การแข่งขันชิงแชมป์รถจักรยานยนต์ทางเรียบชิงแชมป์โลกรายการ Moto2 ฤดูกาล 2020 กลับมาอีกครั้งอย่างยิ่งใหญ่ในสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ณ ประเทศสเปน หลังจากที่หยุดพักไปกว่า 4 เดือน นับตั้งแต่เปิดฤดูกาลแข่งขันที่กาตาร์ โดย ลูก้า มารินี (Luca Marini) นักบิดชาวอิตาเลียนได้ขึ้นเป็นผู้นำการแข่งขันในสนาม Jerez ทำให้ได้รับชัยชนะเป็นครั้งแรกในฤดูกาลการแข่งขัน Moto2 และเป็นครั้งที่สามของเขาด้วยการขับเคลื่อนของเครื่องยนต์ไทรอัมพ์สามสูบ Moto2 โดยเขาได้ออกสตาร์ทในแถว 2 ในตำแหน่งที่ 4 และพบว่านักแข่งจากทีม Italian Sky Racing Team VR46 สามารถทำสถิติดีอย่างต่อเนื่องด้วยการขึ้นนำในรอบที่ 4 ทิ้งห่าง ฆอร์เก มาร์ติน (Jorge Martin) ไปอย่างไม่เห็นฝุ่น
จากการทำความเร็วอย่างหนักในช่วงครึ่งแรกของการแข่งขัน ลูก้า มารินี สามารถเข้าเส้นชัยนำด้วยเวลา 1.5 วินาที แม้จะนำอยู่แต่ยังคงกดดันผู้แข่งขันคนอื่นๆในอีกรอบ 6 ที่เหลือ โดยผู้ที่คว้าชัยชนะในการแข่งขันสนามกาตาร์อย่าง เท็ตซูตะ นากาชิม่า (Tetsuta Nagashima) ก็ไม่สามารถเอาชนะความเร็วของมารินีได้ ทำให้นากาชิม่าเข้าเส้นชัยเป็นอันดับที่สอง ซึ่งก็ถือเป็นผลงานอันน่าประทับใจจากการออกสตาร์ทในลำดับ 8 ซึ่งคล้ายกับการแข่งขันที่สนามกาตาร์ที่นากาชิม่าสามารถไล่จากอันดับที่ 14 จนคว้าชัยชนะรายการ Moto2 เป็นครั้งแรกด้วยพลังของเครื่องยนต์ไทรอัมพ์ Moto2 ทำให้นักบิดญี่ปุ่นรายนี้กลายเป็นอีกหนึ่งผู้เข้าแข่งขันที่น่าจับตามอง
ในขณะที่ ฆอร์เก มาร์ติน พ่ายแพ้ให้แก่ทั้งมารินี และนากาชิม่าในการแข่งรอบที่ 4 แต่สามารถกลับเข้าสู่ตำแหน่งที่ 3 ได้ภายในระยะเวลาที่เหลืออยู่ โดยผลลัพธ์ค่อนข้างทิ้งห่างจากนักแข่งคนอื่น มีเพียงแค่แรงกดดันจาก แซม โลวส์ (Sam Lowes) ในรอบสุดท้าย แต่ในที่สุดนักบิดชาวอังกฤษก็ไม่สามารถตามมาร์ตินได้ ทำให้จบการแข่งขันสนามนี้ไปในลำดับที่ 4
ทั้งนี้แม้ว่าอุณหภูมิของการแข่งขันที่สนาม Jerez จะร้อนขึ้นถึง 50% เมื่อเทียบกับการแข่งขันในปี 2019 เนื่องด้วยการแข่งขันที่ล่าช้าลง 2 เดือน และการปรับปฏิทินการแข่งขัน ทำให้การพัฒนาเครื่องยนต์ไทรอัมพ์ Moto2 สามสูบ 765 ซีซี ได้เสร็จสมบูรณ์ในช่วงนอกฤดูกาลแข่งขัน และยังคงสร้างคำจำกัดความใหม่ของการแข่งขัน Moto2 โดย มาร์แซล ชร็อตเตอร์ (Marcel Schrotter) ได้สร้างสถิติรอบใหม่ในรอบการฝึกซ้อมในเช้าวันเสาร์ที่ผ่านมาหลังจากการบันทึกการแข่งขันในกาตาร์
นอกจากนี้ นักบิดญี่ปุ่นอย่าง นากาชิม่า สามารถทำสถิติระหว่างการแข่งขันในวันอาทิตย์ที่ผ่านมาได้เช่นกัน ทำให้เขาเป็นผู้นำอันดับต้น ๆ และขึ้นเป็นผู้นำที่จะคว้ารางวัล Triumph Triple Trophy #PoweredByTriumph ไปได้ ในขณะที่การแข่งขันในรอบที่สองติดต่อกัน พบว่ามีนักบิดสองคนที่จัดอยู่ในอันดับความเร็วลำดับต้น ๆ แสดงศักยภาพที่ใกล้เคียงกันของเครื่องยนต์และความดุเดือดของการแข่งขัน
