กสอ. ช่วยผู้ประกอบการเกษตร ขายผ่าน ไฮเปอร์มาร์เก็ตชั้นนำ คาดมูลค่าสินค้าเกษตรอุตฯ สิ้นปี 63 โตแตะ 1 แสนล้านบาท - ข่าวเด่นวันนี้ | Today Highlight News

Breaking

Home Top Ad

Post Top Ad

วันจันทร์ที่ 12 ตุลาคม พ.ศ. 2563

กสอ. ช่วยผู้ประกอบการเกษตร ขายผ่าน ไฮเปอร์มาร์เก็ตชั้นนำ คาดมูลค่าสินค้าเกษตรอุตฯ สิ้นปี 63 โตแตะ 1 แสนล้านบาท


อุตสาหกรรมแปรรูปกับผู้ประกอบการห้างสรรพสินค้าไฮเปอร์มาร์เก็ต เพื่อขยายตลาด เพิ่มช่องทางการจัดจำหน่าย พร้อมจัดโครงการส่งเสริมผู้ประกอบการให้ได้รับมาตรฐานสากล ตั้งเป้า สิ้นปี 2563 ยกระดับมูลค่าสินค้าเกษตรแปรรูปกว่า 1 แสนล้านบาท และเตรียมขยายผลไปยังผู้ประกอบการทั่วประเทศในปี 2564

นายใบน้อย สุวรรณชาตรี รองอธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (กสอ.) มุ่งมั่นสนับสนุนผู้ประกอบการเกษตรอุตสาหกรรมแปรรูปให้ได้รับมาตรฐานสากล โดยมอบรางวัลให้กับผู้ประกอบการที่ได้รับมาตรฐานสากล จำนวน 10 กิจการ พร้อมจัดกิจกรรมจับคู่ธุรกิจ (Business Matching) ระหว่างผู้ประกอบการเกษตรจำนวน 30 ราย ร่วมกับ บริษัท เอก-ชัย ดิสทริบิวชั่นซิสเทม จำกัด หรือ เทสโก้โลตัส บริษัท เซ็นทรัล ฟู้ด รีเทล จำกัด หรือ ท็อปส์ และ เครือเจริญโภคภัณฑ์ เพื่อให้ผู้ประกอบการเกษตรอุตสาหกรรมได้มีช่องทางการจัดจำหน่ายที่เพิ่มมากขึ้น โดยผู้แทนจากห้างสรรพสินค้าจะพิจารณาจากคุณภาพสินค้า กระบวนการผลิตและการได้รับการรับรองมาตรฐานสากล เพื่อการันตีคุณภาพผลิตภัณฑ์ พร้อมหารือโดยตรงกับผู้ประกอบการที่เข้าร่วมโครงการเพื่อบรรลุข้อตกลงร่วมกัน สร้างรายได้และขยายฐานลูกค้า

กสอ. ช่วยผู้ประกอบการเกษตร ขายผ่าน ไฮเปอร์มาร์เก็ตชั้นนำ คาดมูลค่าสินค้าเกษตรอุตฯ สิ้นปี 63 โตแตะ 1 แสนล้านบาท

ที่ผ่านมา กรมฯ ได้จัดกิจกรรมการส่งเสริมและพัฒนาเพื่อเตรียมความพร้อมเข้าสู่ระบบมาตรฐานสากล ทั้งอุตสาหกรรมเกษตรแปรรูปและอุตสาหกรรมสนับสนุนที่เกี่ยวข้อง พร้อมนำระบบมาตรฐานสากลเข้าไปประยุกต์ใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อการดำเนินธุรกิจขยายโอกาสทางการตลาดและสร้างความสามารถในการแข่งขันด้านธุรกิจทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยได้ดำเนินการถ่ายทอดองค์ความรู้ ให้คำปรึกษาแนะนำ ประเมินความพร้อมเพื่อตรวจประเมินขอการรับรองมาตรฐานแก่สถานประกอบการที่เข้าร่วมโครงการ เพื่อให้ผู้ประกอบการที่เข้าร่วมโครงการ มีความพร้อมสำหรับจัดทำระบบระบบมาตรฐานสากล และเป็นที่ยอมรับของผู้บริโภค

