กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) โชว์ผลจัดโครงการเจรจาธุรกิจออนไลน์สินค้าผลไม้ ผลไม้แปรรูป อาหารและเครื่องดื่ม และสินค้าสำหรับสัตว์เลี้ยงเจาะตลาดเกาหลี ประสบความสำเร็จตามเป้า มีการเจรจาทำธุรกิจรวม 24 คู่ คาดเกิดมูลค่าซื้อขายกว่า 495 ล้านบาท ทูตพาณิชย์เกาหลีเตรียมจัดกิจกรรมต่ออีก 3 โครงการ เจรจาขายอาหาร เครื่องดื่ม ขนมขบเคี้ยว ชิ้นส่วนยานยนต์ เซมิคอนดักเตอร์ แย้มมีความต้องการทุเรียนไทยอีก 100 ตัน นัดเจรจาออนไลน์ 26 มิ.ย.นี้
นายสมเด็จ สุสมบูรณ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) เปิดเผยว่า กรมฯ ได้มอบหมายให้สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ (สคต.) ที่ประจำอยู่ในประเทศต่างๆ หาช่องทางขยายตลาดให้กับสินค้าไทยในช่วงการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ด้วยการใช้การเจรจาธุรกิจผ่านช่องทางออนไลน์ ซึ่งปัจจุบัน สคต.ได้เริ่มดำเนินการและมีผลงานเข้ามาอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุด สคต. ณ กรุงโซล ได้จัดกิจกรรมเจรจาจับคู่ธุรกิจออนไลน์ไปแล้ว 2 ครั้ง ในกลุ่มสินค้าผลไม้ ผลไม้แปรรูป อาหารและเครื่องดื่ม และสินค้าเกี่ยวกับสัตว์เลี้ยง คาดว่าจะมีการซื้อขายกันกว่า 495 ล้านบาท
สำหรับผลการจัดเจรจาธุรกิจครั้งแรก เป็นการมุ่งจำหน่ายผลไม้ โดยผู้ซื้อ คือ JooA Mango และ JALE Mango ได้เจรจาธุรกิจกับผู้ส่งออกไทยจำนวน 10 ราย สามารถตกลงซื้อมะม่วงมูลค่า 488,700,000 บาทต่อปี และครั้งที่ 2 เป็นการจัดเจรจาธุรกิจสินค้าเกี่ยวกับสัตว์เลี้ยง ผลไม้ ผลไม้แปรรูป อาหารและเครื่องดื่ม โดยผู้ซื้อ คือ Lotte Mart ได้เจรจาธุรกิจกับผู้ส่งออกไทย 14 ราย คาดว่าจะมีการซื้อขายได้ประมาณ 7,336,155 บาท
นอกจากนี้ ยังได้รับแจ้งจากทาง สคต. ณ กรุงโซล ว่า กำลังอยู่ระหว่างผลักดันการเจรจาธุรกิจในสินค้ากลุ่มอื่นๆ เพิ่มเติมด้วย เช่น ชิ้นส่วนรถยนต์ โดยได้มีการนัดหมายให้ Mando Corporation ซึ่งเป็นผู้ผลิตและผู้นำเข้าชิ้นส่วนรถยนต์รายสำคัญของเกาหลี ได้มีโอกาสแจ้งความต้องการสินค้ากับผู้ส่งออกของไทยจำนวน 10 บริษัท และกำลังติดตามให้มีการเจรจาธุรกิจทางออนไลน์ เพื่อผลักดันการส่งออกต่อไป เพราะผู้ซื้อของเกาหลี ปัจจุบันมีปัญหาเรื่องซัพพลายเชน (Supply Chain) ที่นำเข้าจากจีนและอินเดีย หลังจากเกิดสถานการณ์โควิด-19 จึงเป็นโอกาสของผู้ส่งออกไทย
