ตลาดยางรถจักรยานยนต์ระอุ !! “บริดจสโตน” กลับมาเขย่าบัลลังก์อีกครั้ง พร้อมสร้างปรากฎการณ์ใหม่ - ข่าวเด่นวันนี้ | Today Highlight News

Breaking

Home Top Ad

Post Top Ad

วันพุธที่ 21 ตุลาคม พ.ศ. 2563

ตลาดยางรถจักรยานยนต์ระอุ !! “บริดจสโตน” กลับมาเขย่าบัลลังก์อีกครั้ง พร้อมสร้างปรากฎการณ์ใหม่

 


ตลาดยางรถจักรยานยนต์ระอุ !! “บริดจสโตน” กลับมาเขย่าบัลลังก์อีกครั้ง พร้อมสร้างปรากฎการณ์ใหม่


“บริดจสโตน” ยางรถจักรยานยนต์มาตรฐานระดับโลก ประกาศกลับมาทำตลาดในเมืองไทยอย่างเต็มตัว นำเข้าและจัดจำหน่ายอย่างเป็นทางการ โดย บริษัท เพซแม็กซ์ มอเตอร์สปอร์ต จำกัด ชูจุดแข็งด้วยเทคโนโลยีจากสนามแข่งระดับเวิลด์คลาส ส่งมอบประสบการณ์การขับขี่ผ่าน “ยางรถจักรยานยนต์ระดับพรีเมี่ยม” ในราคาที่จับต้องได้ ตอบโจทย์ผู้บริโภคทุกเซ็กเมนต์ ชี้มั่นใจศักยภาพอุตสากรรมยางรถจักรยานยนต์ไปได้สวยแม้อยู่ในช่วงโควิด 19 พร้อมให้บริการครอบคลุมทุกภูมิภาคทั่วประเทศด้วยตัวแทนจำหน่ายกว่า 40 แห่ง

 


(กรุงเทพมหานคร, 20 ตุลาคม 2020) บริษัท เพซแม็กซ์ มอเตอร์สปอร์ต จำกัด แถลงข่าวเปิดตัวในฐานะผู้นำเข้าและจัดจำหน่าย “ยางรถจักรยานยนต์บริดจสโตน” (Bridgestone) อย่างเป็นทางการในประเทศไทย โดยนับเป็นการดึงยางระดับโลกแบรนด์นี้ กลับมาเดินหน้าทำการตลาดในเมืองไทยอย่างเต็มตัวทุกเซ็กต์เมนต์ โดยมีแขกผู้มีเกียรติจากวงการรถจักรยานยนต์และมอเตอร์สปอร์ต รวมทั้งสื่อมวลชนตบเท้าเข้าร่วมงานกันอย่างคับคั่ง

 

นายตนัยศิริ ชาญวิทยารมณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เพซแม็กซ์ มอเตอร์สปอร์ต จำกัด กล่าวว่า บริดจสโตน เป็นบริษัทยางชั้นนำของโลกสัญชาติญี่ปุ่น ครองใจผู้ใช้ทั่วโลกด้วยมาตรฐานการผลิตระดับสูงสุด รวมถึงการใช้เทคโนโลยีที่ดีที่สุดและทีมวิจัยที่แข็งแกร่งที่สุดในตลาด ครองแชมป์ยอดขายอันดับ1ของโลกหลายสมัยในอดีต และเป็นอันดับ1ของโลกตั้งแต่ปี 2008-2018

 


บริดจโตนเป็นยางที่ได้รับการยอมรับในวงการมอเตอร์สปอร์ต ด้วยประสบการณ์การพัฒนายางสำหรับการแข่งขันระดับโลกอย่างMotoGP ตั้งแต่ปี 2001-2015 และเป็นยางที่นักแข่งระดับแชมป์โลกหลายคนเลือกใช้ ไม่ว่าจะเป็น “เดอะด็อกเตอร์” วาเลนติโน รอสซี่ แชมป์โลก 9 สมัยชาวอิตาเลียน หรือนักบิดระดับตำนานอย่าง เคซี่ สโตเนอร์

