บลจ.ทิสโก้เพิ่มทุนกอง “ทิสโก้ โกบอล ดิจิตอล เฮลธ์” รับความต้องการลูกค้า - ข่าวเด่นวันนี้ | Today Highlight News

Breaking

Home Top Ad

Post Top Ad

วันอาทิตย์ที่ 13 กันยายน พ.ศ. 2563

บลจ.ทิสโก้เพิ่มทุนกอง “ทิสโก้ โกบอล ดิจิตอล เฮลธ์” รับความต้องการลูกค้า


บลจ.ทิสโก้เดินหน้าเพิ่มทุนกองทุนเปิด ทิสโก้ โกบอล ดิจิตอล เฮลธ์ อิควิตี้ เป็น 3,000 ล้านบาท รับความต้องการลูกค้าที่สนใจเข้ามาลงทุนต่อเนื่อง จากกระแสเมกะเทรนด์ และผลประกอบการบริษัทที่ลงทุนเติบโตอย่างโดดเด่น แนะลูกค้าลงทุนระยะยาวเพื่อเพิมโอกาสรับผลตอบแทนที่ดี

นายสาห์รัช ชัฏสุวรรณ ผู้อำนวยการสายการตลาดและที่ปรึกษาการลงทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ทิสโก้ จำกัด (Mr. Saharat Chudsuwan, Head of Marketing and Wealth Advisory, Mutual & Private Fund Business, TISCO Asset Management Co., Ltd.) กล่าวว่า แม้ว่าภาพรวมการลงทุนในช่วง 8 เดือนแรกของปี 2563 สินทรัพย์การลงทุนทุกชนิดจะเกิดความผันผวน และตลาดหุ้นทั่วโลกปรับลงแรง แต่จะเห็นได้ว่าผลประกอบการหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี รวมถึงหุ้นกลุ่มเฮลธ์แคร์ปรับตัวเพิ่มขึ้นสวนทางสินทรัพย์อื่นอย่างเห็นได้ชัด ส่วนหนึ่งเพราะได้รับผลบวกระยะสั้นจากการแพร่ระบาดของ COVID -19 ที่ผู้คนใช้เทคโนโลยีมาช่วยอำนวยความสะดวกในช่วงรักษาระยะห่างระหว่างสังคม รวมถึงกระแสรักสุขภาพที่มาแรงในช่วงนี้ และในระยะยาวหุ้นทั้งสองกลุ่มจัดว่าเป็น 'หุ้นเมกะเทรนด์’ ที่รายได้และกำไรมีโอกาสเติบโตได้ดีตามความต้องการของผู้บริโภคที่เพิ่มขึ้น
จากปัจจัยบวกดังกล่าวส่งผลบวกต่อกองทุนเปิด ทิสโก้ โกลบอล ดิจิตอล เฮลธ์ อิควิตี้ (TGHDIGI) ความเสี่ยงระดับ 7 (เสี่ยงสูง) เนื่องจากกองทุนดังกล่าวเป็นกองทุนที่เน้นลงทุนในบริษัทที่ใช้นวัตกรรมและเทคโนโลยีในการนำเสนอผลิตภัณฑ์หรือบริการทางการแพทย์ (Digital Health) ทั่วโลก ซึ่งถือเป็นการผนวกการลงทุนในหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีและเฮลธ์แคร์ไว้ด้วยกันในกองทุนเดียว โดยที่ผ่านมาได้รับความสนใจจากนักลงทุนอย่างต่อเนื่อง ดังนั้น เพื่อตอบรับความต้องการ และเพิ่มโอกาสรับผลตอบแทนที่ดีให้กับลูกค้า บลจ.ทิสโก้จึงได้ขยายมูลค่าโครงการกองทุน TGHDIGI จากเดิม 2,000 ล้านบาท เป็น 3,000 ล้านบาท โดยนักลงทุนสามารถซื้อหน่วยลงทุน กองทุน TGHDIGI ได้ในทุกวันทำการ มูลค่าลงทุนขั้นต่ำ 1,000 บาท
