เอไอเอส นำ 5G และนวัตกรรม IoT ร่วมยกระดับ “สมาร์ท สมุย” เสริมความปลอดภัยให้นักท่องเที่ยวและประชาชน สร้างสมาร์ท ซิตี้ ปลุกท่องเที่ยวไทยคึกคัก - ข่าวเด่นวันนี้ | Today Highlight News

Breaking

Home Top Ad

Post Top Ad

วันอาทิตย์ที่ 2 สิงหาคม พ.ศ. 2563

เอไอเอส นำ 5G และนวัตกรรม IoT ร่วมยกระดับ “สมาร์ท สมุย” เสริมความปลอดภัยให้นักท่องเที่ยวและประชาชน สร้างสมาร์ท ซิตี้ ปลุกท่องเที่ยวไทยคึกคัก

เอไอเอส ตอกย้ำผู้นำเครือข่าย 5G ชั้นนำระดับภูมิภาคและอันดับ 1 ในไทยที่มีคลื่นมากที่สุด และครอบคลุม 77 จังหวัดทั่วประเทศ และเป็นรายแรกและรายเดียวในไทยที่มีเครือข่าย IoT ทั้ง eMTC และ NB-IoT ครอบคลุมทั้ง 77 จังหวัดทั่วไทย ผนึกความร่วมมือกับ เทศบาลนครเกาะสมุย และ บริษัท ไลท์ติ้ง แอนด์ อีควิปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ L&E พัฒนาโซลูชั่นส์ Smart Lighting บนเครือข่าย NB-IoT นวัตกรรมโคมไฟส่องสว่างอัจฉริยะ เพิ่มประสิทธิภาพด้านความปลอดภัยเมือง นำร่องใช้จริงแล้วในโครงการ “ปรับปรุงประสิทธิภาพการรักษาความปลอดภัย การลดและป้องกันอุบัติภัยทางถนน และอนุรักษ์พลังงาน เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวเกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี” โดยดำเนินการติดตั้งแล้วเสร็จ จำนวน 4,773 โคม ตามท้องถนนทั่วพื้นที่บนเกาะสมุย ยกระดับเกาะสมุยสู่การเป็นเมืองอัจฉริยะ “Samui Smart City” สร้างความมั่นใจและความปลอดภัยให้กับนักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวต่างชาติที่เดินทางมายังเกาะสมุย ตลอดจนเสริมแกร่งภาคการท่องเที่ยว เพื่อการขับเคลื่อนเศรษฐกิจการท่องเที่ยวบนเกาะสมุยให้กลับมาคึกคักอีกครั้ง

พร้อมเดินหน้าทดลองทดสอบเทคโนโลยี Smart Pole บนเครือข่าย 5G โดยเสา Smart Pole ประกอบด้วย Smart Lighting ที่สามารถควบคุมการเปิด ปิด หรือหรี่แสง ได้อัตโนมัติ สอดคล้องกับภูมิอากาศ และกล้องวงจรปิด CCTV เชื่อมต่อสัญญาณภาพบนเครือข่าย 5G ไปยังส่วนกลาง ซึ่งจะช่วยยกระดับความปลอดภัยเมืองให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
เอไอเอส นำ 5G และนวัตกรรม IoT ร่วมยกระดับ “สมาร์ท สมุย” เสริมความปลอดภัยให้นักท่องเที่ยวและประชาชน สร้างสมาร์ท ซิตี้ ปลุกท่องเที่ยวไทยคึกคัก