 

นอกจากนี้ บริดจสโตน ยังให้ความสำคัญกับการแข่งขันเอ็นดูรานซ์ เวิลด์ แชมเปี้ยนชิพ (Endurance World Championship : EWC) ซึ่งเป็นเรซแบบมาราธอนที่แข่งขันที่ยาวนานกว่า 6-24 ชั่วโมง โดยให้การสนับสนุนทีมชั้นนำระดับโลกอย่าง เอฟ.ซี.ซี. ทีเอสอาร์ ฮอนด้า ฟรานซ์ (F.C.C TSR Honda France) ที่คว้าแชมป์ในศึก เลอมองส์ 24ชั่วโมง 2020 มาครองได้อย่างยิ่งใหญ่ รวมไปถึงทีมละดับโลกอย่าง ยาร์ท ยามาฮ่า (Yart Yamaha) ที่พึ่งจะครองแชมป์การแข่ง 16ชั่วโมงที่สนาม ESTORIL ที่เพิ่งจบไปหมาดๆ ในเรื่องการแข่งขันเอ็นดูรานซ์นับได้ว่าบริดจสโตนไม่เป็นรองใครด้วยดีกรีการคว้าแชมป์รายการระดับตำนานอย่าง Suzuka 8 ชั่วโมง 14 สมัยซ้อนจนถึงปัจจุบัน นับได้ว่าจุดแข็งของบริดจสโตนคือการพัฒนาที่ถอดแบบมาจากการแข่งขันโดยเฉพาะการแข่งประเภทเอ็นดูรานซ์ (Endurance)อย่างแท้จริง เพราะมีการพัฒนาทั้งในเรื่องสมรรถนะในการทำความเร็วควบคู่ไปกับความทนทานและอายุการใช้งาน ซึ่งนั่นก็คือสิ่งที่ผู้บริโภคต้องการเช่นกัน

 


“ปัจจุบันบริดจสโตนมียางจำหน่ายใน 7 เซ็กเมนต์ ได้แก่ สปอร์ต, แอดเวนเจอร์, ทัวริ่ง, ออฟโร้ด, ครุยเซอร์,  สกู๊ตเตอร์ และยางสำหรับแข่งขันในสนามแข่ง ซึ่งทางเพซแม็กซ์ ทยอยนำเข้ามาสู่ตลาดและได้รับการตอบรับที่ดีเกินคาดจากผู้ใช้ ทำให้ช่วงที่ผ่านมายางขาดสต๊อกไปอย่างรวดเร็วในหลายรุ่นด้วยกัน”


สำหรับสินค้าที่โดดเด่นที่นำเข้าสู่ตลาดในช่วงนี้ ได้แก่ ยาง Battlax Hypersport S22 ยางสปอร์ตที่ บริดจสโตนใช้เวลาถึง 3 ปีในการวิจัยก่อนจะออกสู่ตลาด ซึ่งโดยปกติแต่ละรุ่นจะใช้เวลาคิดค้น 2 ปี ซึ่งยางS22 ได้รับการจัดอันดับล่าสุดจากนิตยสารโมโตราดให้เป็นยางไฮเปอร์สปอร์ต (Hypersport) อันดับ 1 ในคลาสของปี 2019 โดดเด่นด้วยสมรรถนะการยึดเกาะระดับสูง ด้วยการคิดค้นลายยางที่ให้เกิดแรงผลักจากผิวสัมผัสได้ดีที่สุด และการใช้เทคโนโลยีชั้นสูงที่พัฒนาเนื้อยางถึงระดับโมเลกุล หรือ Nano Protech ซึ่งทำให้เนื้อยางใหม่มี “ซิลิกา ระดับนาโนโมเลกุล” ซึ่งสามารถกระจายตัวไปสู่ผิวสัมผัสได้มากขึ้นและเพิ่มประสิทธิภาพในการยึดเกาะได้ดีขึ้นในถนนเปียก โดยยางหลังเป็น 5 โซน 3 คอมพาว เป็นยางที่สมรรถนะครบทุกด้าน ทำความเร็วได้ดีทั้งถนนเปียกและแห้ง มีอายุการใช้งานยาวนาน ใช้งานในชีวิตประจำวันได้อย่างคุ้มค่า