น.ส.วิลาสินี โนนศรีชัย ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ กรุงโชล กล่าวว่า ขณะนี้สำนักงานฯ กำลังอยู่ระหว่างการจัดเตรียมกิจกรรมเจรจาการค้าออนไลน์ในช่วงเดือนมิ.ย.2563 เพิ่มเติมอีก คือ การจัดเจรจาการค้าออนไลน์ระหว่างบริษัท Winning Corp ซึ่งเป็นผู้นำเข้าสินค้าสำหรับจำหน่ายในร้านสะดวกซื้อ GS25 กับผู้ส่งออกของไทย เน้นสินค้ากลุ่มอาหาร เครื่องดื่ม และขนมขบเคี้ยว และในวันที่ 26 มิ.ย.2563 จะจัดกิจกรรมเจรจาการค้าออนไลน์ระหว่างบริษัท Telcom ซึ่งเป็นเทรดดิ้งนำเข้าสินค้าหลายชนิด เช่น ชิ้นส่วนรถยนต์ และเซมิคอนดักเตอร์ เป็นต้น กับผู้ส่งออกของไทย คาดว่าจะได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีเช่นเดียวกัน
ทั้งนี้ ล่าสุด ได้รับการติดต่อจากผู้นำเข้าผลไม้รายใหญ่เป็นอันดับ 2 ของเกาหลี บริษัท Sky International มีความต้องการเจรจากับผู้ส่งออกผลไม้ไทย โดยต้องการนำเข้าทุเรียนจากไทย จำนวน 10,000 กล่อง หรือ ประมาณ 100 ตัน คิดเป็นมูลค่า 38.5 ล้านบาท ทั้งนี้ สคต.ณ กรุงโซล จะร่วมกับสำนักตลาดพาณิชย์ดิจิทัล ดำเนินการจัดเจรจาการค้าออนไลน์ในวันที่ 26 มิ.ย.2563 นี้
ทางด้านแนวโน้มการค้าในตลาดเกาหลี หลังจากสถานการณ์โควิด-19 คาดว่า ช่องทางออนไลน์จะเข้ามามีบทบาทมากยิ่งขึ้น ซึ่งสำนักงานฯ จะเดินหน้าขยายโอกาสทางการตลาดให้กับสินค้าไทยผ่านช่องทางออนไลน์ต่อไป โดยจะร่วมมือกับแพลตฟอร์มชื่อดัง เช่น คูปัง (Coupang), วีเมคไพรซ์ (WemakePrice), เนเว่อร์ (Naver) และ อีเลเว่นสตรีท (11st Street) เป็นต้น โดยสินค้าที่มีโอกาส เช่น อาหารสำเร็จรูป เครื่องดื่ม และขนมขบเคี้ยว เป็นต้น
นายสมเด็จ สุสมบูรณ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) เปิดเผยว่า กรมฯ ได้มอบหมายให้สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ (สคต.) ที่ประจำอยู่ในประเทศต่างๆ หาช่องทางขยายตลาดให้กับสินค้าไทยในช่วงการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ด้วยการใช้การเจรจาธุรกิจผ่านช่องทางออนไลน์ ซึ่งปัจจุบัน สคต.ได้เริ่มดำเนินการและมีผลงานเข้ามาอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุด สคต. ณ กรุงโซล ได้จัดกิจกรรมเจรจาจับคู่ธุรกิจออนไลน์ไปแล้ว 2 ครั้ง ในกลุ่มสินค้าผลไม้ ผลไม้แปรรูป อาหารและเครื่องดื่ม และสินค้าเกี่ยวกับสัตว์เลี้ยง คาดว่าจะมีการซื้อขายกันกว่า 495 ล้านบาท
สำหรับผลการจัดเจรจาธุรกิจครั้งแรก เป็นการมุ่งจำหน่ายผลไม้ โดยผู้ซื้อ คือ JooA Mango และ JALE Mango ได้เจรจาธุรกิจกับผู้ส่งออกไทยจำนวน 10 ราย สามารถตกลงซื้อมะม่วงมูลค่า 488,700,000 บาทต่อปี และครั้งที่ 2 เป็นการจัดเจรจาธุรกิจสินค้าเกี่ยวกับสัตว์เลี้ยง ผลไม้ ผลไม้แปรรูป อาหารและเครื่องดื่ม โดยผู้ซื้อ คือ Lotte Mart ได้เจรจาธุรกิจกับผู้ส่งออกไทย 14 ราย คาดว่าจะมีการซื้อขายได้ประมาณ 7,336,155 บาท