นางสาวอัศนีย์ วิภาตเวทย์ หัวหน้างานผลิตภัณฑ์ลูกค้าองค์กรและบริการระหว่างประเทศ เอไอเอส กล่าวว่า “เมืองอัจฉริยะ หรือ สมาร์ท ซิตี้ คือเป้าหมายของการพัฒนาเมืองที่ทุกพื้นที่ในประเทศไทยจะก้าวไป เพื่อลดการใช้ทรัพยากรและยกระดับคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ของพลเมืองให้ดียิ่งขึ้น โดยปัจจัยหลักที่ขับเคลื่อนไปสู่เป้าหมายนั้นคือการบูรณาการนวัตกรรมเครือข่ายและเทคโนโลยีดิจิทัลเข้ามาเสริมประสิทธิภาพการบริหารจัดการเมือง ในโอกาสนี้ เอไอเอส ในฐานะผู้นำเครือข่าย 5G และนวัตกรรมเครือข่าย IoT ที่ครอบคลุมแล้วทั้ง 77 จังหวัดทั่วประเทศ มีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้มีส่วนร่วมขับเคลื่อนประเทศไทยไปสู่เป้าหมายการเป็นเมืองอัจฉริยะ ภายใต้การทำงานร่วมกับเทศบาลนครเกาะสมุยและบริษัท L&E พัฒนาโซลูชั่นส์ Smart Lighting บนเครือข่าย NB-IoT ถูกนำไปติดตั้งเพื่อใช้งานจริงแล้วทั่วพื้นที่เกาะสมุย ซึ่งจะช่วยเพิ่มความมั่นใจด้านความปลอดภัยให้กับนักท่องเที่ยวและประชาชนในท้องที่ ยกระดับเกาะ สมุยสู่การเป็นเมืองอัจฉริยะ และเป็นการนำเครือข่าย NB-IoTมาเสริมประสิทธิภาพด้านโครงสร้างพื้นฐานของประเทศอย่างเป็นรูปธรรม สอดคล้องกับเป้าหมายของประเทศไทยที่จะก้าวไปสู่การเป็นเมืองอัจฉริยะในทุกพื้นที่ทั่วประเทศในอนาคต”
สำหรับ Smart Lighting เป็นนวัตกรรมโคมไฟส่องสว่างอัจฉริยะ ขับเคลื่อนการทำงานและเชื่อมต่อข้อมูลบนเทคโนโลยีเครือข่าย NB-IoT ที่สามารถทำงานได้อย่างไร้ข้อจำกัดด้านระยะทางและสิ่งกีดขวาง ทำให้ระบบมีความมั่นคง จึงช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการเชื่อมต่อกับ Sensor ที่ฝังอยู่ในอุปกรณ์แสงสว่าง L&E ที่ติดตั้งทั่วพื้นที่เกาะสมุย ให้สามารถควบคุมการเปิด ปิด หรือหรี่แสง ได้อัตโนมัติ สอดคล้องกับสภาพภูมิอากาศ และยังสามารถตรวจสอบการส่องสว่างของโคมไฟในแต่ละพื้นที่ได้ผ่านห้องควบคุม Samui Smart City Command Center เสริมประสิทธิภาพการบริหารจัดการโครงสร้างพื้นฐานด้านแสงสว่างของเทศบาลนครเกาะสมุย ให้สามารถใช้งานทรัพยากรได้อย่างมีประสิทธิภาพ ตลอดจนสามารถดูแลความปลอดภัยของประชาชนและนักท่องเที่ยวได้อย่างดีเยี่ยม ยกระดับเกาะสมุยสู่การเป็น Samui Smart City อย่างเต็มรูปแบบ และถือเป็นการนำเครือข่าย NB-IoT มาใช้งานอย่างเป็นรูปธรรมในระดับภูมิภาค เพื่อเสริมประสิทธิภาพให้กับโครงสร้างพื้นฐานของภาครัฐและช่วยสร้างความแตกต่างและเพิ่มมูลค่าให้กับสินค้าและบริการของภาคเอกชน
เกี่ยวกับ AIS
บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ AIS ผู้นำด้าน Digital Life Service Provider อันดับ 1 ที่มีคลื่นความถี่ในการให้บริการมากที่สุดรวม 1450 MHz และมีจำนวนผู้ใช้งานมากที่สุดกว่า 41.1 ล้านเลขหมาย (ณ มีนาคม 2563) พร้อมขับเคลื่อนประเทศไทยด้วยเทคโนโลยี 5G ที่ปัจจุบันครอบคลุม 77 จังหวัดแล้วเป็นรายแรกผ่าน 3 สายธุรกิจ ได้แก่ โทรศัพท์เคลื่อนที่, อินเทอร์เน็ตบ้านความเร็วสูงภายใต้แบรนด์ AIS Fibre และบริการดิจิทัล 5 ด้าน ได้แก่ วิดีโอ คลาวด์ ดิจิทัลเพย์เมนท์ อินเทอร์เน็ตในทุกสิ่ง (IoT) และบริการร่วมกับพาร์ทเนอร์ ตลอดจนขยายสู่กลุ่มธุรกิจใหม่ อาทิ AIS eSports, AIS Insurance ทั้งหมดนี้ เพื่อสนับสนุนความแข็งแกร่งด้านโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลของประเทศ ขยายขีดความสามารถของภาคอุตสาหกรรม และยกระดับคุณภาพชีวิตของคนไทยไปพร้อมกัน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Post Bottom Ad