 


นอกจากนี้ บริดจสโตนยังให้ความสำคัญกับยางสำหรับสกูตเตอร์ รุ่นBattlax SC ซึ่งเป็นรุ่นที่คนไทยรู้จักดี เป็นยางสกูตเตอร์ที่มียอดจำหน่ายสูงมาก ซึ่งทำให้ยางขาดตลาดไปอย่างรวดเร็ว ใช้งานได้ดีในชีวิตประจำวัน คุ้มค่ากับราคา ดีไซน์พัฒนามาจากรถไฮเปอร์สปอร์ต ลดเสียงรบกวนขณะขับขี่ มีร่องยางกว้าง เพื่อการระบายน้ำที่ดี และมีเส้นกลางช่วยเพิ่มความยืนหยุ่น ทำให้อายุการใช้งานนานขึ้น

 

นายตนัยศิริ กล่าวถึงแนวทางการตลาดของยางรถจักรยานยนต์บริดจสโตนในประเทศไทยว่า ด้วยสภาพเศรษฐกิจที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ต้องยอมรับว่ากระทบต่อกำลังการซื้อถดถอยไปจากเดิม บริดจสโตน มองเห็นเข้าใจปัญหาดังกล่าว จึงมีนโยบายในการตั้งราคาที่เป็นมิตร เพื่อให้ผู้บริโภคยังคงสามารถได้มีโอกาศได้ใช้สินค้าคุณภาพระดับสูงในราคาที่จับต้องได้ได้ง่ายขึ้น เพราะเรื่องยาง ถือเป็นหัวใจหลักในการขับขี่รถจักรยานยนต์

 


“เรามีกลยุทธ์ขยายการเติบโตในเมืองไทย ด้วยการทำการตลาดอย่างจริงใจและให้ความรู้เรื่องยางกับผู้บริโภคให้มากที่สุด รวมถึงการร่วมมือกันกับกลุ่มพันธมิตร ไม่ว่าจะเป็นร้านค้าต่างๆ ที่จะเป็นส่วนสำคัญที่จะทำให้สินค้าไปถึงมือผู้บริโภคได้มากขึ้นและรวดเร็ว นอกจากนี้ เรายังมีแผนที่จะมอบประสบการณ์การขับขี่และทดสอบยาง รวมไปถึงการเป็นส่วนหนึ่งของอีเว้นต์ต่างๆระดับโลก บนสนามอันดับ 1 ของประเทศไทย สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต มาให้แฟนๆผู้ใช้บริดจสโตนได้สัมผัสกันอย่างเต็มอิ่ม


ด้วยผลิตภัณฑ์คุณภาพระดับโลกและการร่วมมือกับพันธมิตรที่ดีทั่วประเทศ วันนี้เราพร้อมแล้วที่จะพา บริดจสโตน เข้ามาครองใจผู้ใช้รถจักรยานยนต์ชาวไทย และเชื่อว่าจะสามารถก้าวขึ้นมาเป็นเบอร์หนึ่งในตลาดยางรถจักรยานยนต์ระดับพรีเมี่ยมได้อย่างแน่นอน” นายตนัยศิริ กล่าว

 

ปัจจุบัน บริษัท เพซแม็กซ์ มอเตอร์สปอร์ต จำกัด มีตัวแทนจำหน่ายยางบริดจสโตนกว่า 40 แห่ง ทั่วประเทศไทย เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคอย่างทั่วถึง ติดตามข้อมูลข่าวสารได้ที่www.bridgestonemotothailand.com หรือwww.facebook.com/bridgestonemotothailand  LINE Official : @bridgestonemoto (มีเครื่องหมาย@ นำหน้า)

 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Post Bottom Ad