“ในช่วงที่ผ่านมาผลประกอบการบริษัทในหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี และหุ้นกลุ่มเฮลธ์แคร์ปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างโดดเด่น เพราะได้รับปัจจัยบวกระยะสั้นในช่วงไวรัส COVID -19 แพร่ระบาด อย่างไรก็ตาม ในระยะยาวหุ้นทั้งสองกลุ่มมีโอกาสเติบโตอีกมาก เพราะจัดว่าเป็นหุ้นกลุ่มเมกะเทรนด์ดาวรุ่งที่คาดว่าได้รับประโยชน์จากการเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้างของวิถีชีวิต เศรษฐกิจ และสังคมที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ดังนั้น การลงทุนในระยะยาวในหุ้นกลุ่มนี้จะเพิ่มโอกาสรับผลตอบแทนที่ดีกว่าการลงทุนระยะสั้น อีกทั้งการลงทุนในระยะยาวยังช่วยลดความผันผวนของพอร์ตการลงทุนได้ ส่วนนักลงทุนที่ต้องการซื้อและขายทำกำไรระยะสั้นในหุ้นกลุ่มดังกล่าวก็สามารถทำได้ แต่แนะนำให้กันส่วนหนึ่งไว้สำหรับลงทุนระยะยาวเพื่อไม่ให้เสียโอกาสในการลงทุน” นายสาห์รัชกล่าว  
สำหรับตัวอย่างบริษัทที่อยู่ในกลุ่มดิจิตอลเฮลธ์ ที่มีผลการดำเนินงานที่โดดเด่น เช่น บริษัท Teladoc ผู้พัฒนาแพลทฟอร์มให้คนไข้สามารถพบแพทย์ผ่านระบบออนไลน์ และรับใบสั่งยาจากแพทย์เพื่อนำไปซื้อยาต่อได้ทันที พบว่าในช่วงที่มี COVID - 19 จำนวนผู้ใช้บริการปรึกษาแพทย์อยู่ที่ 2.8 ล้านคน เพิ่มขึ้นถึง 203% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน (YOY) ก่อนขณะที่รายได้ไตรมาสที่ 2/2563 ทำได้ 241 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 85.1% YOY (ข้อมูลจาก https://teladochealth.com/.Bloomberg วันที่ 1 ก.ค. 63)  
อีกบริษัทคือ บริษัท Dexcom ผู้พัฒนาผลิต และจัดจำหน่ายระบบตรวจสอบน้ำตาลในเลือดสำหรับผู้ป่วยโรคเบาหวานแบบไม่ต้องเจาะเลือด ในไตรมาสที่ 1/2563 มีรายได้ 451 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เติบโต 34% YOY และกำไรต่อหุ้นเติบโตถึง 500% YOY  ซึ่งในปี 2564 คาดว่าจะออกเครื่องรุ่นใหม่ที่มีขนาดเล็กและมีฟีเจอร์มากขึ้น (ข้อมูลจาก https://investors.dexcom.com/.Bloomberg วันที่ 28 ก.ค. 63)  
กองทุน TGHDIGI ลงทุนกระจุกตัวในหมวดอุตสาหกรรม จึงมีความเสี่ยงที่ผู้ลงทุนอาจสูญเสียเงินลงทุนจำนวนมาก และอาจมีความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนจากการลงทุนในต่างประเทศ จึงมีนโยบายป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนตามดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุนรวม ซึ่งปัจจุบันผู้จัดการกองทุนดำเนินการป้องกันความเสี่ยงค่าเงินประมาณ 90% ผู้สนใจลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน และสามารถติดต่อสอบถามรายละเอียด หรือขอรับหนังสือชี้ชวนที่ บลจ.ทิสโก้, เว็บไซต์ www.tiscoasset.com, ธนาคารทิสโก้ทุกสาขา และตัวแทนสนับสนุนการขายที่ระบุไว้ในหนังสือชี้ชวน หรือ TISCO Contact Center โทร. 02-633-6000 กด 4 และ 02-080-6000 กด 4

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Post Bottom Ad