นอกจากนี้ ยังได้รับแจ้งจากทาง สคต. ณ กรุงโซล ว่า กำลังอยู่ระหว่างผลักดันการเจรจาธุรกิจในสินค้ากลุ่มอื่นๆ เพิ่มเติมด้วย เช่น ชิ้นส่วนรถยนต์ โดยได้มีการนัดหมายให้ Mando Corporation ซึ่งเป็นผู้ผลิตและผู้นำเข้าชิ้นส่วนรถยนต์รายสำคัญของเกาหลี ได้มีโอกาสแจ้งความต้องการสินค้ากับผู้ส่งออกของไทยจำนวน 10 บริษัท และกำลังติดตามให้มีการเจรจาธุรกิจทางออนไลน์ เพื่อผลักดันการส่งออกต่อไป เพราะผู้ซื้อของเกาหลี ปัจจุบันมีปัญหาเรื่องซัพพลายเชน (Supply Chain) ที่นำเข้าจากจีนและอินเดีย หลังจากเกิดสถานการณ์โควิด-19 จึงเป็นโอกาสของผู้ส่งออกไทย
น.ส.วิลาสินี โนนศรีชัย ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ กรุงโชล กล่าวว่า ขณะนี้สำนักงานฯ กำลังอยู่ระหว่างการจัดเตรียมกิจกรรมเจรจาการค้าออนไลน์ในช่วงเดือนมิ.ย.2563 เพิ่มเติมอีก คือ การจัดเจรจาการค้าออนไลน์ระหว่างบริษัท Winning Corp ซึ่งเป็นผู้นำเข้าสินค้าสำหรับจำหน่ายในร้านสะดวกซื้อ GS25 กับผู้ส่งออกของไทย เน้นสินค้ากลุ่มอาหาร เครื่องดื่ม และขนมขบเคี้ยว และในวันที่ 26 มิ.ย.2563 จะจัดกิจกรรมเจรจาการค้าออนไลน์ระหว่างบริษัท Telcom ซึ่งเป็นเทรดดิ้งนำเข้าสินค้าหลายชนิด เช่น ชิ้นส่วนรถยนต์ และเซมิคอนดักเตอร์ เป็นต้น กับผู้ส่งออกของไทย คาดว่าจะได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีเช่นเดียวกัน
ทั้งนี้ ล่าสุด ได้รับการติดต่อจากผู้นำเข้าผลไม้รายใหญ่เป็นอันดับ 2 ของเกาหลี บริษัท Sky International มีความต้องการเจรจากับผู้ส่งออกผลไม้ไทย โดยต้องการนำเข้าทุเรียนจากไทย จำนวน 10,000 กล่อง หรือ ประมาณ 100 ตัน คิดเป็นมูลค่า 38.5 ล้านบาท ทั้งนี้ สคต.ณ กรุงโซล จะร่วมกับสำนักตลาดพาณิชย์ดิจิทัล ดำเนินการจัดเจรจาการค้าออนไลน์ในวันที่ 26 มิ.ย.2563 นี้
ทางด้านแนวโน้มการค้าในตลาดเกาหลี หลังจากสถานการณ์โควิด-19 คาดว่า ช่องทางออนไลน์จะเข้ามามีบทบาทมากยิ่งขึ้น ซึ่งสำนักงานฯ จะเดินหน้าขยายโอกาสทางการตลาดให้กับสินค้าไทยผ่านช่องทางออนไลน์ต่อไป โดยจะร่วมมือกับแพลตฟอร์มชื่อดัง เช่น คูปัง (Coupang), วีเมคไพรซ์ (WemakePrice), เนเว่อร์ (Naver) และ อีเลเว่นสตรีท (11st Street) เป็นต้น โดยสินค้าที่มีโอกาส เช่น อาหารสำเร็จรูป เครื่องดื่ม และขนมขบเคี้ยว เป็นต้น
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น