดยคาดว่ากว่าจะฟื้นตัวอาจใช้เวลาเกิน 1 ปี เป็นผลให้ภาคธุรกิจและการจ้างงานลดลงและส่งผลต่อความต้องการซื้อสินค้าของผู้บริโภคโดยเฉพาะในกลุ่มสินค้าฟุ่มเฟือย
อย่างไรก็ตาม ธุรกิจของ ส. ขอนแก่น เป็นธุรกิจอาหาร ซึ่งถือว่ามีความจำเป็นในชีวิตประจำวัน ทำให้มีความต้องการอย่างต่อเนื่อง แม้ช่วงที่ผ่านมาจะมีการงดนั่งรับประทานในร้านอาหาร แต่บริษัทฯ ได้ปรับเปลี่ยนรูปแบบเป็น Takeaway รองรับการสั่งอาหารผ่านแอพพลิเคชันออนไลน์ (Delivery) อาทิ Grab, Lineman และ Food Panda ที่เน้นความสะดวก ปลอดภัย และถูกสุขอนามัย อีกทั้งกลุ่มอาหารพื้นเมือง ได้พัฒนาโมเดลใหม่ ๆ ในการขายผ่านช่องทางออนไลน์ เช่น เว็บไซต์ E-Commerce (shop.sorkon.co.th) และขายผ่านแพลตฟอร์ม Online Market Place อย่าง Shopee ซึ่งได้รับผลตอบรับที่ดีจากผู้บริโภคเป็นอย่างมาก จึงทำให้บริษัทฯ สามารถบริหารความเสี่ยงจากวิกฤติในครั้งนี้ไปได้
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น