“พาณิชย์”ประกาศขึ้นทะเบียน 2 สินค้า GI ใหม่ “ลูกหยียะรัง-ข้าวหอมมะลิพะเยา” - ข่าวเด่นวันนี้ | Today Highlight News

Breaking

Home Top Ad

Post Top Ad

วันจันทร์ที่ 7 กันยายน พ.ศ. 2563

“พาณิชย์”ประกาศขึ้นทะเบียน 2 สินค้า GI ใหม่ “ลูกหยียะรัง-ข้าวหอมมะลิพะเยา”

img

กรมทรัพย์สินทางปัญญาประกาศขึ้นทะเบียนสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (GI) รายการใหม่อีก 2 สินค้า ““ลูกหยียะรัง” และ “ข้าวหอมมะลิพะเยา” มั่นใจช่วยเพิ่มรายได้ให้กับชุมชนและช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานราก พร้อมเดินหน้าเพิ่มช่องทางการตลาด เตรียมจัดกิจกรรมตลาด GI ที่ศูนย์การค้าเอ็ม บี เค เซ็นเตอร์
         
นายวีรศักดิ์ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า กรมทรัพย์สินทางปัญญา ได้ประกาศขึ้นทะเบียนสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (GI) เพิ่มอีก 2 รายการ คือ ลูกหยียะรัง ของจังหวัดปัตตานี และข้าวหอมมะลิพะเยา ของจังหวัดพะเยา โดยมั่นใจว่าการขึ้นทะเบียน GI จะช่วยเพิ่มมูลค่าให้กับสินค้าที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่สามารถผลิตได้ในท้องถิ่น ช่วยเพิ่มรายได้ให้กับผู้ผลิต และช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจในระดับฐานราก ทำให้ปัจจุบันมีการประกาศขึ้นทะเบียนสินค้า GI ไทยไปแล้วทั้งสิ้น 130 รายการ
         
สำหรับลูกหยียะรัง ได้มีการขึ้นทะเบียน GI ทั้งแบบผลและแบบแปรรูป โดยลูกหยียะรัง มี 2 สายพันธุ์ ได้แก่ ลูกหยีพันธุ์ทวยหรือทวยงาช้าง และพันธุ์หยีธรรมดาหรือหยีบ้าน มีผลใหญ่ ผิวเปลือกบางสีดำ เนื้อในหนายุ่ยสีแดงหรือแสด รสชาติเปรี้ยวอมหวานหรือเปรี้ยวอมฝาด ปลูกในเขตพื้นที่จังหวัดปัตตานี มากกว่า 100 ปี ประกอบกับภูมิปัญญาชาวบ้านในการเก็บรักษาผลลูกหยี และแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆ อาทิ ลูกหยีทรงเครื่อง ลูกหยีฉาบ ลูกหยีกวน ที่มีรสชาติเป็นเอกลักษณ์ อันเป็นสูตรดั้งเดิม ที่คนในพื้นที่ถ่ายทอดสืบต่อกันมา

ส่วนข้าวหอมมะลิพะเยา ขึ้นทะเบียน GI ครอบคลุมทั้งข้าวเปลือก ข้าวกล้อง และข้าวขาว ที่แปรรูปมาจากข้าวหอมมะลิพันธุ์ขาวดอกมะลิ 105 และ กข 15 เมล็ดข้าวสารมีรูปร่างเรียว ยาว เมล็ดใส เมื่อหุงแล้วนุ่ม มีกลิ่นหอมคล้ายใบเตย แม้ทิ้งไว้นานก็ยังคงกลิ่นหอม ปลูกในพื้นที่ลุ่มล้อมรอบด้วยเทือกเขาหรือแอ่งที่ทับถมด้วยตะกอนแม่น้ำทำให้ดินมีแร่ธาตุอุดมสมบูรณ์ โดยจังหวัดพะเยานับเป็นหนึ่งในแหล่งเพาะปลูกข้าวหอมมะลิที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งของไทยมาอย่างช้านาน

ทั้งนี้ กระทรวงพาณิชย์ โดยกรมทรัพย์สินทางปัญญาจะเดินหน้าผลักดันให้มีการขึ้นทะเบียน GI และส่งเสริมความรู้เรื่องการใช้ประโยชน์จากตราสัญลักษณ์ GI ในเชิงพาณิชย์ การคุ้มครองและควบคุมคุณภาพ และจะช่วยสนับสนุนช่องทางการตลาดให้แก่ผู้ประกอบการที่ผลิตสินค้า GI ต่อไป โดยล่าสุด มีกำหนดจัดกิจกรรมตลาด GI ในวันที่ 15-18 ก.ย.2563 ณ ศูนย์การค้าเอ็ม บี เค เซ็นเตอร์ จึงขอเชิญชวนให้ร่วมสนับสนุนสินค้า GI ซึ่งเป็นสินค้าคุณภาพจากชุมชนท้องถิ่น โดยนอกจากจะได้เป็นส่วนหนึ่งในการช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจท้องถิ่นแล้วยังจะได้รับสินค้าและผลิตภัณฑ์ที่ดีมีคุณภาพตามมาตรฐาน GI กลับไปด้วย

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Post Bottom Ad