นายใบน้อย กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับการดำเนินงานในปีนี้ ได้เตรียมความพร้อมผู้ประกอบการให้ได้รับมาตรฐานระบบต่าง ๆ อาทิ มาตรฐานการผลิตผลิตภัณฑ์ หรือ GMP มาตรฐานควบคุมดูแลความปลอดภัยในทุกกระบวนการผลิตอาหาร หรือ HACCP มาตรฐานความปลอดภัยทางอาหารของสมาคมผู้ประกอบธุรกิจค้าปลีกแห่งสหราชอาณาจักร หรือ BRC มาตรฐานองค์กรธุรกิจทั่วโลกต่างให้ความสำคัญ หรือ ISO9001 มาตรฐานระบบการจัดการสิ่งแวดล้อม หรือ ISO14001 มาตรฐานระบบการจัดการความปลอดภัยของอาหาร หรือ ISO22000 และ มาตรฐานสากลเพื่อการจัดการอาชีวอนามัยและความปลอดภัย หรือ ISO45001 ซึ่งผู้ประกอบการทั้งหมดได้รับการตรวจประเมินจากหน่วยงานให้การรับรอง (Third Party Audit)

อย่างไรก็ดี ในปี 2564 กรมฯ ได้ตั้งเป้าขยายการส่งเสริมผู้ประกอบการเกษตรอุตสาหกรรมเพื่อให้ได้รับมาตรฐานสากลในทุกภูมิภาค โดยมีศูนย์ส่งเสริมอุตสาหกรรมภาค ทั้ง 11 ศูนย์ ขับเคลื่อนการดำเนินงานให้เป็นรูปธรรม ตั้งเป้าหมายส่งเสริมผู้ประกอบการ 100 กิจการ ทั้งนี้ เมื่อได้รับมาตรฐานสากลแล้ว จะช่วยให้การจำหน่ายสินค้าเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งยังมีผลต่อความเชื่อมั่นและการตัดสินใจซื้อสินค้า
ของผู้บริโภค

ทั้งนี้ ภาพรวมการผลิตสินค้าเกษตรในกลุ่มสินค้าแปรรูป ตั้งแต่ช่วงต้นปี จนถึงปัจจุบัน (สิงหาคม 2563 ;ธนาคารแห่งประเทศไทย) มีมูลค่าตลาดอยู่ที่ 83,009.70 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 15.5 คิดเป็นมูลค่ากว่า 11,139.16 ล้านบาท จากเดือนมกราคม 2563 และมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องส่วนหนึ่งเป็นผลจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ทำให้ความต้องการผลิตภัณฑ์เกษตรแปรรูป ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผลิตภัณฑ์อาหารเพิ่มมากขึ้น ถือเป็นอีกหนึ่งโอกาสทองสำหรับผู้ประกอบการ และด้วยการดำเนินโครงการส่งเสริมและพัฒนาเพื่อเตรียมความพร้อมเข้าสู่ระบบมาตรฐานสากล ให้สามารถผลิตผลิตภัณฑ์คุณภาพสอดรับความต้องการของตลาดในทั่วทุกมุมโลก ซึ่งคาดว่าสิ้นปี 2563 มูลค่าสินค้าเกษตรแปรรูปจะเพิ่มขึ้นถึง 1 แสนล้านบาท นายใบน้อย กล่าวทิ้งท้าย

สำหรับผู้สนใจ สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กลุ่มงานประชาสัมพันธ์ สำนักงานเลขานุการกรม กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม โทรศัพท์ 0 2202 4414 – 18 หรือ เข้าไปที่ www.dip.go.th

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Post Bottom Ad