มร.สตีฟ ซาร์เจนท์ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายผลิตภัณฑ์ ไทรอัมพ์ มอเตอร์ไซเคิลส์ กล่าวว่า “ลูก้าทำผลงานการแข่งขันในสนาม Jerez ได้อย่างเหนือชั้นเพื่อคว้าชัยชนะที่คุ้มค่า โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากที่ได้เป็นผู้นำในสนามกาตาร์ที่จบลงไปอย่างน่าผิดหวัง นอกจากนี้ยังเป็นเรื่องดีที่ได้เห็นเท็ตซูตะถือกำเนิดขึ้นในฤดูกาลนี้ จากที่เขาสามารถผ่านสนามนี้ได้อีกครั้ง แสดงให้เห็นว่าการแข่งขันใน Moto2 ยังคงดำเนินต่อไปอย่างน่าตื่นเต้น ผมรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่จะได้เห็นการบันทึกสถิติใหม่ โดยเฉพาะหลังจากการพัฒนาเครื่องยนต์ไทรอัมพ์ Moto2 สามสูบขนาด 765 ซีซี ในช่วงฤดูหนาว ด้วยการทำลายสถิติต่อรอบใหม่เกือบทุกสนามในการแข่งขัน Moto2 ของฤดูกาลที่ผ่านมา ตอนนี้เรากำลังแข่งขันกับสถิติของตัวเอง ด้วยการทำงานอย่างหนักเพื่อให้นักบิดคุ้นเคยกับสไตล์การขับขี่ด้วยเครื่องยนต์ไทรอัมพ์มากยิ่งขึ้น”
ทั้งนี้เครื่องยนต์ไทรอัมพ์ Moto2 แบบ 3 สูบ ขนาด 765 ซีซี พัฒนามาจากเครื่องยนต์ที่ติดตั้งอยู่ในไทรอัมพ์ สตรีท ทริปเปิล อาร์เอส (Street Triple RS) โดยสามารถแสดงให้เห็นถึงพละกำลังมากกว่า 140 แรงม้า รวมทั้งเสียงของเครื่องยนต์อันทรงพลังได้อย่างน่าทึ่ง สำหรับการแข่งขันชิงแชมป์ Moto2 ครั้งถัดไปจะกลับไปแข่งขันที่สนาม Jerez ในวันที่ 26 กรกฎาคมที่จะถึงนี้ #PoweredByTriumph #TriumphOfficial
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ www.triumphmotorcycles.co.th ตลอดจนติดตามข่าวสารและกิจกรรมได้ที่ www.facebook.com/TriumphMotorcyclesThailand
เกี่ยวกับ ไทรอัมพ์ มอเตอร์ไซเคิลส์:
ไทรอัมพ์ มอเตอร์ไซเคิลส์ เป็นผู้ผลิตรถจักรยานยนต์รายใหญ่ที่สุดของประเทศอังกฤษ ถือกำเนิดขึ้นในปี ค.ศ. 1902 มีพนักงานทั่วโลกราว 2,000 คน มีบริษัทสาขาทั้งในอังกฤษ สหรัฐอเมริกา ฝรั่งเศส เยอรมนี สเปน อิตาลี ญี่ปุ่น สวีเดน กลุ่มประเทศเบเนลักซ์ บราซิล อินเดีย จีนและไทย ซึ่งทางบริษัทเข้ามาทำการตลาดและจัดจำหน่ายในนาม บริษัท ไทรอัมพ์ มอเตอร์ไซเคิลส์ (ไทยแลนด์) จำกัด ตั้งแต่ปี 2015 โดยมอเตอร์ไซค์ของ ไทรอัมพ์ มีตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการกว่า 650 รายทั่วโลก บริษัทฯ มีฐานการผลิตจักรยานยนต์เต็มรูปแบบ 2 แห่งที่ฮิงค์ลีย์ เขตเลสเตอร์ไชร์ อังกฤษและที่ประเทศไทย รวมทั้งมีโรงงานประกอบรถจักรยานยนต์แบบ CKD (Completely Knocked Down) ในบราซิลและอินเดีย ปัจจุบันมีการผลิตรถจักรยานยนต์ราว 65,000 คันต่อปี โดยหัวใจหลักในการทำงานของ ไทรอัมพ์ คือ การมุ่งมั่นสร้างสรรค์รถจักรยานยนต์ที่มีเอกลักษณ์โดดเด่น ผสมผสานงานออกแบบที่สวย คลาสสิก ร่วมสมัย เข้ากับความแม่นยำในการควบคุมรถ และสมรรถนะอันเป็นเลิศ เพื่อประสบการณ์การขับขี่ที่สมบูรณ์แบบ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น